Sweet Pista, สุขุมวิท 31, Green Connect ซอยสุขุมวิท 31

SWEET PISTA คาเฟ่บรรยากาศใหม่ที่เสิร์ฟความประทับใจยิ่งกว่าเดิม

Sweet Pista, สุขุมวิท 31, Green Connect ซอยสุขุมวิท 31
Sweet Pista, สุขุมวิท 31, Green Connect ซอยสุขุมวิท 31

SWEET PISTA คาเฟ่บรรยากาศใหม่ที่เสิร์ฟความประทับใจยิ่งกว่าเดิม

EAT & DRINK: เยือนร้านเก่าบรรยากาศใหม่ SWEET PISTA ที่ได้ขยับขยายพื้นที่แห่งความสุขให้กว้างขึ้นกับบรรยากาศผ่อนคลายเรียบง่ายด้วยปูนเปลือยและงานไม้ พร้อมเสิร์ฟเมนูโฮมเมดรสอร่อยที่ยังคงเรียกความประทับใจได้ดีไม่มีเบื่อ

หากใครเป็นแฟนคลับของ Sweet Pista คงทราบกันอยู่แล้วว่าร้านอาหารกึ่งคาเฟ่แห่งนี้ได้ขยับขยายตัว เพื่อเพิ่มพื้นที่แห่งความสุขให้กับลูกค้าทุกคน เราจึงถือโอกาสนี้ชวนคุณผู้อ่านไปสัมผัสบรรยากาศใหม่ที่ยังคงรักษาความประทับใจในรสชาติเอาไว้อย่างเหนียวแน่นของ Sweet Pista กัน

Sweet Pista, สุขุมวิท 31, Green Connect ซอยสุขุมวิท 31

หากนับถอยหลังไปเมื่อ 5 ปีก่อนที่ Sweet Pista เกิดขึ้นนั้น เป็นเพียงร้านคาเฟ่เล็กๆ ที่มีโต๊ะเก้าอี้เพียง 3-4 โต๊ะเท่านั้น แต่ด้วยความใส่ใจและความรักในการทำอาหารและขนมโฮมเมดของคุณเอ้ – ชุติมา บวรรัตนโชติ กับคุณโด่ง – ธรรมวัต อรรถจินดา ก็ทำให้ร้านอาหารกึ่งคาเฟ่แห่งนี้เป็นที่รู้จักและติดอกติดใจของลูกค้าในย่านนี้

และด้วยความหนาแน่นของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ทำให้คุณเอ้และคุณโด่งตัดสินใจที่จะขยายร้านเพื่อรองรับลูกค้า พร้อมทั้งตั้งใจให้ให้ลูกค้าได้เสพย์ความสุขระหว่างการกินอาหารละเมียดขนมหวานได้อย่างยาวนานขึ้น แต่ Sweet Pista ก็ไม่ได้ขยับย้ายไปไหนไกล ยังคงปักหลักอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 เช่นเดิม ที่เพิ่มเติมคือขนาดของร้านที่ขยายใหญ่ขึ้นในบรรยากาศและรสชาติที่เราคุ้นเคย

Sweet Pista, สุขุมวิท 31, Green Connect ซอยสุขุมวิท 31

“เราทำในสิ่งที่เราชอบ เราจะได้รู้ว่าจุดอร่อยมันอยู่ตรงไหน แต่ถ้าเราไปทำในสิ่งที่เราไม่คุ้นไม่ชอบ ทำตามสูตรไป แต่เราไม่รู้ว่าของชนิดนี้รสชาติมันต้องประมาณนี้หรือเปล่า เพราะเราก็ไม่รู้ว่าจุดอร่อยมันอยู่ตรงไหน”

เริ่มจากบรรยากาศร้านที่แม้จะตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยปูนเปลือยและไม้ แต่กลับแฝงเสน่ห์ในบรรยากาศผ่อนคลาย โดยคุณเอ้บอกกับเราว่าการออกแบบและตกแต่ง Sweet Pista ร้านใหม่แห่งนี้ ยังคงยึดความชอบของคุณโด่งและตัวคุณเอ้เป็นหลัก ร้านใหม่นี้จึงมีบรรยากาศไม่ต่างจากกับร้านเดิมเท่าไรนัก “ตั้งแต่เปลี่ยนร้านก็จะเป็นโทนคล้ายร้านเดิม คือจะเป็นปูนเปลือย เราได้แรงบันดาลใจจากญี่ปุ่นซะเยอะ ร้านนี้จึงเรียบๆ ง่ายๆ จะไม่ได้ตามแฟชั่นมาก เป็นปูนเปลือย เป็นไม้ ให้มันดูเรียบง่าย มันจะได้ไม่เบื่อง่าย ดูง่ายๆ สบายตา”

โดยเมื่อเราเปิดประตูเข้าสู่ร้านก็จะพบกับเคาน์เตอร์ขนมหวาน ซึ่งเป็นครัวทำขนมโฮมเมดของคุณเอ้ในบรรยากาศละมุนละไมเจือความหวานจากกระเบื้องและแสงไฟสีเหลืองนวล ถัดไปข้างๆ กันจะเป็นพื้นที่ของบาริสต้ากับเคาน์เตอร์เครื่องดื่มในบรรยากาศดิบๆ พร้อมกันนั้นก็เนรมิตพื้นที่ด้านหลังร้านให้เป็นครัวอาหารของคุณโด่ง ส่วนพื้นที่ต้อนรับลูกค้าก็เลือกที่จะเปิดโล่ง เพื่อโชว์ให้เห็นเสน่ห์ของปูนเปลือยที่ช่วยสร้างบรรยากาศดิบเรียบ ผนวกกับเลือกใช่เฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลหลากเฉด ยิ่งช่วยเพิ่มบรรยากาศอบอุ่นและขับให้ร้านนี้มีบรรยากาศเรียบง่ายตามความตั้งใจยิ่งขึ้น แต่ที่เราชอบมากเป็นพิเศษคงเป็นหน้าต่างกรอบไม้ที่ให้ความรู้สึกเก๋ไก๋ในบรรยากาศญี่ปุ่น โดยเฉพาะเมื่อหน้าต่างกรอบไม้นี้กรุด้วยกระจกใสให้เราได้ทอดมองผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา

ไม่เพียงแต่หน้าตาและบรรยากาศร้านที่ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมเท่านั้น แต่เมนูอาหารของที่นี่ก็คงความอร่อยและตัวตนเอาไว้อย่างเหนียวแน่นเช่นกัน “เราเป็นร้านอาหารโฮมเมด ทำเองหมดทุกอย่าง ทุกอย่างเรียกได้ว่าเป็น real homemade ก็เลยไม่อยากเปิดสาขาที่อื่น การไปเปิดสาขาเพิ่ม มันมีเรื่องคุณภาพอาหารที่ควบคุมยาก แต่เราอยากรักษาคาแรคเตอร์ของเราเอาไว้ ยังเป็นร้านอาหารโฮมเมดจริงๆ”

Sweet Pista, สุขุมวิท 31, Green Connect ซอยสุขุมวิท 31

เมนูที่เสิร์ฟนั้นก็ยกความอร่อยมาจากร้านเดิมและยังคิดสูตรความอร่อยใหม่ๆ มาเสิร์ฟเพิ่มเติมอีกด้วย โดยเฉพาะเมื่อคุณเอ้และคุณโด่งได้เนรมิต Sweet Pista โฉมใหม่ให้ครบครันความอร่อยยิ่งกว่าเดิมด้วยการเพิ่มจำนวนเมนูคาวหวาน เพื่อตอบรับกับความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น

ส่วนเมนูที่ทางคุณเอ้และคุณโด่งแนะนำให้เราลิ้มลองในวันนี้ก็คือ “ข้าวหมา” (100 บาท) เมนูบุกเบิกที่ยังคงความนิยมมาตลอด 5 ปี เป็นเมนูหมูสับคั่วกระเทียมจนแห้งกรอบ แล้วนำมาคลุกกับข้าวสวยร้อนๆ ทานพร้อมไข่ดาวและพริกน้ำปลา ซึ่งเมื่อมีข้าวหมาแล้ว ย่อมมี ‘ข้าวแมว’ ข้าวคลุกปลาทูเป็นเมนูคู่กันอีกด้วย

อีกหนึ่งเมนูที่ต้องยกนิ้วให้ความอร่อย โดยเฉพาะคนชอบทางแซนวิชและเบคอนกับ “Twin Cheese Thick Bacon Jalapeno Sandwich” (280 บาท) ความพิเศษของเมนูนี้ นอกจากขนมปังโฮมเมดที่ลงมือทำเองแล้ว ก็คือเบคอนที่ทางร้านสั่งตัดพิเศษจนได้เบคอนหนาเต็มคำ และการสั่งติดพิเศษนี้ยังทำให้ได้เบคอนในส่วนที่กำลังอร่อย เติมมิติให้รสชาติด้วยพริกจาลาปิโนสไตล์เม็กซิกัน เสิร์ฟพร้อมกับสลัดผักสดแก้เลี่ยน หรือจะจิบคู่กับเครื่องดื่ม “เสาวรสโซดา” (95 บาท) ที่ให้รสเปรี้ยวอมหวานและซ่าด้วยโซดาก็เข้ากันอย่างลงตัว

ส่วนขนมหวานนั้น คุณเอ้แนะนำให้เราลิ้มลอง “วาฟเฟิลกล้วย” (185 บาท) ที่คุณเอ้คิดและทดลองสูตรด้วยตัวเอง จนได้วาฟเฟิลที่มีความบางกรอบ แต่ให้รสเค็มนิดๆ เพื่อสามารถนำไปใช้ทำเมนูอาหารคาวได้ด้วย เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมโฮมเมดลูกโต และมีเครื่องเคียงเป็นกล้วยหอมผลใหญ่ที่เคลือบด้วยน้ำตาล เพิ่มความหอมหวานอีกนิดด้วยน้ำผึ้งป่าสีทองใส

แม้ Sweet Pista จะโดดเด่นเรื่องขนมเค้กโฮมเมดฝีมือคุณเอ้ แต่เมื่อขยับขยายร้าน คุณเอ้จึงได้เพิ่มเติมเมนูขนมหวานอีกหลายชนิด อย่างเมนูน้ำแข็งใสที่คงคาแรคเตอร์ของ Sweet Pista อย่างเหนียวแน่น ซึ่งคุณเอ้เล่าให้ฟังว่า “ขนมหวานจะมีเค้กเป็นหลัก เป็นเค้กโฮมเมด เมนูอื่นเราก็ค่อยๆ เติมมาเรื่อยๆ อย่างตอนนี้จะมีน้ำแข็งใสสไตล์โฮมเมดที่มีคาแรคเตอร์ของร้านพี่ เป็นน้ำแข็งใสแต่งโมหน้าปลาแห้ง คือเมนูนี้เป็นอาหารไทยโบราณ แต่เราเอาแต่งโมร้อยเปอร์เซ็นต์เอามาแปรรูปเป็นน้ำแข็งใสทานคู่กับปลาแห้ง แล้วก็มีน้ำแข็งใสรสเมล่อน ซึ่งเราก็ให้เลือกทานคู่กับ parma ham เมนูนี้จะเป็นสไตล์อิตาเลียน” คุณเอ้ยังกระซิบบอกกับเราอีกว่าขนมหวานและเครื่องดื่มของที่นี่จะไม่เน้นหวานมาก แต่หากใครชอบทานหวานก็สามารถเติมหรือบอกได้เช่นกัน

“ร้านใหม่นี้จะมีสไตล์ที่คล้ายๆ เดิม ส่วนขนม ก่อนหน้านี้จะมีแต่เค้ก เนื่องด้วยพื้นที่จำกัด พี่ก็เลยไม่มีพื้นที่เตรียมของมากมาย แต่ว่าตอนนี้มันก็เหมือนมีสัดส่วนมากขึ้น การที่ร้านมีฟังก์ชั่นมากขึ้น มีเคาน์เตอร์ขนม มีเคาน์เตอร์เครื่องดื่มชัดเจน ก็ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเป็นร้านมาขึ้น อย่างร้านเดิมคนเยอะ บางคนมาแล้วก็ไม่ได้กิน บางคนเห็นลูกค้ามายืนรอ เขาก็รีบกินรีบไป แต่พอมันเป็นร้านที่ครบทุกอย่าง ลูกค้าเห็นก็เหมือนนั่งกินข้าวเสร็จกินขนมต่อ ดูมันผ่อนคลายกว่าร้านเดิม มีออฟชั่นมากขึ้น ก็ทำให้ลูกค้าสนุกกว่าเดิม”

Sweet Pista, สุขุมวิท 31, Green Connect ซอยสุขุมวิท 31

SWEET PISTA
• Address: โครงการ Green Connect ซอยสุขุมวิท 31
• Map: https://goo.gl/maps/VpS1QwTePVy
• Time: 11.00 – 22.00 น.
• Tel: 02 662 2866
• Facebook: www.facebook.com/sweetpistabangkok/

Story : Taliw
Photo : Wara Suttiwan
keyboard_arrow_up