Travel on Budget เงินในกระเป๋ามีไม่มาก แต่อยากพาแฟนไปเดทวาเลนไทน์นี้

TRAVEL ON BUDGET
เงินในกระเป๋ามีไม่มาก แต่อยากพาแฟนไปเดทวาเลนไทน์นี้
@ ซอยนานา – เยาวราช

วาเลนไทน์นี้เชื่อว่าหนุ่มๆ หลายคนอยากพาคนรู้ใจไปเดทรับวันแห่งความรัก เพียงแต่ใกล้กลางเดือนแล้วเงินในกระเป๋าก็มีไม่มาก ไหนจะของขวัญแทนใจที่ต้องซื้ออีก เราเลยคิดหาทางออกมาให้ด้วยการแนะนำ 5 คาเฟ่ในซอยนานา – เยาวราช ที่เก๋ไก๋ทั้งบรรยากาศและเมนูอาหาร แถมยังยังคำนวณค่าใช้จ่ายมาให้คร่าวๆ รับรองเดทนี้กระเป๋าไม่ฉีก

• Wanderlust Coffee & Eatery

:: ค่าอาหารและเครื่องดื่ม (ยังไม่รวม VAT และ Service Charge) เป็นเงิน 480 บาท

เริ่มจากคาเฟ่สีเทาที่เสิร์ฟเสน่ห์ของเมนูบรันช์สไตล์เมลเบิร์น กับคอนเซ็ปต์ “ผู้ที่เสน่หาในการเดินทาง” เพราะที่นี่นอกจากจะเป็นคาเฟ่ที่เปิดต้อนรับเหล่า Café Hopping แล้ว ชั้นบนของอาคารยังเป็นโฮสเทล ส่วนอินทีเดียของร้านนี้เลือกตกแต่งในสไตล์ Modern Loft Industrial in Gray Tone โดยเจ้าของร้านต้องการนำเสนอคาเฟ่ในมุมมองใหม่ ตั้งแต่การเลือกใช้ผนังและเฟอร์นิเจอร์สีเทา ตัดกับสีสันของอาหาร เพื่อชูให้อาหารน่าทาน

ส่วนเมนูอาหารมีตั้งแต่เมนูบรันช์สไตล์เมลเบิร์นชวนอิ่มท้องไปจนถึงเมนูเครื่องดื่มและขนมหวานเบาๆ โดยเมนูบรันช์เป็นเมนูที่ผสมผสานกับเสน่ห์ของอาหารหลายสัญชาติอย่างลงตัว ส่วนเครื่องดื่มโดดเด่นด้วย ‘กาแฟ’ แต่หากไม่ดื่มกาแฟก็ยังมีเครื่องดื่มเมนูอื่นๆ มาเอาใจ ที่สำคัญหลายๆ เมนูยังเป็นเมนูเฮลตี้ในรสอร่อยจนอยากชวนให้ลิ้มลอง

โดยวันนี้เราขอเสิร์ฟเครื่องดื่มซิกเนเจอร์อย่าง The Metro (120 บาท) ช็อตเอสเพรสโซ่ที่นำมาเพิ่มรสด้วยไซรัปส้ม กลายเป็นกาแฟที่เจอความหอมหวานของรสส้มนั่นเอง ส่วนใครไม่ดื่มกาแฟขอแนะนำ Ready Cocoa (140 บาท) อีกหนึ่งเมนูซิกเนเจอร์ที่เข้มข้นด้วยรสช็อกโกแลตแท้ๆ ผสมผสานกับกล้วยหอม ปั่นจนเนื้อละเอียด แต่งขอบแก้วด้วยมะพร้าวคั่ว เป็นเครื่องดื่มแก้วสีแถมยังเฮลตี้อีกด้วย

ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวานที่เชื่อว่าหนุ่มๆ ต้องสั่งมาเอาใจแฟนกับ Skillet Dutch Pancake (220 บาท) แพกเค้กหนานุ่มที่เสิร์ฟมาในกระทะร้อน ท็อปด้วยไอศกรีมวานิลาก้อนโต (แต่สามารถเปลี่ยนไอศกรีมได้นะ) รวมทั้งผลไม้สดตระกูลเบอร์รี่ ชูโรงด้วยกล้วยที่นำไปย่างจนเหลือง ปิดท้ายด้วยน้ำผึ้งเติมหวาน

• Address: 149 – 151 ถนนพระราม 4 ก่อนถึงซอยนานา
• Time: ทุกวัน 8.00 – 20.00 น.
• Facebook: www.facebook.com/onederlust


• 103 – Bed and Brews

:: ค่าอาหารและเครื่องดื่ม (ยังไม่รวม VAT และ Service Charge) เป็นเงิน 270 บาท

ร้านกาแฟสไตล์ Cold Brew ในสไตล์ Chinese Modern เน้นความเรียบง่าย แต่แฝงกลิ่นอายจีนด้วยเฟอร์นิเจอร์และการนำสมุนไพรจีนมาจัดวาง ซึ่งสมุนไพรจีนหรือยาจีนนี้เป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมของซอยนานามาก่อน พร้อมกับเปิดกว้างให้เราสัมผัสบรรยากาศเยาวราชอย่างเต็มที่ด้วยการออกแบบให้เป็นคาเฟ่ open air โดยมีจุดดึงสายตาอยู่ที่แท็ปเครื่องทำกาแฟ Cold Brew ซึ่งมาช่วยเสริมความเก๋ให้ร้าน ส่วนชื่อร้าน 103 มาจากบ้านเลขที่ของตึกนี้ ซึ่งเจ้าของร้านตั้งใจเก็บเสน่ห์ของตึกนี้เอาไว้ให้มากที่สุด

เมนูซิกเนเจอร์ของที่นี่คงหนีไม่พ้นกาแฟสกัดเย็น หรือ Cold Brew ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเมนูซิกเนเจอร์หลักของร้าน โดยเสนอผ่านแท็ปเครื่องทำกาแฟ Cold Brew ซึ่งทำให้กาแฟสกัดเย็นของร้านนี้ให้รสนุ่มละมุน แถมยังสามารถดัดแปลงเป็นกาแฟเมนูอื่นๆ ได้อีกด้วย

โดยเมนูซิกเนเจอร์แนะนำ Nitro Cold Brew (85 บาท) กาแฟสกลัดเย็นที่เสิร์ฟรสชาติแท้ๆ แบบไม่ใส่อะไรเลย เป็นเมนูที่เสิร์ฟให้คอกาแฟตัวจริงได้ลิ้มลอง แต่หากไม่อยากดื่มกาแฟเข้มๆ แนะนำให้ลอง Coffee Tonic – “Som Jeed” (100 บาท) กาแฟที่ผสมผสานกับไซรัปส้มจี๊ด ให้รสหวานอมเปรี้ยวเล็กๆ กับความซ่าจากโซดา ขณะเดียวกันก็ได้รสหอมของกาแฟ ส่วนเมนูขนมของร้านมีไม่มาก แม้ทางร้านจะไม่เน้นเมนูขนมหวาน แต่ก็ยังมีเบเกอรี่รสอร่อยมาให้ทานคู่กัน โดยเราเลือกชิม Brownie (85 บาท) เนื้อนุ่มหนึบ แถมยังให้รสช็อกโกแลตเต็มๆ เพิ่มความอร่อยด้วยซอสคาราเมล

• Address: ปากซอยนานา ติดถนนพระราม 4
• Time: ทุกวัน โดยจันทร์ เวลา 9.00 – 17.00 น. และอังคาร – อาทิตย์ เวลา 9.00 – 22.00 น.
• Facebook: www.facebook.com/103BKK/


• NANA Coffee Roaster

:: ค่าอาหารและเครื่องดื่ม (ยังไม่รวม VAT และ Service Charge) เป็นเงิน 650 บาท

ร้านกาแฟท่ามกลางดอกไม้ เสมือนนั่งจิบกาแฟในเรือนกระจกที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้ดอกไม้ เป็นอีกหนึ่งบรรยากาศที่โดดเด่นและแตกต่างจากคาเฟ่อื่นๆ โดยร้านนี้ตั้งอยู่ชั้น 2 ของขานดอกไม้ชื่อดัง Oneday Wallflowers ซึ่งได้ฝีมือของสไตลิสและเจ้าของร้านดอกไม้ทำหน้าที่อินทีเรีย จึงไม่แปลหาก NANA Coffee Roaster แห่งนี้จะโดดเด่นจนเป็นกระแสอยู่ในโลกโซเชียลในขณะนี้

ส่วนเมนูและเครื่องดื่มของที่นี่โดดเด่นเรื่อง ‘กาแฟ’ เพราะ NANA Coffee Roaster เกิดจากการร่วมมือของโรงคั่วแถวหน้าของไทยกับร้านดอกไม้นั่นเอง โดยที่นี่เน้นเสิร์ฟกาแฟครีเอทใหม่ ซึ่งเป็นกาแฟที่นไปมิกซ์กับวัตถุดิบอื่นจนได้เครื่องดื่มรสอร่อยไม่ซ้ำใคร โดยเฉพาะเมนูซิกเนเจอร์ซึ่งจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปทุกเดือน

อย่างเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เมนูซิกเนเจอร์ของร้านมาในธีม Rose Lemonade จนได้เครื่องดื่มในชื่อ La Boisson de Kanda (250 บาท) ซึ่งผสมผสานความอร่อยจากช็อตเอสเพรสโซ่ ปรุงรสด้วยลิ้นจี่และเลม่อน จนได้เครื่องดื่มกาแฟที่ให้รสเปรี้ยวอมหวานหอมกลิ่นกุหลาบ แต่คอกาแฟที่อยากดื่มกาแฟเข้มๆ แนะนำให้ลอง Drip Coffee (250 บาท) ซึ่งมีเมล็ดกาแฟให้เลือกหลากหลาย ทั้งเมล็ดกาแฟไทยและเมล็ดกาแฟนำเข้า โดยเมล็ดกาแฟจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซึ่งมีขั้นต่ำประมาณ 10 ตัว

ส่วนเมนูขนมหวาน ที่นี่เสิร์ฟเบเกอร์รี่โฮมเมดที่ทำแบบวันต่อวันและทำออกมาเรื่อยๆ เพราะทางร้านมีเชฟขนมหวานสแตนด์บายตลอดวัน ดังนั้นเมื่อเมนูไหนหมดก็จะทำเมนูใหม่ออกมาเรื่อยๆ แบบปอนด์ต่อปอนด์ แนะนำให้ลอง Dark Beer Cake (150 บาท) เค้กเนื้อนุ่มเคี้ยวหนุบหนับให้รสเข้มข้นตามแบบฉบับเค้กดาร์กช็อกโกแลตที่เติมส่วนผสมของเบียร์ ตัดความเข้มด้วยครีมและความเปรี้ยวของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เติมหวานด้วยซอสคาราเมล

• Address: ชั้น 2 ของร้าน Oneday Wallflowers ซอยนานา เยาวราช
• Time: เปิดเวลา 11.00 – 19.00 น. (หยุดวันพุธ)
• FB: www.facebook.com/nanacoffeeroasters/


• Jing Jing Ice-cream Bar and Cafe

:: ค่าอาหารและเครื่องดื่ม (ยังไม่รวม VAT และ Service Charge) เป็นเงิน 290 บาท

อันที่จริงคาเฟ่ไอศกรีม ‘จิงจิง’ ร้านนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ในซอยนานา แต่ก็ไม่ไกลจากซอยนี้นัก สามารถเดินเลาะเลียบจากซอยนานาตามถนนเจริญกรุงได้ เมื่อเดินเข้าสู่ซอยเจริญกรุง 14 เกือบสุดซอยก็จะพบกับคาเฟ่ไอศกรีมที่โดดเด่นตั้งอต่หน้าประตู โดยเฉพาะเมื่อร้านนี้ตกแต่งในบรรยากาศฮ่องกง แฝงความอบอุ่นเป็นกันเองด้วยกลิ่นอายสไตล์ Chinese Loft โดยชั้นล่างเป็นบาร์ไอศกรีมที่อัดแน่นด้วยไอศกรีมโฮมเมดหลากรส ขณะที่ชั้นสองออกแบบให้เป็นพื้นที่รับรองลูกค้า

เมนูเด่นของที่นี่คงไม่พ้นไอศกรีมโฮมเมดหลากรสที่นำมามิกซ์ความอร่อยจนได้เมนูหลากหลาย ซึ่งมีตั้งแต่ไอศกรีมเฮลตี้ไปจนถึงไอศกรีมผู้ใหญ่ที่ผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งไอศกรีมผสมช็อตเอสเพรสโซ่ ส่วนเมนูเครื่องดื่มของที่นี่เน้นกาแฟเช่นเดียวกันกับคาเฟ่อื่นๆ

เมนูแนะนำที่อยากให้ลิ้มลองคือ Affocato – Coconut Ice cream (100 บาท) ไอศกรีมกะทิเข้มข้นที่ให้รสหวาน นำมาผสมผสานกับรสข้มหอมของซ้อตเอสเพรสโซ่ กลายเป็นความลงตัวที่ต้องลิ้มลอง ต่อกันด้วยเมนู Cheese Pie ice – cream (80 บาท) ไอศกรีมชีสสูตรของร้านนำมาเบสความอร่อยกับซอสที่ให้รสเปรี้ยวอมหวาน โดยมี 4 รสชาติให้เลือกชิม

ส่วนเมนูเครื่องดื่ม แม้ร้านนี้จะโดดเด่นด้วยเมนูกาแฟ แต่ก็ยังมีเครื่องดื่มเมนูอื่นๆ ที่อร่อยไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น Salted Cocoa (60 บาท) เครื่องดื่มเฉพาะของร้านนี้กับเครื่องดื่มช็อกโกแลตเข้มข้นที่หอมนม แฝงรสเค็มเล็กๆ หรือจะลอง Millky Caramel (50 บาท) เครื่องดื่มรสนมที่หอมหวานด้วยคาราเมล จนได้เครื่องดื่มรสกลมกล่อมที่ไม่หวานมาก

• Address: ซอยเจริญกรุง 14
• Time: เปิดเวลา 09.29 – 19.29 น. (หยุดวันอังคาร)
• FB: www.facebook.com/JingJingIcecreamBarandCafe/


• Ba hao

:: ค่าอาหารและเครื่องดื่ม (ยังไม่รวม VAT และ Service Charge) เป็นเงิน 992 บาท

ปิดท้ายกันด้วยการดินเนอร์ยามค่ำคืนกับร้าน Ba hao บาร์สไตล์จีนที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมจีนดั้งเดิมจากตึกเก่า ขณะที่ภายในก็ให้บรรยากาศจีนโมเดิร์น โดยเฉพาะไฟนีออนสีแดงที่ช่วยขับให้ร้านโรแมนติด แฝงเสน่ห์จากกลิ่นอายจีนวินเทจ ไม่ว่าจะเป็นหน้าประตูทางเข้าที่เลือกใช้บานเฟี้ยมไม้สไตล์จีน โลโก้ร้านรูปน้ำเต้ากึ่งเลขแปด ซึ่งเป็นเลขมงคลและเป็นเป็นความหมายของชื่อร้าน

เมนูของที่นี่เป็นอาหาร Chinese Street Food ผสมผสานกับอาหารสไตล์คอมฟอร์ทไทย – จีน จนได้เมนูที่ไม่ซ้ำใคร ทั้งหน้าตาอาหารและรสชาติ ขณะที่เครื่องดื่มก็โดดเด่นด้วยค็อกเทลซึ่งครีเอทขึ้นใหม่เช่นกัน โดยดัดแปลงเมนูค็อกเทลแบบตะวันตกให้มีความเป็นตะวันออก จนได้ค็อกเทลที่ผสมผสานเหล้าจีนและสมุนไพรจีนเข้ากับเหล้าฝรั่ง

แนะนำ Duck Wontons (248 บาท) เกี๊ยวเป็ดนุ่ม ๆ ที่อัดแน่นด้วยเนื้อเป็ดเต็มคำ ราดซอสเปรี้ยวจนชุ่ม เพิ่มรสชาติให้เข้มข้นขึ้นด้วยซอสพริกเสฉวน หรือจะสั่งเมนูเบาๆ ทานเล่นอย่าง Sali Salsa (168 บาท) ที่นำฟองเต้าหู้ไปทอดจนเหลืองกรอบ ทานคู่กับซอสซัลซาฟิวชั่นที่ปรับให้อร่อยด้วยการใส่เนื้อสาลี่สด จนได้รสหวานกรอบเข้ากับฟองเต้าหู้ทอดอย่างลงตัว

ส่วนค็อกเทลทางร้านแนะ Forbidden Gold (288 บาท) ซึ่งเป็นค็อกเทลที่นำเหล้าจีนมาเบสกับเบียร์ เสิร์ฟพร้อมบ๊วย โดยเมื่อจิบเครื่องดื่มจนเกือบหมด แนะนำให้เติมเบียร์ที่เสิร์ฟมาพร้อมกันและใส่บ๊วยลงไป จะได้เครื่องดื่มแก้วใหม่ที่มีรสชาติแตกต่างจากเดิม เรียกได้ว่าสั่งแก้วเดียวแต่ได้ดื่มถึงสองแก้วสองรส อีกเมนูแนะนำคือ Harbin (288 บาท) ค็อกเทลรสชาติล้ำๆ ที่ให้ความเผ็ดร้อนแฝงรสเปรี้ยวหวาน เป็นเครื่องดื่มดีกรีแรง เสมือนไปนั่งดื่มในเมืองจีน

• Address: ซอยนานา ถนนไมตรีจิ
• Time: เปิดเวลา 18.00 – 00.00 น. (หยุดวันจันทร์)
• FB: www.facebook.com/8bahao/


Story : Taliw
Photo : Sroisuwan.T

keyboard_arrow_up