CHATA ความลงตัวของกาแฟ กลาสเฮ้าส์
และกำแพงเก่าอายุ 101 ปี
ลึกเข้าไปทางด้านหลังโรงแรม Baan2459 คือที่ตั้งของคาเฟ่กลาสเฮ้าส์ขนาดย่อมที่อบอวลด้วยกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟ โดยมีกำแพงเก่าอายุกว่า 101 ปีเป็นเสน่ห์ชวนนั่ง “CHATA Specialty Coffee” คือคาเฟ่ในเรือนกระจกที่เรากำลังพูดถึง
แรกเริ่มของการเปิด CHATA Specialty Coffee มีจุดประสงค์เพียงแค่เป็นคาเฟ่ต้อนรับแขกที่มาพักและตอบสนองความเป็นคอกาแฟของตัวเจ้าของโรงแรม คาเฟ่แห่งนี้จึงไม่ได้ตั้งอยู่ด้านหน้าโรงแรมเหมือนคาเฟ่ทั่วไป แต่กลับตั้งอยู่บนพื้นที่ว่างด้านหลังโรงแรม โดยมี “กำแพงเก่าอายุ 101 ปี” เป็นจุดขายที่ชวนให้เราหลงรักคาเฟ่แห่งนี้
คุณเต้ย – นพดล จันทรานภาภรณ์ บาริสต้าและผู้จัดการร้านเล่าให้เราฟังว่า “เขา (คุณสุขสันต์ เอื้ออารีชน เจ้าของโรงแรม Baan2459 และคาเฟ่ Chata) อยากอนุรักษ์อะไรที่เป็นของเดิมไว้ ซึ่งเขาเห็นว่ากำแพงมันสวยดี พอจะทำเป็นคาเฟ่ก็เลยทำกลาสเฮ้าส์ครอบไปเลย โดยที่ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับกำแพงเลย สีที่หลุดก็ให้หลุดไป ซึ่งอย่างที่เห็นว่ากำแพงนี้จะเป็นของเก่าหมด อายุ 101 ปีเท่ากับตัวบ้าน”
เพราะเป็นกลาสเฮ้าส์จึงเปิดรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ โดยมีร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ทำหน้าที่เป็นม่านบังแดดในยามกลางวัน ทำให้ Chata เป็นคาเฟ่ที่มีบรรยากาศสบายๆ เน้นความโปร่งและโล่งเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการเลือกวางโต๊ะตัวใหญ่ที่ทอดยาวตามแนวคาเฟ่เพียงตัวเดียว ล้อมโต๊ะด้วยเก้าอี้สไตล์วินเทจ ด้านหนึ่งของกลาสเฮ้าส์ออกแบบให้เป็นโต๊ะบาร์ และเติมดีเทลด้วยของเก่าและภาพถ่ายที่เล่าเรื่องของสถานที่แห่งนี้ โดยมีกำแพงเก่าเป็นจุดดึงสายตา
โดยชื่อคาเฟ่ “CHATA” มาจากคำว่า ‘ชะตาลิขิต’ ด้วยเพราะโรงแรมและคาเฟ่แห่งนี้เกิดขึ้นจากความบังเอิญ เสมือนโชคชะตาได้กำหนดให้คุณสุขสันต์ เอื้ออารีชนได้มารีโนเวทบ้านเก่าอายุ 101 ที่แต่เดิมเป็นเพียงโกดังเก็บของให้เป็นบูทีคโฮเทลและพบกับพื้นที่ว่างด้านหลังจนเกิดเป็นไอเดียและสร้างคาเฟ่แห่งนี้
“การที่เขาได้มาทำกาแฟสเกลแบบนี้ มีกำแพงเก่าอายุ 101 ปี มันต้องมีเรื่องลงล็อคประมาณ 10 อย่าง ซึ่งการที่ทุกอย่างจะลงล็อคทั้งหมด เปอร์เซ็นต์การเกิดน้อยมาก แต่สำหรับพี่เจ้าของคือลงล็อคทุกอย่างเลยครับ ก็เลยเหมือนว่ามันคือดวงจริงๆ ที่ได้มาอยู่ตรงนี้”
ส่วนเครื่องดื่มหลักของที่นี่ก็คือ ‘กาแฟ’ ที่มีคาแรคเตอร์เฉพาะ เพราะที่นี่มีจุดขายที่ความเป็น Specialty Coffee ซึ่งทางร้านจะเบลนด์เมล็ดกาแฟสำหรับเครื่องดื่มเอสเปรซโซ่เอง โดยเลือกเมล็ดกาแฟ single origin จาก 4 แหล่งมาเบลนด์ นั่นคือ เมล็ดกาแฟไทย, อินโดนีเซีย, บราซิล และเอธิโอเปีย ขณะที่กาแฟดริปจะเลือกใช้เมล็ดกาแฟจากโรงคั่วที่แตกต่างกันไป ทั้งโรงคั่วในไทยและต่างประเทศ โดยจะหมุนเวียนเมล็ดกาแฟทุกสัปดาห์ เพื่อสร้างความแปลกใหม่ไม่จำเจ
“ด้วยตัวพี่เจ้าของโรงแรม เขาเป็นคนที่ชอบทานกาแฟดีๆ อยู่แล้ว เขาก็เลยอยากทำกาแฟของตัวเอง เขาไม่ได้อยากให้ที่นี่เป็นแค่คาเฟ่ที่มีเครื่องดื่มไว้รับรองเฉยๆ แต่เขาอยากให้เป็นคาเฟ่ของโรงแรมที่คนทั่วไปพูดถึงว่าเป็นคาเฟ่ที่มีกาแฟที่ดีด้วย ซึ่งก็เลยกลายมาเป็นชื่อที่เราใช้เป็น Specialty Coffee เพราะว่าเขากินกาแฟจริงจังพอสมควร เขาก็อยากให้ร้านกาแฟนี้เป็นร้านกาแฟที่จริงจังด้วย
และความเป็น Specialty Coffee เราก็จะใช้กาแฟที่เราเบลนด์เอง เพราะคำจำกัดความของ Special Coffee มันน่าจะเป็นกาแฟที่อ้างอิงแหล่งได้ว่ามาจากไหน คนดื่มสามารถรู้ได้ว่าเขากำลังกินอะไรอยู่ เราจึงค่อนข้างพิถีพิถันในการคัดสรรเมล็ดกาแฟและมีหลากหลายให้ลูกค้าเลือกได้”
โดยเครื่องดื่มที่เราได้ลิ้มลองและแนะนำในวันนี้จึงโดดเด่นด้วยรสกาแฟเข้มข้นที่มีเอกลักาษณ์ ไม่ว่าจะเป็น Coffee Latte (100 บาท) และ Drip Coffee (120 บาท) นอกจากนี้ทาง Chata ยังเข้าใจลูกค้าด้วยการเสริมเครื่องดื่มประเภทอื่นหากไม่อยากดื่มกาแฟอย่าง Matcha (120 บาท) และ Cocoa (100 บาท) เป็นต้น
“ในหลายๆ ร้านที่เขาเป็น Specialty Coffee เขาหมายความถึงว่าพิเศษตั้งแต่ตัวกาแฟที่เลือกมาแล้ว และเราเองก็เลือกทุกอย่างมาพิเศษตั้งแต่ต้นเหมือนกัน เพราะฉะนั้นทุกเมนูที่คุณกินมาจากเมล็ดพิเศษที่เราเลือกแล้ว”
CHATA Specialty Coffee
• Address: ภายในโรงแรม Baan2459 ย่านเยาวราช
• Map: goo.gl/maps/AY1ykeTyyxB2
• Time: อังคาร – อาทิตย์ เวลา 7.00 – 15.00 น.
• Facebook: www.facebook.com/chataspecialtycoffee/
