รวมหนังสยองขวัญจากญี่ปุ่น ทั้งโหด หลอน ผวา สะเทือนใจ และสั่นประสาทจนขนลุก

รวมหนังสยองขวัญจากญี่ปุ่น
ทั้งโหด หลอน ผวา สะทือนใจ
และสั่นประสาทจนขนลุก

หากพูดถึงหนังสยองขวัญชวนหลอน หนังสัญชาติ ‘ญี่ปุ่น’ คงติดหนึ่งในท็อปลิสต์ เพราะหนังหลายๆ เรื่องของเขาไม่เพียงแต่การเล่าเรื่องที่ดีและเต็มไปด้วยปริศนาชวนติดตาม แต่ยังเต็มไปด้วยความลึกลับและความโหดร้ายที่ชวนสยอง จนหลายๆ เรื่องเราก็ไม่กล้าที่จะนั่งดูคนเดียว และด้วยเหตุนี้เราจึงชวนคุณไปท้าความกล้ากับหนังสยองขวัญหลอนประสาทจากญี่ปุ่น โดยเราคัดหนังสยองขวัญชวนหลอนเรื่องใหม่ๆ ปี 2000 มาให้ท้าให้ดู!!

As The Gods Will (2014)

หนังที่มีชื่อภาษาไทยว่า ‘เกมเทวดาฆ่าไม่เลี้ยง’ หรือบางคนใช้ชื่อว่า ‘เกมเทวดา ผ่าโหดนรก’ เป็นหนังที่สร้างขึ้นจากการ์ตูนมังงะ “เกมเทวดา” (Kamisama no Iutoori Ni) กำกับโดย Takashi Miike ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้กำกับหนังสยองขวัญมือเก๋าของญี่ปุ่น

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจากเด็กหนุ่มมัธยมปลายเกิดเบื่อชีวิต จึงร้องขอพระเจ้าแบบเล่นๆ ว่าช่วยให้ทำให้โลกนี้ไม่น่าเบื่อ และนี่คือจุดเริ่มต้นที่พระเจ้าส่งเกมมาให้เด็กหนุ่มคนนี้เล่น ซึ่งหากแพ้หมายถึงความตาย

ความสยองของหนังเรื่องนี้อยู่ที่เกมที่ใช้ตุ๊กตาหรือของเล่นโบราณญี่ปุ่น อาทิ ตุ๊กตาล้มลุกดารุมะ (Daruma), แมวกวักมะเนะกิเนะโกะ (Maneki-Neko) ฯลฯ โดยผู้ที่เล่นเกมแพ้ต้องตาย แน่นอนวิธีการตายในแต่ละเกมย่อมไม่ธรรมดา เพราะมันเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม แถมยังหักมุมแบบไร้ปราณี

เช่น เกมแรกเริ่มจากตุ๊กตาล้มลุกดารุมะ (Daruma) ที่จะหันหลังให้นักเรียน พร้อมกับออกเสียง (หรือนับ) เมื่อไรที่เสียงหยุดและตุ๊กตาหันมาแล้วพบใครเคลื่อนไหว คนนั้นจะถูกระเบิดหัว เพราะถือว่าแพ้ วิธีการหยุดเกมนี้คือต้องเข้าใกล้ดารุมะ แล้วกดปุ่มปิดสวิตช์ที่อยู่ด้านหลัง แต่กว่าเกมนี้จะจบลง นักเรียนทั้งห้องก็ตายจนเหลือเพียง ‘ชุน ทาคาฮาตะ’ เพียงคนเดียว

แน่นอนว่าเกมที่เล่นไม่ได้มีเพียงเกมเดียว แต่มีหลายๆ เกมกับการฆ่าแบบโหดหลายๆ แบบ ผนวกกับปริศนาที่ชวนสงสัยว่า เล่นเกมนี้ไปเพื่ออะไร และใครเป็นคนคิดเกมนี้ ระหว่างหาคำตอบก็ต้องเล่นเกมแล้วเกมเล่าไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าเกมจะจบลงเมื่อไรที่ไหน

Misumisou (2018)

หนังใหม่ที่เข้าโรงในญี่ปุ่นไปแล้วเมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา ขณะที่บ้านเรายังไม่แน่ใจ แต่มีชื่อภาษาไทยอย่างไม่เป็นทางการว่า ‘ลำนำดอกโศก’ สำหรับหนังเรื่องนี้สร้างขึ้นจากการ์ตูนมังงะชื่อเดียวกัน ซึ่งฉบับการ์ตูนได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหนังสือการ์ตูนสยองขวัญสะเทือนใจ โดยเรื่องราวของ Misumisou เริ่มต้นขึ้นจากการถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียนจนนำไปสู่ความตายของครอบครัว เมื่อเธอรู้ความจริงการแก้แค้นที่โหดร้ายจึงเกิดขึ้น

เด็กสาว Nozaki Haruka ที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองเล็กๆ กับการถูกมองว่าเป็นคนนอกคอก จึงถูกกลั่นแกล้งสารพัดจากนักเรียนหัวโจก โดยเพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง บ้านของ Nozaki Haruka เกิดเพลิงไหม้ แม้ว่าน้องสาวของเธอจะถูกช่วยเหลือออกมาได้ แต่ก็ต้องแบกรับความเจ็บปวดจากบาดแผล ขณะที่พ่อแม่ของเธอต้องจากไปตลอดกาล และนั่นทำให้หัวใจที่เคยเข้มแข็งของ Nozaki Haruka พังทลาย ขณะเดียวกันแก๊งหัวโจกก็เริ่มกลัวความผิดจากการวางเพลิง จึงไปข่มขู่ให้ Nozaki Haruka ฆ่าตัวตายตามครอบครัวไป ซึ่งนั่นทำให้ Nozaki Haruka รู้ความจริง หัวใจที่พังทลายทำให้ Nozaki Haruka เริ่มแก้แค้นโดยใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน

ความเจ็บแค้นที่สั่งสมและหัวใจที่พังทลายของเด็กสาวคนนี้ จึงนำไปสู่การแก้แค้นที่เจ็บแสบกว่าหลายเท่า พร้อมความทุ่มเท่ที่ใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน และนั่นทำให้หนังเรื่องนี้โหดเหี้ยมที่มาพร้อมกับความสะเทือนใจ

Puzzle (2014)

หนังที่มีชื่อภาษาไทยว่า ‘ต่อความอำมหิต’ สร้างจากนิยายที่แฝงความจิตและโหดเหี้ยมเอาไว้ โดยตัวหนังเป็นเรื่องราวการแก้แค้นของชายคนหนึ่งกับวิธีการชวนหลอน เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อมีนักเรียนหญิงคนหนึ่งพยายามฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดอาคารเรียน แม้ภายหลังเธอจะรอดชีวิต แต่ความเจ็บปวดที่เธอได้รับ ไม่ใช่ความเจ็บปวดทางกายแต่เป็นทางใจที่ยากจะเยียวยา

ระหว่างที่เธอรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลก็มีกลุ่มคนที่สวมหน้ากากทานตะวันเข้าแก้แค้นให้เธอ กลุ่มทานตะวันจับครูสาวท้องแก่เป็นตัวประกัน แถมยังทรมานครูอย่างโหดเหี้ยมและถ่ายทอดสดไปทั่วโรงเรียน จุดมุ่งหมายของแก๊งนี้ก็เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมและความจริงจากโรงเรียน โดยพวกเขากำหนดให้คนในโรงเรียนเล่นเกมส์หา Puzzle หรือชิ้นส่วนตัวต่อที่พวกเขาซ่อนไว้ให้พบ มิฉะนั้นครูสาวท้องแก่ต้องตาย

แต่ความสยองเพิ่งเริ่มขึ้น เมื่ออยู่ๆ เด็กนักเรียนชายกลุ่มหนึ่งและผอ.โรงเรียนถูกติดตั้งของเล่นชิ้นน่ารัก แต่เต็มไปด้วยความโหดร้าย เพราะหากใครสวมของเล่นชิ้นนี้ มันจะดูดเลือดและสาดไปทั่ว ใครที่หาทางถอดไม่ได้ก็ต้องตาย แน่นอนว่าการหาวิธีถอดก็คือเกม Puzzle เพียงแต่สถานที่ซ่อนชิ้นส่วนตัวต่อคือเมืองทั้งเมือง

ความสยองชวนโหดของเรื่องกับปริศนาที่ว่าแก๊งทานตะวันคือใครและทำไปเพื่ออะไร คือจุดเด่นของหนังเรื่องนี้

Lesson of the Evil (2012)

เรื่องนี้มีชื่อไทยว่า ‘ครูพันธุ์อำมหิต’ ผลงานกำกับของทาคาชิ มิอิเกะ (Takashi Miike) ผู้กำกับหนังป่วยจิตที่นำเสนอความโหดได้ชวนผวา โดยผลงานชิ้นนี้ก็คงซิกเนเจอร์ของผู้กำกับคนนี้เอาไว้อย่างครบถ้วน

เรื่องราวเริ่มจากมุมมองที่สวยงามของ ‘เฮย์จิ ฮาสุมิ’ คุณครูสอนภาษาอังกฤษหนุ่มไฟแรง ที่ทั้งเก่ง ฉลาด รูปหล่อ แถมยังอ่อนโยน จนเขาเป็นที่รักของนักเรียน แต่ภายใต้หน้ากากที่อ่อนโยนกลับซ่อนความโหดเหี้ยมเกินคนเอาไว้ เพราะเฮย์จิ ฮาสุมิคนนี้คือฆาตกรต่อเนื่องที่สนุกกับการฆ่า โดยเขาเริ่มฆ่าคนตั้งแต่สมัยที่เขายังเรียนอยู่

ด้วยความฉลาดของเขาทำให้การฆ่าแต่ละครั้งแนบเนียนจนไม่มีใครจับได้ เขาได้ติดเครื่องดักฟังเอาไว้ทั่วโรงเรียน เพื่อคอยดักฟังความเคลื่อนไหวของทุกคน จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็ได้ยินบทสนทนาของนักเรียนกับครูถึงคดีฆาตกรรมและการที่เด็กนักเรียนหายไป โดยโยงเรื่องราวมาถึงตัวเอง ดังนั้นก่อนวันกิจกรรมของโรงเรียนที่นักเรียนทุกคนต้องมาค้างที่โรงเรียน เขาจึงวางแผนฆาตกรรมหมู่ กำจัดนักเรียนที่รักของเขา เพื่อปกปิดและลบร่องรอยทั้งหมด

ตลอดเวลาแห่งการฆาตกรรมหมู่ที่ไล่ล่าไปทีละคนกับวิธีการฆ่าที่ไม่เลือก คือความหฤโหดที่หนังเรื่องนี้ทำให้เราผวาและสยองอย่างที่ไม่อาจทนได้

The Last Supper (2005)

หนังที่มีชื่อภาษไทยว่า ‘มื้อสุดท้ายคือเธอ’ เป็นหนังที่มากกว่าคำว่าสยอง เพราะอาจทำให้เรากินข้าวไม่ลงเลยทีเดียว เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของการกินเนื้อมนุษย์สุดสยองของหนุ่มหล่อที่มีจิตไม่ปกติที่ชอบกินเนื้อหญิงสาวเป็นชีวิตจิตใจ

เรื่องราวน่าสยองนี้เกิดขึ้นเมื่อวันหนึ่ง ‘ยูจิ โคโทริดะ’ ศัลยแพทย์หนุ่มหล่อมากฝีมือได้ทำการดูดไขมันของคนไข้สาว ระหว่างที่เขาเอาไขมันที่ดูดออกมาไปทิ้ง เขาก็เกิดสงสัยว่ารสชาติของมันจะเป็นอย่างไร เขาจึงนำไขมันนั้นไปปรุงแล้วพบว่าเป็นอาหารที่มีรสอร่อยแปลกใหม่ ต่อมาเขาก็เกิดสงสัยว่า แล้วเนื้อมนุษย์จะอร่อยมากแค่ไหน โดยหลังจากนั้นไม่นานเขาก็พบกับศพของหญิงสาวที่ผูกคอตาย เขาจึงนำร่างนั้นกลับบ้านไปชำแหละและปรุงเป็นอาหารจานต่างๆ

หลังจากนั้นยูจิ โคโทริดะก็เสพย์ติดการกินเนื้อมนุษย์ แต่การหาซื้อเนื้อมนุษย์คงไม่มีขาย เขาเลยเริ่มใช้เสน่ห์ของตัวเองหลอกล่อสาวๆ เพื่อนำเธอมาเป็นอาหาร โดยเลือกหมอและพยาบาลที่ร่วมงานกัน จุดจบของเรื่องราวนี้จะเป็นอย่างไร อันนี้คงต้องตามดูกันเอง

ความสยองชวนขนลุกของเรื่องนี้คงเป็นฉากการปรุงอาหารจากเนื้อมนุษย์ที่ชวนให้หลายคนพะอืดพะอม ไม่ว่าจะเป็นฉากที่นำไขมันมนุษย์ไปเจียวจนแตกตัว ฉากชำแหละอย่างการผ่าท้องที่ควักเครื่องในออกมาล้าง ฯลฯ แนะนำว่าไม่ควรดูเรื่องนี้ระหว่างกินข้าว

Yogen (2004)

หนังสยองขวัญที่สร้างจากหนังสือการ์ตูนอีกเรื่อง ที่เมื่อมาสร้างเป็นภาพยนตร์ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง โดยใช้ชื่อภาษาไทยว่า ‘รู้ เห็น ตาย’ ลองคิดดูว่าวันหนึ่งระหว่างที่คุณลงไปโทรศัพท์ในตู้โทรศัพท์สาธารณะ โดยปล่อยให้ลูกสาวและภรรยานั่งรออยู่ในรถ ระหว่างที่ทำธุระก็เห็นหนังสือพิมพ์เก่าตีพิมพ์ข่าวว่าลูกสาวตัวเองถูกรถชนตายในวันนี้เวลา 2 ทุ่ม เมื่อหันกลับไปก็เห็นรถบรรทุกพุ่งชนลูกสาวต่อหน้าต่อตาในเวลา 2 ทุ่มพอดี

และนี่คือเรื่องราวความสยองที่เกิดขึ้นกับ ‘ฮิเดกิ’ อาจารย์หนุ่มคนนี้ แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว เพราะหนังสือพิมพ์ประหลาดยังคงตามหลอกหลอนเขา แถมยังค่อยๆ เขาชีวิตคนรอบข้างเขาไปเรื่อยๆ จนเขาและภรรยาที่เลิกรากันไปต้องหาทางยับยั้งมัน

แม้จะมีนักวิจารณ์หลายคนบอกว่าฉากสยองขวัญในหนังมีไม่มาก แต่เมื่อมีสักฉากก็สั่นประสาทได้น่ากลัว แถมความผวาของหนังเรื่องนี้คงเป็นการรู้อนาคตล่วงหน้า แต่เราไม่อาจหยุดยั้งมันได้ ที่สำคัญเมื่อหนังเล่าเรื่องไปจนถึงจุดไคลแม็กซ์และเปิดเผยปริศนาว่าทำไมหนังสือพิมพ์ถึงบอกเหตุการณ์ล่วงหน้าให้รู้จะทำให้คุณอึ้งไปเลย