หนังสยองขวัญ เกาหลี ที่หลอนไม่แพ้ญี่ปุ่น
หลังจากที่เราเคยเสนอ “หนังสยองขวัญจากญี่ปุ่น” กันไปแล้ว วันนี้เราเลยชวนคุณมาดูหนังสยองขวัญฝั่งเกาหลีกันบ้าง ว่าจะมีเรื่องไหนสั่นประสาทและชวนหวาดผวาเหมือนหนังญี่ปุ่นหรือเปล่า โดยเราขอรวมหนังใหม่ตั้งแต่ปี 2000 ให้ได้ชม …จะมีเรื่องไหนบ้างตามไปดูกันเลย!!
A Tale of Two Sisters (2003)
ภาพยนตร์ที่หลายคนยกให้เป็นหนังสยองขวัญตลอดกาลของเกาหลี โดยหนังเรื่องนี้มีชื่อภาษาไทยว่า ‘ตู้ซ่อนผี’ ออกฉายเมื่อปี 2003 โครงเรื่องของหนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนิทานพื้นบ้านในสมัยราชวงศ์โชซอนเรื่องจังฮวาและฮงรย็อน
เรื่องราวของ 2 สาวพี่น้อง ‘ซูมีและซูยอน’ ที่ถูกแม่เลี้ยง ‘อึนจู’ ทารุณจนตาย โดยเฉพาะคนน้อง ซูยอนที่ถูกจับขังอยู่ในตู้เสื้อผ้าที่เธอหวาดกลัว จนกระทั่งคืนหนึ่งเมื่อมีญาติมารับประทานอาหารที่บ้าน จนพบกับเด็กผู้หญิงใต้อ่างล้างจาน จนเกิดเป็นความหวาดกลัวว่าบ้านหลังนี้มีวิญญาณสิงอยู่ และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นความสยองของหนังเรื่องนี้
ความสนุกของหนังเรื่องนี้นอกจากบทที่ชวนสยองแล้ว คือตอนจบที่เรียกว่าหักมุมแบบไม่เกรงใจคนดู ซึ่งนั่นทำให้ A Tale of Two Sisters ประสบความสำเร็จสูงสุดทั้งรายได้และการวิจารณ์ แถมยังกวาดรางวัลมากมาย ที่สำคัญหนังเรื่องนี้ยังถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างเป็นหนังระดับฮอลลีวู้ดที่มีชื่อว่า The Uninvited
Gonjiam: Haunted Asylum (2018)
หนังสยองขวัญที่สร้างจากเรื่องจริง โดยจุดเด่นสำคัญของเรื่องอยู่ที่สถานที่ซึ่งได้รับการยกให้เป็นสถานที่สยองขวัญอันดับ 7 ของโลกอย่าง ‘โรงพยาบาลจิตเวชกนจีอัม’ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลร้างในเกาหลีเป็นฉากและสถานที่เกิดเรื่องราวชวนผวา
โดยโรงพยาบาลร้างแห่งนี้มีเรื่องเล่าว่า ในปี 1979 โรงพยาบาลแห่งนี้เกิดเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อคนไข้เริ่มทยอยฆ่าตัวตายทีละคน ซึ่งมีเหตุการณ์ฆ่าตัวตายสูงถึง 42 ศพ ขณะที่เจ้าของโรงพยาบาลก็หายตัวไปอย่างลึกลับและทิ้งให้ที่ดินแห่งนี้รกร้าง เหลือไว้เพียงตึกสุดวังเวงชวนขนหัวลุก
ในส่วนของภาพยนตร์เล่าเรื่องของโรงพยายามสยองแห่งนี้ผ่านกลุ่มวัยรุ่นที่เข้าไปในโรงพยาบาลเพื่อจัดทำรายการล่าท้าผี แต่ทันทีที่ทีมงานและแขกรับเชิญได้ก้าวเท้าเข้าสู่โรงพยาบาล ความสยองก็ได้เริ่มต้นขึ้น
The Chaser (2008)
หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังผี แต่เป็นหนังที่มาพร้อมชื่อเสียงเรื่องความโหดแบบเลือดสาด และเป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริงของฆาตกรต่อเนื่องที่ได้ชื่อว่าโหดร้ายที่สุดของเกาหลี
The Chaser เป็นเรื่องราวสไตล์คนดีไล่ล่าคนร้าย เรื่องราวเริ่มต้นจากอดีตตำรวจที่ผันตัวเป็นแมงดาคุมซ่อง แต่แล้วอยู่ๆ ผู้หญิงในสังกัดก็เริ่มหายไปทีละคนจากการรับสายของโทรศัพท์เบอร์หนึ่ง เมื่อเขาสืบสาวจึงพบว่าโทรศัพท์สายนั้นแท้จริงคือฆาตกรรมต่อเนื่อง เพียงแต่ฆาตกรรมต่อเนื่องคนนี้กลับไม่ยอมบอกเบาะแสใดๆ การไล่ล่าหาความจริง เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงคนล่าสุดจึงเริ่มขึ้น
หนังเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี เพราะความโหดร้ายของหนังไม่ใช่วิธีการฆาตกรรมที่โหดเลือดสาด แต่เป็นการเผยให้เห็นด้านมืดของกระบานการยุติธรรมที่ไม่หนักแน่นมากพอ เพียงมุมมองด้านนี้ก็เรียกความหดหู่และหวาดหวั่นในใจของผู้ชมได้แล้ว
The Wailing (2016)
อีกหนึ่งเรื่องที่ถูกยกให้เป็นหนังสยองขวัญเรื่องเยี่ยม โดยได้รับคำชมอย่างล้นหลามจากนักวิจารณ์หนังในเทศกาลหนังเมืองคานส์ หนังเรื่องนี้มีชื่อภาษาเกาหลีว่า ‘Gokseong’ เป็นหนังอันดับที่ 3 ของผู้กำกับ ‘นาฮงจิน’ ซึ่งสร้างชื่อเสียงจากหนังเรื่อง The Chaser
เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านเล็กๆ ห่างไกลแห่งหนึ่งที่อยู่ๆ ชาวบ้านก็เกิดอาการคลั่งและกลายเป็นเหตุฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งในเบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าการฆาตกรรมนี้เกิดจากเห็ดพิษ แต่ยิ่ง ‘ตำรวจจงกู’ สืบลึกลงไปกับพบเรื่องราวชวนลึกลับ โดยเฉพาะเรื่องเล่าแปลกๆ ถึงชายแก่ชาวญี่ปุ่นที่เข้าไปอยู่ในป่า ซึ่งเขาอาจจะเป็นสาเหตุของเหตุการณ์ทั้งหมดก็ได้
นอกจากความโหดร้ายของฆาตกรแล้ว การเล่าเรื่องโดยอาศัยบรรยากาศวังเวงยังช่วยขับให้หนังเรื่องนี้ชวนขนลุกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อหนังได้เปิดเปลือยความจริงอันดำมืดของมนุษย์ แถมผู้กำกับยังกล้าที่จะยังเล่นกับความเชื้อ อย่างผี ปีศาจ พระเจ้า
White: The Melody of the Curse (2011)
หนังผีสยองขวัญแนวคำสาปที่นำเสนอในมุมมองของวงการเพลงเกาหลี หรือ K-Pop โดยเรื่องราวเกิดขึ้นกับ Girl Group วง ‘Pink Dolls’ ที่เพิ่งปล่อยซิงเกิลล่าสุด “White” เพลงดังในอดีตจากศิลปินปริศนาผู้ล่วงลับมารีเมค โดยที่ทุกคนไม่ทราบว่าเพลงนี้เป็น ‘เพลงต้องสาป’ ดังนั้นหลังจากทำเพลงนี้ เหตุการณ์ไม่คาดคิดต่างๆ ก็เกิดขึ้น
ความสยองชวนขนลุกไม่ใช่การนำเสนอผีในรูปแบบน่ากลัว แต่คือความลึกลับของเรื่องราว เมื่อผนวกกับฉากทรมานที่แสนจะโหดเหี้ยม พร้อมทั้งนำเสนอความโหดร้ายของวงการเพลงและเส้นทางการเป็นไอดอลของเกาหลี ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนึ่งหนังสยองขวัญที่เป็นที่กล่าวถึงของผู้ชม
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก:
– www.imdb.com
– th.wikipedia.org
– www.akerufeed.com