Kurious Café คาเฟ่ไร้กรอบที่เสิร์ฟความอร่อยแบบไม่จำกัด
EAT & DRINK: Kurious Café ร้านอาหารกึ่งคาเฟ่สีเทาไซส์มินิที่ซ่อนตัวอยู่ในโรงแรม IR-ON กับการมุ่งเน้นความอร่อยแบบไร้กรอบจำกัดด้วยความสนุกที่ได้ครีเอทสูตรความอร่อยไปเรื่อยๆ เพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติใหม่แบบไม่มีเบื่อ
“…อยากให้มีความรู้สึกว่าเป็นใต้ถุนบ้านไทยที่คนสมัยก่อนมาอยู่ด้วยกัน ทำโน้นทำนี่ด้วยกัน” หนึ่งในความตั้งใจของการเปิดร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ภายใต้โรงแรม IR-ON ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยสุขุมวิท 36 แห่งนี้ พร้อมกับเสิร์ฟเมนูอาหารที่มุ่งเน้นไปที่รสชาติความอร่อย จนทำให้ Kurious Café กลายเป็นร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ที่ไร้กฎเกณมาตีกรอบความอร่อย
แต่หากเมื่อมองย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของคาเฟ่กึ่งร้านอาหารแห่งนี้คงต้องบอกว่า ‘เพราะที่นี่คือความฝัน’ ของคุณโทนี่ – ทศทอง เลิศวนารินทร์ กับแก๊งเพื่อน คุณปิยะฉัตร บุณยะธีระ, คุณไตรภูมิ ประพนธ์พันธุ์ และคุณเปรมนนท์ เลฺิศพรเจริญ เมื่อจังหวะและเวลาประจวบเหมาะ คุณโทนี่จึงไม่รอช้าที่จะเปลี่ยนพื้นที่ว่างใต้โรงแรม IR-ON เป็นคาเฟ่กึ่งร้านอาหารสีเทาที่โดดเด่นเรื่องอาหารเป็นหลัก
“ชื่อ Kurious ก็มาจากแบ็คกราวของพวกเราที่จบสถาปัตฯ มา เราก็จะมาในแนวออกแบบ คือพยายามที่จะหาอะไรใหม่ๆ เข้ามา อย่างลองประยุกต์สูตรอาหารไปเรื่อยๆ อะไรที่อร่อยก็จับใส่ๆ ก็เลยไม่มีกรอบมากว่าต้องเป็นอาหารแนวไหน อาจจะเป็นแค่ว่าชอบอะไรตอนนั้น คิดว่าอะไรอร่อยก็ทำ”
และด้วยการไม่ตีกรอบให้ความคิดนี่เอง จึงกลายเป็นจุดเด่นของ Kurious Café ที่ได้สนุกกับการครีเอทสูตรความอร่อยไปเรื่อยๆ โดยลูกค้าอย่างเราก็ได้สนุกกับการลิ้มลองรสชาติเมนูแปลกใหม่แบบไม่มีเบื่อ โดยเฉพาะความสนุกจากไอเดียของแขกที่เข้าพักซึ่งมีพื้นเพต่างกัน เมื่อได้พูดคุยจึงเกิดเป็นมิตรภาพลามไปจนถึงการแชร์ไอเดียและแชร์สูตรอาหารกัน
“ผมพยายามมองว่าเมนูที่นี่เป็นฟิวชั่นไทยตะวันตก แต่ว่าเราตีโจทย์คำว่าไทยกว้างเหมือนกัน ถ้าเกิดมีอะไรที่อร่อย เราก็ใส่เข้าไป ไม่เกี่ยงที่ต้องใช้ซอสโซยุญี่ปุ่นบ้าง และสูตรอาหารก็ยังคงปรับต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าร้านจะปิด อะไรที่ไม่ถูกปากถูกคอลูกค้าเราดูเอา พอดูว่าลูกค้ากินไม่หมดก็ปรับออก โดยในทางอุดมคติก็อยากให้เมนูเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา”
โดยเมนูซิกเนเจอร์ที่คุณโทนี่แนะนำเราในวันนี้ เป็นเมนูที่มีมาตั้งแต่เริ่มแรกซึ่งแสดงให้เห็นถึงรสชาติที่ถูกปากสะกดใจลูกค้าจนต้องเสิร์ฟเมนูนี้เรื่อยๆ อย่าง “Spaghetti Tom Yum with Flame – Grilled River Prawn” (390 บาท) สปาเก็ตตี้ต้มยำที่ให้ทั้งกลิ่นและรสต้มยำแบบเข้มข้น โดดเด่นด้วยกุ้งแม่น้ำเนื้อแน่นตัวโตที่เผาจนได้ที่ เป็นเมนูจานอร่อยที่คนชอบกินสปาเก็ตตี้ห้ามพลาด
อีกหนึ่งเมนูซิกเนเจอร์ที่อร่อยไม่แพ้กันคือ “Salmon Toffee with Parmesan Spinach and Roasted Potatoes” (360 บาท) แซลมอนนึ่งที่เคล้าด้วยเครื่องต้มยำห่อในกระดาษทรงท๊อฟฟี่ เสิร์ฟพร้อมด้วยผักโขมอบชีส มันฝรั่งทอด และสลัดผัก เพิ่มความอร่อยด้วยซอสที่เข้ากันอย่างลงตัวกับเนื้อปลาแซลมอน
ส่วนการตกแต่งนั้น Kurious Café โดดเด่นด้วยความดิบจากการเปลือยวัสดุ โดยเฉพาะเมื่อแต่เดิมอาคารแห่งนี้เป็นเพียงอาคารเปล่าที่โดดเด่นด้วยคานเปลือยดิบหยาบ ผนวกกับไอเดียเหล็กดัดของเจ้าของโรงแรมที่นำความถนัดเรื่องเหล็กมาใช้ด้วยการนำความฮิตของการแต่งบ้านเมื่อ 40-50 ปีก่อนมาใช้ตกแต่งที่นี่ โดยดึงแพทเทิร์นของเหล็กดัดของตึกไทยมาเล่นจนทำให้ที่นี่กลายเป็นคาเฟ่สีเทาที่โดดเด่นด้วยปูนและเหล็กอย่างน่ามอง
“มีความดิบ เน้นความดิบ แต่ไม่อยากตีโจทย์ให้เป็นลอฟท์ เพราะตอนนี้ถ้าเป็นลอฟท์คนก็จะมองว่าเป็นเหล็กๆ ไม้ๆ แต่ว่าลอฟท์สมัยก่อนจะเป็นห้องใต้ดาดฟ้าที่ไม่ได้มีการตกแต่งอะไร มีความจริงใจของวัสดุ เราตีความอย่างนั้นมากกว่า อิฐก็คืออิฐ ไม่เท่ากันบ้าง เหล็กคือเหล็ก คานคือคาน ไม่ได้ปกปิดอะไร แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดที่ทำให้คนรู้สึกว่ายังไม่เสร็จ”
นอกจากความโดดเด่นเรื่องดีไซน์และบรรยากาศร้านแล้ว คุณโทนี่ยังตั้งใจให้ที่นี่เป็นคอมมูนิตี้เล็กๆ ที่ไม่จำกัดว่าต้องเป็นร้านอาหารกึ่งคาเฟ่อย่างเดียว “ด้วยความที่แบ็คกราวเรามาแนวออกแบบ ก็อยากจะมีนิทรรศการบ้างเล็กน้อย เราพยายามตีโจทย์ให้เป็นมากกว่าร้านอาหาร เราก็เลยมีการรับจัดอีเว้น มีการจัดเวิร์คช็อปบ้าง อยากสร้างชุมชนมากกว่าเป็นร้านอาหาร อยากให้มีความรู้สึกว่าเป็นใต้ถุนบ้านไทยที่คนสมัยก่อนมาอยู่ด้วยกัน ทำโน้นทำนี่ด้วยกัน”
KURIOUS CAFE
• Address: ซอยนภาศัพท์ แยก 2 สุขุมวิท 36
• Map: goo.gl/maps/2yYPdv3X9uE2
• Time: ทุกวัน จันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 9.00 – 19.00 น. และศุกร์ – อาทิตย์ เวลา 9.00 – 20.00 น.
• Tel: 088 248 4881
• Facebook: www.facebook.com/kuriouscafe/
