คนเมืองควรมี “Fitbit Inspire HR” Fitness Tracker ที่ไม่ได้แทร็คแค่การออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป
ลองสังเกตุให้ดีที่ข้อมือของเพื่อนในออฟฟิศ หรือชาวเมืองบนรถไฟฟ้าส่วนใหญ่ 1 ใน 10 คน เราแทบจะเห็นสวมใส่ Fitness Tracker แทนนาฬิกาไปแล้วในชีวิตประจำวัน ถามว่ามันดูคูลเหรอ…อาจไม่ใช่ แต่ถ้าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันหรือไม่นั้น เราว่าตอบโจทย์ตรงจุดเลยทีเดียว ทั้งเรื่องการติดตามกิจกรรมต่างๆ นับก้าวเดิน กิน หรือแม้กระทั่งการนอนหลับ ฉะนั้นถ้าคุณได้รู้จักมันแล้วอาจจะอยากมีไว้ใช้เป็นหนึ่งในไอเท็มโปรด
“Fitbit Inspire HR” Fitness Tracker เหมาะกับใคร
ตอบตามตรงคือเหมาะสำหรับ “คนรักสุขภาพ” และคนเมืองที่อยากให้ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตดีขึ้น เพราะในชีวิตจริงคงไม่มีใครมาบอกว่าวันนี้คุณเดินเยอะแล้ว เบิร์นไปกี่แคลอรี่ แต่ตัวแทร็คเกอร์ จะแจ้งข้อมูลให้คุณทราบทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ การวัดชีพจรอัตราการเต้นของหัวใจแบบ 24/7 พลังงานความแอ็คทีฟในแต่ละวัน จำนวนแคลอรี่ที่เบิร์นไป ฯลฯ
ทำไมต้อง “Fitbit Inspire HR” Fitness Tracker
บอกเลยว่าในตลาดมีตัวแทร็คเกอร์มากมายให้เลือกซื้อ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายบ่อยๆ หรือต้องการลองใช้ในขั้นเริ่มต้น เจ้า “Fitbit Inspire HR” น่าจะเป็นตัวที่ตอบโจทย์ทั้งราคาและฟังก์ชั่นการใช้งาน ราคาอยู่ที่ 3,790 บาท น้ำหนักเบา สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้แบบ 24/7 แคลอรี่ที่ถูกเบิร์นไป จำนวนก้าวเดินของวัน ติดตามคุณภาพการนอนหลับแบบอัตโนมัติ ในด้านการออกกำลังกายยังมาพร้อมโหมดกิจกรรมถึง 15 ชนิด อาทิ การว่ายน้ำ ยกน้ำหนัก วิ่ง ปั่นจักรยาน เป็นต้น สามารถเพิ่มความสนุกให้การออกกำลังกาย ด้วยการตั้งเป้าหมายของเวลา, แคลอรี่ และ ระยะทางได้ โดย Fitbit Inspire HR ได้พัฒนามาจาก Fitbit Alta HR (รุ่นเดิม) ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น กันน้ำได้ การแสดงผลที่ละเอียดขึ้น และ โหมดออกกำลังกาย ซึ่งมีดีไม่แพ้ตัว Charge 3 แต่ราคาดีและเล็กกระทัดทัดกว่า เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่เพิ่งเริ่มต้นใช้งาน
นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน รองรับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้า ข้อความ ไลน์ต่างๆ เมื่อคุณไม่อยู่ใกล้โทรศัพท์ แทร็คเกอร์ก็จะคอยช่วยสั่นแจ้งเตือนได้เช่นกัน
“Fitbit Inspire HR” Performance ประสิทธิภาพในการใช้งาน
เมื่อเทียบสัดส่วนของราคาและฟังก์ชั่น เรารู้สึกว่าสมน้ำสมเนื้อ เพราะนอกจากคุณสมบัติข้างต้นที่รองรับการใช้งานแบบพอดีๆ Fitbit Inspire HR ยังสามารถกันน้ำได้ลึกสูงสุด 50 เมตร ใส่ทั้งว่ายน้ำและอาบน้ำได้ มีการปรับปรุงระบบชาร์จไฟมาใหม่ในลักษณะแม่เหล็ก เพียงประกบเข้ากับหลังตัวเรือนเท่านั้นก็สามารถชาร์จไฟได้ทันที แต่ข้อดีคือการชาร์จแบต 1 ครั้งสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 5 วัน
ภายในกล่อง Fitbit Inspire HR มาพร้อมแถบสาย 2 ขนาด ทั้ง S และ L จึงทำให้เลือกปรับเปลี่ยนสายตามขนาดข้อมือได้อย่างอิสระ พร้อมระบบการเปลี่ยนสายในรูปแบบสลัก เพื่อให้ผู้ใช้งานเลือกเปลี่ยนสายได้อย่างง่ายดาย แต่ถ้าสีหลักๆ ตอนนี้จะมีด้วยกัน 4 สี คือ สีขาว สีดำ สีม่วงและสีแดง
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับคนเมือง คือ
“การติดตามคุณภาพการนอน” ทำไมเราถึงให้ความสนใจกับสิ่งนี้ เพราะในช่วงระหว่างที่หลับเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายบ้าง หรือบางทีนอนเยอะแต่ทำไมยังตื่นขึ้นมารู้สึกเพลียทั้งวันไม่มีแรง จากการติดตามคุณภาพการนอนหลับของแทร็คเกอร์จะแบ่งแยกออกเป็น 2 ประเภทคือ Non – Rem Sleep คือ ช่วงการหลับตื้นไปจนถึงหลับลึก และ Rem Sleep คือการหลับที่วงจรกล้ามเนื้อต่างๆ หยุดทำงาน ยกเว้น หัวใจ กระบังลม กล้ามเนื้อตาและกล้ามเนื้อเรียบ ซึ่งในผู้ใหญ่ควรมี REM Sleep ประมาณ 20% ของการนอนหลับทั้งหมด ซึ่ง REM Sleep จะหมายถึงช่วงที่เราฝันด้วยเช่นกัน นอกจากนี้การเกิดขึ้นในช่วง Non – Rem Sleep ควรมีสลับกันไป 4-6 ครั้งต่อระยะการนอน 1 คืน ถ้าถามว่าการนอนแบบไหนถึงจะเพียงพอ อาจวัดจากสัดส่วนการนอนที่แน่ชัดไม่ได้ แต่สำหรับข้อมูลทั่วไปที่แจ้งไว้คือควรนอน 6-8 ชั่วโมงต่อวัน แต่หลังจากที่คุณใส่แทร็คเกอร์ตัวนี้ แล้วสังเกตุค่าต่างๆ ให้ถี่ถ้วนหลังการตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ก็จะสามารถบอกเหตุผลต่างๆ ในการนอนที่ดีขึ้นได้
สรุป
Fitbit Inspire HR ถือเป็นแทร็คเกอร์รุ่นแรกของตระกูล Inspire ที่ออกแบบดีไซน์มาได้อย่างเหมาะสม ทั้งฟังก์ชั่นการใช้งานง่าย น้ำหนักตัวเรือน และราคา และเชื่อว่าจากจุดเริ่มต้นของคนเมืองที่คิดอยากจะออกกำลังกายอย่างจริงจังแต่คิดว่าไม่มีเวลา เมื่อใช้แทร็คเกอร์ไปสักพัก จะทำให้คุณมองเห็นคุณภาพของการติดตามที่ดีขึ้น และเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพตัวเองมากขึ้น Inspire HR คือคำตอบที่จะทำให้คุณสนุกกับการใช้ชีวิตไปพร้อมกับการติดตามสุขภาพที่แม่นยำ
