กินไปชมไป! อิ่มอร่อยกับร้านอาหารดังประจำย่าน (เจ้าพระยา)
Bangkok Art Biennale 2018
BAB 2018
หากจะมีคำกล่าวที่ว่า “สายน้ำ…ล้วนเป็นบ่อเกิดแห่งอารยธรรม” เชื่อว่าคำกล่าวนี้ก็คงจะไม่เกินจริงสักเท่าใดนัก เพราะเมื่อเราลองมองย้อนกลับไปในยุคโบราณราวๆ หลายพันปีก่อน หลายๆ อารยธรรมที่เป็นต้นแบบให้กับมนุษย์ในปัจจุบัน ล้วนมีความสัมพันธ์และมีจุดกำเนิดมาจากแหล่งน้ำแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น อารยธรรมลุ่มแม่น้ำไนล์ อารยธรรมลุ่มแม่น้ำฮวงโห อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ อารยธรรมไทกริส-ยูเฟรติส ฯลฯ ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยเองที่ต่างมีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับสายน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และทำเกษตรกรรมมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษด้วยเช่นเดียวกัน
ล่าสุดกับ “เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2018” (Bangkok Art Biennale 2018 หรือ BAB2018) ที่ได้เปลี่ยนพื้นที่ริมน้ำที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนานเป็นหนึ่งสถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยของทั้งศิลปินไทยและศิลปินต่างชาติ วันนี้เราจึงไม่พลาดที่จะพาไปชมงานศิลป์และชิมอาหารอร่อยในย่านริมน้ำเจ้าพระยาแห่งนี้กัน
โดยจุดเริ่มต้นของเราในวันนี้อยู่ที่ “รถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีสะพานตากสิน” ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์กแห่งสำคัญที่ชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาที่นี่ เพราะนอกจากจะใกล้แหล่งชุมชนอย่างย่านเจริญกรุงด้วยแล้ว ที่แห่งนี้ยังเป็นจุดเชื่อมต่อของท่าเรือด่วนเจ้าพระยาและเรือข้ามฟากที่จะพาเราไปยังสถานที่เที่ยวสำคัญๆ ต่างๆ ได้อีกด้วย (Asiatique the Riverfront, ICONSIAM, วัดอรุณ, ท่ามหาราช ฯลฯ)
ท่าเรือสาทร (เรือด่วนเจ้าพระยา, เรือท่องเที่ยวเจ้าพระยา, เรือข้ามฟาก)
มีรถสองแถวให้บริการสำหรับวิ่งไปเส้นเจริญกรุง
สำหรับร้านแรกในย่านเจริญกรุงที่จะพาไปชิมก็คือ “ทิพ หอยทอดภูเขาไฟ” ร้านหอยทอดเจ้าเด็ดที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยเจริญกรุง 50 จุดเด่นของร้านนี้อยู่ที่ความสดใหม่ของวัตถุดิบที่เรียกได้ว่าสั่งตรงมาจากทะเลแบบวันต่อวัน โดยเมนูที่เราแนะนำให้สั่งก็คือ “หอยทับหอย” (90 บาท) ที่เป็นการนำหอยแมลงภู่ทอดกรอบมาราดทับด้วยหอยนางรมอีกชั้น จึงทำให้ได้รสชาติที่ผสานความกรอบนอกนุ่มในเข้าไว้กับออส่วนหอยนางรมที่สดฉ่ำได้เป็นอย่างดี
ร้าน ทิพ หอยทอดภูเขาไฟ (หน้าร้านเป็นตึก 1 คูหาเล็กๆ ซ่อนอยู่ในซอยเจริญกรุง 50)
เมนู หอยทับหอย (หอยแมลงภู่ทอดราดทับด้วยหอยนางรม)
ร้าน ทิพ หอยทอดภูเขาไฟ
เปิด-ปิด: จันทร์ – เสาร์ เวลา 11.00 – 20.00 น.
โทร: 0-2233-1116
อิ่มท้องจากร้านทิพ หอยทอดภูเขาไฟแล้ว เมื่อเดินออกมาจะพบกับ ห้างสรรพสินค้า โรบินสัน สาขาบางรัก ที่ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของย่านบางรัก โดยห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ได้เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2535 เรียกได้ว่าเป็นความเจริญยุคแรกๆ ของย่านนี้เลยทีเดียว
ห้างสรรพสินค้า โรบินสัน สาขาบางรัก
เมื่อเดินผ่าน โรบินสัน ขึ้นมาให้มองไปยังถนนฝั่งตรงข้าม เราก็จะพบกับอีกหนึ่งร้านเด็ดในย่านนี้อย่าง “ประจักษ์เป็ดย่าง” ที่อยู่ไม่ไกลเท่าใดนัก
หน้า โรบินสัน รถจะพลุกพล่านอยู่หน่อยๆ
ร้าน ประจักษ์เป็ดย่าง (อยู่ตรงข้ามเยื้องกับ โรบินสัน)
สำหรับ “ประจักษ์เป็ดย่าง” ถือเป็นร้านเก่าแก่อีกร้านในย่านบางรัก โดยเมนูที่มีชื่อเสียงที่สุดของทางร้านคงหนีไม่พ้น “เป็ดย่าง” ที่มีความฟูนุ่ม หนังกรอบกำลังพอดี ซึ่งเมนูที่เราสั่งมาลองชิมในวันนี้ก็คือ “เกี๊ยวหมี่กุ้งเป็ด” (80 บาท) เมนูบะหมี่เส้นเหนียวนุ่มและเกี๊ยวกุ้งชิ้นโตโปะหน้าด้วยเป็ดย่างหนังกรอบที่รสชาติเค็มกำลังดี เรียกได้ว่าอร่อยกลมกล่อมโดยไม่ต้องปรุงเลยทีเดียว
เมนู เกี๊ยวหมี่กุ้งเป็ด
ร้าน ประจักษ์เป็ดย่าง
เปิด-ปิด: ทุกวัน เวลา 08.00 – 20.30 น.
โทร: 0-2234-3755
ซึ่งถ้าหากเราเดินเล่นต่อเนื่องมายังบริเวณ ซอยเจริญกรุง 40 ก็จะพบกับสถานที่จัดแสดงเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2018 ด้วยกันถึง 3 แห่งอย่างอาคาร อีสต์ เอเชียติก โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล และ ศูนย์การค้า โอ พี เพลส
ระหว่างทางจะผ่านโรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก
จุดเด่นของย่านบางรักคือเต็มไปด้วยร้านเครื่องประดับ อัญมณี และหินธรรมชาติ
บริเวณปากซอยเจริญกรุง 40 จะมีคุณลุงยามคอยอำนวยความสะดวกในการโบกรถให้อยู่เป็นประจำ
เดินเข้ามาซอยเจริญกรุง 40 จะพบกับอาคาร อีสต์ เอเชียติก อยู่บริเวณซ้ายมือ
ป้ายสัญลักษณ์บริเวณทางเข้างาน
เมื่อเข้ามาภายในอาคารบริเวณชั้น 2 จะพบกับโซนแสดงผลงานของเหล่าศิลปินอาทิ “Diluvium” ศิลปะจัดวางสุดล้ำของ “Lee Bul” ศิลปินหญิงชาวเกาหลีใต้ที่เนรมิตพื้นที่ภายในอาคารให้ดูแปลกตาไปจากเดิม, “Nothing Is Led Comparable 2018” ของ “Sara Favriau” ประติมากรหญิงชาวฝรั่งเศสผู้ช่ำชองด้านการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะจากวัสดุประเภทไม้, “Pyramid Shape Sculpture” ผลงานประติมากรรมสุดแปลกตาของ “Andrew Stahl” และ “Performing Textiles” ที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องต่างๆในสังคม โดยเฉพาะประเด็นสิทธิสตรี ด้วยการใช้ร่างกายเข้าไปแทนที่เครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้าน ของ “กวิตา วัฒนะชยังกูร” เป็นต้น
ภายในอาคาร อีสต์ เอเชียติก
Diluvium โดย Lee Bul
Nothing Is Led Comparable 2018 โดย Sara Favriau
Pyramid Shape Sculpture โดย Andrew Stahl
Performing Textiles โดย กวิตา วัฒนะชยังกูร
Companion Hands โดย Kata Sangkhae
และเมื่อออกจากอาคาร อีสต์ เอเชียติก ก็จะพบกับ “Lost Dog” ประติมากรรมสุนัขขนาดใหญ่สูงกว่า 3.8 เมตรของ “Aurèle” ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณด้านหน้าของโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ลอย่างโดดเด่น
Lost Dog โดย Aurèle Ricard
ถัดจากบริเวณนั้นเมื่อเดินเลี้ยวซ้ายมุ่งสู่ศูนย์การค้า โอ พี เพลส ก็จะมีงานศิลป์จัดแสดงด้วยเช่นเดียวกัน โดยผลงานเด่นๆ ที่จัดแสดงในนี้ก็มีตั้งแต่ “Jrai Dew: a radicle room” ที่เป็นผลงานจัดแสดงสื่อผสมของกลุ่มศิลปินจากเวียดนาม “Art Labor”, “Listen to the voice my Land Papua” งานจิตรกรรมบนผืนผ้าใบของ “Moelyono”, “QUALITY : quality” ของ “ลัทธพล ก่อเกียรติตระกูล” ที่กระตุ้นให้เรากลับมาย้อนคิดและตั้งคำถามเกี่ยวกับชีวิตรวมไปถึงสิ่งของรอบตัว
ศูนย์การค้า โอ พี เพลส
Jrai Dew: a radicle room โดย Art Labor
Listen to the voice my Land Papua โดย Moelyono
QUALITY : quality โดย ลัทธพล ก่อเกียรติตระกูล
Becoming White โดย Eisa Jocson
ชมงานศิลป์กันพอหอมปากหอมคอก็ขอพาไปเติมความหวานให้กับร่างกายที่ร้าน “Farm to Table organic café” คาเฟ่เล็กๆ ที่ซุกซ่อนตัวอยู่แถวๆ ปากคลองตลาด บรรยากาศภายในร้านให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมาะแก่การนั่งชิล โดยเมนูที่เราเลือกสั่งคือ “ลอดช่อง+ไอศครีม” (75 บาท) ที่เป็นการผสมผสานไอศครีมออแกนิกเนื้อนุ่มเข้ากับความหวานหอมของลอดช่องได้อย่างลงตัว
ร้าน Farm to Table organic café
เมนู ลอดช่อง+ไอศครีม
ร้าน Farm to Table organic café
เปิด-ปิด: ทุกวัน เวลา 10.00 – 20.00 น.
โทร: 0-2115-2625
พักผ่อนกันจนอิ่มหนำสำราญก็สามารถเดินออกมาจากร้านเพื่อไปชมงานศิลป์ได้อีกเช่นกัน โดยบริเวณนั้นจะมีสถานที่จัดแสดงเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2018 อยู่ 2 แห่ง ได้แก่ “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร” (วัดโพธิ์) และ “วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร”
สามารถข้ามสะพานเพื่อเดินตรงไปยังท่าเตียน (วัดโพธิ์) ได้เลย
โดยภายในวัดโพธิ์จะมีงานศิลป์ชิ้นสำคัญๆ ที่จัดแสดงอยู่ด้วยกัน 6 ชิ้น อาทิ “Paths of Faith” ของ “จิตต์สิงห์ สมบุญ” ที่เป็นคอลเล็คชั่นเสื้อคลุมสีขาวที่ถูกปักคำว่า “ศรัทธา” เป็นภาษาไทย จีน อังกฤษ ไว้กลางหลัง, “Zuo You He Che” ของ “Huang Yong Ping” ที่เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวเชิงวัฒธรรมของจีนลงไปในชิ้นงานประติมากรรมสัตว์ในจินตนาการ เป็นต้น
Paths of Faith โดย จิตต์สิงห์ สมบุญ
Zuo You He Che โดย Huang Yong Ping
(เครดิตภาพ: เมธี สมานทอง)
(อ่านเพิ่มเติมได้ที่: จะเป็นอย่างไร? เมื่องานศิลปะถูกจัดแสดงในวัด)
และถ้าดูงานศิลป์ภายในวัดโพธิ์จนเมื่อยแล้วก็สามารถเดินข้ามถนนมหาราชเข้ามายังตรอกเล็กๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีอีกหนึ่งคาเฟ่สุดเจ๋งที่ซ่อนตัวอยู่ในตรอกนี้อย่าง “Blue Whale Café”
ร้าน Blue Whale Café
“Blue Whale Café” ถือเป็นคาเฟ่เล็กๆ ย่านถนนมหาราชที่ตั้งอยู่ในซอยตรงข้ามกับวัดโพธิ์ จุดเด่นอยู่ที่บรรยากาศภายในร้านที่ถูกตกแต่งในโทนสีฟ้าสมชื่อร้าน ด้วยเหตุนี้เราเลยลองสั่งเมนูซิกเนเจอร์อย่าง “นมอัญชัน” (120 บาท) ที่มีสีสันสะดุดตาเหมาะแก่การถ่ายรูปเช็คอินมาลองชิม ซึ่งผลปรากฎว่ารสชาติของนมกับตัวอัญชันนั้นสามารถเข้ากันได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ
เมนู นมอัญชัน
ร้าน Blue Whale Café
เปิด-ปิด: ทุกวัน เวลา 10.00 – 20.00 น.
โทร: 08-1641-4514
ซึ่งถ้าหากกินนมแล้วยังไม่อยู่ท้อง บริเวณท่าพระอาทิตย์ที่อยู่ใกล้เคียงกันก็ยังมีร้าน “คุณแดงก๋วยจั๊บญวน” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในซิกเนเจอร์ของย่านที่ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติก็ต้องแวะมาลิ้มรสและเช็คอินกันดูสักครั้ง โดยเมนูที่เราเลือกสั่งก็คือ “ก๋วยจั๊บญวน” (45 บาท) เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่เด่นด้วยเส้นเหนียวนุ่มและน้ำซุปที่กลมกล่อม อร่อยจนแทบไม่ต้องปรุงเพิ่ม
ร้าน คุณแดงก๋วยจั๊บญวน
เมนู ก๋วยจั๊บญวน
ร้าน คุณแดงก๋วยจั๊บญวน
เปิด-ปิด: ทุกวัน เวลา 11.00 – 21.00 น.
โทร: 0-2282-0568
และถ้าหากใครที่ยังชมงานศิลป์ไม่จุใจก็สามารถขึ้นเรือข้ามฟากไปชมงานศิลป์ฝั่งตรงข้ามได้ โดยจะมีผลงานจัดแสดงอยู่ที่ “วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร” และ “วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร”
Across the Universe and Beyond โดย สนิทัศน์ ประดิษฐ์ทัศนีย์
WHAT WILL YOU LEAVE BEHIND? โดย นีโน่ สาระบุตร
(อ่านเพิ่มเติมได้ที่: จะเป็นอย่างไร? เมื่องานศิลปะถูกจัดแสดงในวัด)
เรียกได้ว่าทั้งอิ่ม ทั้งฟินกับงานศิลป์และร้านอร่อยเจ้าดังที่อยู่รอบๆ แม่น้ำเจ้าพระยากันใช่ไหมครับ? ทั้งนี้นอกจากงานศิลป์บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วนั้น “เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2018” ยังได้จัดแสดงผลงานศิลปะตามจุดสำคัญๆ ที่เป็นแลนด์มาร์กของกรุงเทพฯ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “สุขสะพรั่ง พลังอาร์ต” กว่า 20 จุดยาวๆ ไปจนถึง 3 กุมภาพันธ์ 2562 นี้อีกด้วย
ชาว Fav Forward ที่สนใจ “เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2018” (Bangkok Art Biennale 2018 หรือ BAB2018) สามารถติดตามรายละเอียดความคืบหน้าได้ผ่านทางเว็บไซต์ Fav Forward, บ้านและสวน รวมไปถึงเว็บไซต์กลางของงานอย่าง bkkartbiennale ได้เลยครับ
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก:
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ปักหมุดที่นอนไปดูงาน BAB กับ 5 โรงแรมที่เจ๋งเรื่องดีไซน์และสะดวกเรื่องการเดินทาง
เมื่องานศิลป์บุกไทยกับ 6 คนยิ่งใหญ่ที่สัมผัสได้ ในงาน บางกอก อาร์ต เบียนนา เล่ 2018