WHY: อยากเป็นแบ็กแพ็คเกอร์ต้องทำยังไง? Backpacker 101 หนังสือที่ว่าด้วย ‘วิชาเสริมสร้างแรงบันดาลใจ สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวเมืองนอกเอง แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี’ เล่มนี้มีคำตอบ!
ทุกคนอยากออกไปเปิดโลกกว้างผ่านการท่องเที่ยวในประเทศต่างๆ จึงไม่แปลกหากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กระแสแบ็กแพ็คเกอร์จะบูมจนฉุดไม่อยู่ และนี่อาจเป็นที่มาของหนังสือ “Backpacker 101” หนังสือที่ว่าด้วย ‘วิชาเสริมสร้างแรงบันดาลใจ สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวเมืองนอกเอง แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี’
“…นักเดินทางจึงเป็นเหมือนงานอดิเรกมากกว่าจะเป็นอาชีพ และใครๆ ก็สามารถเป็นนักเดินทางได้ ถ้าหากว่าชื่นชอบการตื่นขึ้นมาแล้วพบอะไรบางอย่างที่แตกต่างไปจากชีวิตธรรมดา”
สำหรับหนังสือ Backpacker 101 เป็นผลงานเขียนของคู่สามีภรรยา คุณนุ – อนุพันธุ์ และคุณตาต้า – นิธิธาดา สุขะปิณฑะ กับนามปากกา “TravelKanuman” พร้อมทั้งยังเปิดเพจ ‘TravelKanuman/2 เท้าชาวท่องโลก’ เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์การเดินทางมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ผ่านภาพถ่ายและตัวอักษร จึงไม่แปลกหากประสบการณ์การเดินทางที่พวกเขาสั่งสมจะถูกถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือบนหน้ากระดาษให้เราได้เข้าไปศึกษา เพื่อผันตัวเป็นนักเดินทางตัวจริง
TravelKanuman ได้บอกเล่าถึงจุดเริ่มต้นของหนังสือเล่นนี้ในคำนำผู้เขียนว่า “…เราจึงตั้งใจเขียนหนังสือเล่มนี้ให้เป็นคู่มือสำหรับการเริ่มต้นเดินทางของทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่เพิ่งเริ่มศึกษา เพื่อออกเดินทางครั้งแรก หรือคนที่เดินทางบ่อยอยู่แล้วก็อาจจะอ่านเคล็ดลับต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในการเดินทางครั้งต่อไปได้”
ดังนั้นหากเราจะนิยามหนังสือ Backpacker 101 ว่าเป็นคู่มือการผันตัวเป็นนักเดินทางตัวจริงก็ไม่ผิดนัก แต่ก่อนที่จะออกเดินทางไปสำรวจหนังสือเล่มนี้ เราขอเสิร์ฟน้ำจิ้มด้วยการยกเนื้อหาบางส่วนในหนังสือมาเสิร์ฟ โดยเฉพาะ “10 ข้อดีของการเป็นแบ็กแพ็คเกอร์” ซึ่งเป็นความรู้เบื้องต้นที่นักเดินทางฝึกหัดจำเป็นต้องรู้
01. กำหนดเส้นทางได้เอง บางครั้งอยากจะไปหลายๆ เมืองที่เราสนใจ แต่เส้นทางทัวร์ไม่เอื้ออำนวยเสียเลย อาจเพราะเส้นทางในฝันของเราขายไม่ดีหรือคนหมู่มากไม่ได้สนใจ ปัญหานี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับบักเดินทางด้วยตัวเอง เพราะเราสามารถเลือกเส้นทางด้วยตัวเอง อยากวางแผนแบบไหนก็วางได้เลย ไม่มีอะไรมากำหนด อยากไปสถานที่ที่เป็นรสนิยมส่วนตัว เช่น ไปดูคอนเสิร์ต ไปลุยป่า ไปปีนเขา ก็ทำได้โดยไม่ต้องเกรงใจใคร
02. อยู่นานแค่ไหนก็ไม่มีใครว่า เวลาในการดื่มด่ำของแต่ละคนไม่เท่ากัน บงคนอาจอยากอยู่เมืองเดิมๆ นานเป็นสัปดาห์ แต่บางคนอยากจะไปวันละสองเมือง ข้อนี้เป็นรสนิยมส่วนตัว ว่ากันไม่ได้ ฉะนั้นถ้าเราไปเที่ยวเอง เราก็สามารถกำหนดเวลาที่เหมาะสมกับเราได้อย่างเต็มที่ อยากอยู่ริมทะเลให้ชุ่มปอดก็ทำได้ ที่ไหนไม่ได้สนใจมากก็ไม่ต้องทนฟังไกด์บรรยายนับชั่วโมง
03. มีเวลาเที่ยวมากกว่า ปัญหาใหญ่ของทัวร์หลายๆ เจ้าคือ เที่ยวตั้งแต่แปดโมงถึงหกโมงเย็น จากนั้นก็ต้องกลับที่พัก ทั้งๆ ที่บางทีเราอยากเที่ยวต่อในช่วงกลางคืน หรือบางครั้งอาจอยากออกมาดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ถ้าไปกับทัวร์ก็จะทำแบบนั้นไม่ได้ ดังนั้นถ้าไปเอง เราจะตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนตีห้า จะนอนดูดาวจนถึงตีสาม หรือช็อปยันเช้าก็ไม่มีใครว่า เลือกเวลาได้ตามใจต้องการ
04. ได้ความตื่นเต้น เวลาไปกับทัวร์จะมีคนจัดการทุกอย่างให้เราเสร็จสรรพ ไปว่าจะเป็นรถโดยสาร ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว เรียกได้ว่าไม่ต้องคิดไม่ต้องเตรียมอะไรเองเลย จริงๆ ก็สบายดี แต่การไปเที่ยวเองนั้นจะให้ความตื่นเต้นที่แตกต่างออกไป เพราะเราต้องหาข้อมูลทุกอย่างเอง กำหนดเวลาเอง ทั้งหมดนี้ทำให้มีกิจกรรมระหว่างการเดินทางมากขึ้น และส่วนใหญ่มักจะได้ประสบการณ์ที่ดีเสียด้วยสิ
05. ประหยัดกว่า การไปเที่ยวเองอย่างน้อยๆ ก็ตัดค่าดำเนินการออกไปได้ระดับหนึ่ง เรื่องที่พักหรืออาหาร เราก็เลือกเองแบบที่พอดีตัว รวมๆ แล้วเที่ยวเองมักได้ราคาที่ถูกกว่าไปกับทัวร์เสมอ
06. ได้เที่ยวก่อนจะออกเดินทางเสียอีก ตั้งแต่วินาทีแรกที่เราคิดจะออกเที่ยวเอง ไม่ว่าจะตัวคนเดียวหรือเที่ยวกับเพื่อน วินาทีนั้นเราก็เริ่มออกท่องเที่ยวแล้ว เพราะเราต้องจองที่พัก หาข้อมูล หรือไม่ก็นัดเจอเพื่อนร่วมทริปเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน การเตรียมตัวนี้จะสร้างทั้งความสนุกและตื่นเต้นให้เราตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง นับว่าคุ้มค่ากว่าอยู่แล้วกับการได้เที่ยวก่อนออกเดินทางตั้ง 2-3 เดือน
07. ได้รู้จักคนท้องถิ่น ถ้าไปกับทัวร์ เราคงไม่ได้คุยกับคนท้องถิ่นสักเท่าไร ยกเว้นคุยกับพนักงานโรงแรมและไกด์ แต่ถ้าเที่ยวเอง เราจะได้พูดคุยสอบถามกับคนท้องถิ่นอย่างแน่นอน ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้มีค่ามากมายสำหรับการเดินทาง บางทีเราจะได้ฟังเรื่องเล่าหรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แหล่งซื้ออาหาร ของที่ระลึก ตลอดจนจุดชิมวิวดีๆ ที่นักท่องเที่ยวคนอื่นอาจไม่รู้ แค่นี้ก็คุ้มค่าแล้ว
08. ได้เพื่อนใหม่ๆ การเดินทาง เรามักได้เพื่อนใหม่เสมอๆ โดยเฉพาะการไปพักในที่พักประเภทโฮสเทล ที่มีนักเดินทางมารวมกันอยู่มากมาย ทุกคนล้วนมีประสบการณ์ที่จะมาแชร์กันและพร้อมจะเป็นพื่อนกันเสมอ
09. ได้ภาษา แน่นอนว่าถ้าไปกันเองเราก็ต้องฝึกพูดภาษาก่อนไป โดยปกติก็คือภาษาสากลอย่างภาษาอังกฤษนั่นเอง อย่างน้อยเวลาติดต่อโรงแรมก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษ และเมื่อเราออกไปเที่ยวก็ต้องพบปะผู้คนซึ่งจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษ ดังนั้นถ้าเราได้เดินทางด้วยตัวเองบ่อยๆ รับรองว่าภาษาของเราจะดีขึ้นเองอย่างไม่น่าเชื่อ
10. แข็งแรง อดทน การออกเดินทางเองนั้นบังคับให้เราต้องเดินมากกว่าปกติ แบกของหนักกว่าปกติ และลำบากมากกว่าปกติ แต่ก็เป็นความลำบากที่สนุกและเปิดโอกาสให้เราได้ออกกำลังกายในตัว ทุกครั้งที่กลับมาจากทริป เรามักจะพบว่าร่างกายแข็งแรงและอดทนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
หนังสือ : Backpacker 101
โดย : TravelKanuman
สำนักพิมพ์ : Amarin Travel
ราคา : 225 บาท
ภาพหนังสือจาก www.facebook.com/amarinpublishing