คุยเรื่อง ‘กาแฟ’ กับความพิเศษไม่ซ้ำใคร
ท่ามกลางดอกไม้ที่ NANA Coffee Roaster
จากบรรยากาศเก๋ไก๋ชวนนั่งทั้งพื้นที่อินดอร์และพื้นที่เอ้าท์ดอร์ แต่สิ่งที่หลายคนยังไม่รู้คือ ‘กาแฟ’ ของที่ดีก็เจ๋งไม่แพ้กัน เมื่อบรรยากาศร้านมารวมเข้ากับเครื่องดื่มรสชาติดี จึงไม่แปลกหาก NANA Coffee Roaster เป็นร้านกาแฟที่กำลังโด่งดังบนโลกโซเซียลในขณะนี้ …แต่ก่อนจะชวนไปดื่มกาแฟ เคล้าบรรยากาศชิคๆ ขอย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของ Nana Coffee Roaster แห่งนี้กันก่อน
Nana Coffee Roaster เป็นการร่วมมือกันระหว่างร้านดอกไม้ชื่อดัง Oneday Wallflowers กับโรงคั่วอันดับต้นๆ ของไทยที่มีชื่อเดียวกับชื่อคาเฟ่ โดยได้ฝีมืออินทีเรียของคุณลักษณ์ – ณัฐพัชร สุริยะกำพล เจ้าของร้านดอกไม้ Oneday Wallflowers มาเนรมิตชั้น 2 ของร้านดอกไม้ ซึ่งเป็นตึกแถวในซอยนานา ย่านเยาวราชให้กลายเป็นร้านกาแฟน่านั่ง ขณะที่เครื่องดื่มทั้งชาและกาแฟได้ คุณกุ้ง-วรงค์ ชลานุชพงศ์ เจ้าของโรงคั่ว Nana Coffee Roasters มาครีเอทความอร่อย
“กาแฟของเราไม่เหมือนใคร อย่างที่อื่นกาแฟของเขาจะมีคั่วเข้ม ใส่นมข้นหวานต่างๆ และมีกาแฟในร้านแค่ 1-2 ตัว แต่ที่นี่ไม่ใช่ เมล็ดกาแฟขั้นต่ำของเราคือ 10 ตัว แล้วกาแฟพิเศษของเรา ต้องมี Flavor ที่ชัดเจนอย่างน้อย 3 Flavor คือเวลาเรากินกาแฟ เราไม่เคยกินแบบมันมีส้มชัดๆ เราไม่เคยกินมีจัสมินชัดๆ แต่ที่นี่คนกินแล้วรู้เลย หลายคนเลยมองว่าเขาต้องการกาแฟแบบนี้ มันไม่เหมือนที่อื่น
ส่วนเมนูก็แตกต่างไปอีก เราไม่ได้เป็นกาแฟจ๋า แต่เอาอะไรอย่างอื่นมามิกซ์เป็นซิกเนเจอร์ ซึ่งซิกเนเจอร์ของเราก็จะเปลี่ยนไปในทุกๆ เดือน อย่างเดือนที่แล้ว เอาพีช เอาชา earl grey เอาเลม่อนและส้มมามิกซ์กับช็อตเอสเปรซโซ่ ถามว่าทุกคนทานได้ไหม ทานได้ค่ะ เพราะว่ามันทานง่าย เหมือนดื่มม็อกเทล เพียงแต่เป็นกาแฟ” คุณกุ้ง – กานดา โทจำปา หนึ่งในหุ้นส่วนร้านบอกเล่าถึงความพิเศษของกาแฟ ซึ่งเป็นจุดเด่นของร้าน
“เราต้องการให้ลูกค้ามีความรู้ด้วย ลูกค้าที่มาร้านนี้ ถ้าเขานั่งหน้าบาร์ แสดงว่าเขาต้องการถามบาริสต้าเรื่องกาแฟ เราอยากให้ลูกค้ามาที่นี่แล้วรู้สึกเหมือนนั่งร้านค็อกเทล เราถึงใช้เครื่อง Modbar เพราะถ้าใช้เครื่องชงแบบทั่วไป เราไม่สามารถคุยกับลูกค้าได้”
เพราะที่นี่ไม่มีเครื่องดื่มเพียงกาแฟและชา Nana Coffee Roaster จึงครีเอทให้กาแฟและชามีรสชาติที่แตกต่าง โดยไม่จำกัดเพียงเมนูพื้นฐาน โดยเฉพาะเมนูซิกเนเจอร์ของที่นี่จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในแต่ละเดือน อย่างเดือนมกราคมที่ผ่านมา Nana Coffee Roaster เลือกเสิร์ฟกาแฟในธีม Rose Lemonade โดยมีซิกเนเจอร์เป็น “La Boisson de Kanda” (250 บาท) ซึ่งผสมผสานความอร่อยจากช็อตเอสเพรสโซ่ ปรุงรสด้วยลิ้นจี่และเลม่อน จนได้เครื่องดื่มกาแฟที่ให้รสเปรี้ยวอมหวานหอมกลิ่นกุหลาบ
แต่หากคอกาแฟที่อยากลิ้มลองรสกาแฟหนักๆ คุณกุ้งแนะนำให้สั่ง “Drip Coffee” ซึ่งมีเมล็ดกาแฟให้เลือกหลากหลาย ทั้งเมล็ดกาแฟไทยและเมล็ดกาแฟนำเข้า “เมล็ดกาแฟจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ขั้นต่ำก็ประมาณ 10 ตัว อย่าง House Blend ของเราจะมาจาก 5 ประเทศด้วยกัน คือมีเคนยา, เอธิโอเปีย, โคลัมเบีย, บราซิล และกัวเตมาลา ส่วนกาแฟไทยจะเป็นของแม่จันหลวงและเมล็ดกาแฟจาก Nine One ส่วน Single Origin มีตั้งแต่เอธิโอเปีย โคลัมเบีย บราซิล และเกอิชา ซึ่งเกอิซามีหลายตัวเลย”
ส่วนเมนูขนมที่ทานคู่กัน เป็นเบเกอรี่โฮมเมดที่ทางร้านทำเอง โดยความพิเศษของเบเกอรี่ร้านนี้คือทำสดใหม่ และจะอบออกมาเสิร์ฟเรื่อยๆ ตลอดวัน อย่างเมนูที่ลิ้มลองในวันนี้เป็น “Dark Beer Cake” (150 บาท) เค้กเนื้อนุ่มเคี้ยวหนุบหนับให้รสเข้มข้นตามแบบฉบับเค้กดาร์กช็อกโกแลตที่เติมส่วนผสมของเบียร์ ตัดความเข้มด้วยครีมและความเปรี้ยวของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เติมหวานด้วยซอสคาราเมล เข้ากันได้ดีกับเครื่องดื่ม Drip Coffee เข้มๆ
ปิดท้ายด้วยความตั้งใจที่จะเสิร์ฟกาแฟคั่วอ่อนของ Nana Coffee Roaster ว่า “ที่นี่เราถึงใช้กาแฟคั่วอ่อน เพราะลูกค้ากินแล้วมันจะหอม แต่ไม่ได้เข้ม เวลาลูกค้ามา เราบอกลูกค้าก่อนว่ามันไม่ได้เข้มนะ แต่ว่าคุณจะได้ความหอมจากตัวมัน บางคนที่ไม่ทานคั่วอ่อนก็เริ่มทานมากขึ้น ก็เขาก็แบบว่ามันหอมกว่าจริงๆ ด้วย เพราะที่นี่จะไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่ไซรัปเลย นมข้นหวานก็ไม่มี คือเราอยากให้ลูกค้าได้สัมผัสรสชาติกาแฟจริงๆ แต่ถ้าคุณรู้สึกว่ากินแล้ว ขอเติมไซรัปครึ่งปั้มหรือหนึ่งปั้มก็ได้ แต่อยากให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงกาแฟจริงๆ”
NANA Coffee Roaster
• Address: ชั้น 2 ของร้าน Oneday Wallflowers ซอยนานา เยาวราช
• Map: https://goo.gl/maps/8uJoy3F4Jj32
• Time: เปิดเวลา 11.00 – 19.00 น. (หยุดวันพุธ)
• FB: www.facebook.com/nanacoffeeroasters/
Story : Taliw
Photo : Sroisuwan.T