“เสพย์บาร์” เสพย์เสน่ห์ความเป็นไทย เคล้าความสนุกจากยาดอง

คงไม่มีบาร์ไหนโดนใจเราเท่า “เสพย์บาร์” (Sape Bar BKK) บาร์สไตล์ไทยบนถนนพระสุเมรุที่นำเสนอเสน่ห์ความเป็นไทยในมุมมองที่ดูวัยรุ่นขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ เครื่องดื่ม และดนตรี จนเราอดไม่ได้ที่จะให้สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งแฮงค์เอ้าท์ที่ต้องชวนแก๊งเพื่อนไปโดน

“อยากให้ร้านเป็นที่วัยรุ่นเข้าถึงได้ มันก็เลยไม่ออกไทยจ๋ามาก พยายามให้ดูมีความทันสมัยขึ้นมา ด้วยการเล่นสีให้ฉูดฉาดนิดนึง แต่ก็ยังมีของสังสรรค์ที่ยังคงความเป็นไทย แค่ทันสมัยขึ้น” คำบอกเล่าถึงคอนเซ็ปต์ร้านจากคุณตังค์ – ธนพล แสงสวัสดิ์

“อยากได้ร้านที่ดูไทย แต่ว่าโมเดิร์น ให้เข้าถึงวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ได้”

แต่เมื่อเราย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นก่อนจะมาเป็นบาร์สไตล์ไทยแห่งนี้ คุณตังค์เล่าให้ฟังว่า แรกเริ่มบาร์แห่งนี้ตั้งใจให้เป็นสถานที่ Support ลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้าพัก Guest House จึงเลือกเสิร์ฟความเป็นไทยให้คนต่างชาติได้สัมผัสในบรรยากาศที่แตกต่าง ทั้งในด้านการแต่งร้าน รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่ม โดยดึง “ยาดอง” เครื่องดื่มที่เกิดจากภูมิปัญญาไทยมานำเสนอ ทั้งในรูปแบบดั้งเดิมขนานแท้ และยาดองแปรรูปให้ดื่มง่ายขึ้น

“ชื่อร้านมาจากคำพูดติดปาก เวลาเราไปกินเหล้า ก็พูดว่าไปเสพย์ไหม เหมือนเป็นคำที่เรียกกันอยู่แล้ว พอทำร้านนี้ก็เลยเอามาเป็นชื่อ เป็นคำที่คุ้นเคย และเราเอามาใช้พลิกแพลงได้หลายอย่าง เช่นเสพย์เครื่องดื่ม เสพย์อาหาร เสพย์บรรยากาศ เสพย์ดนตรี”

เริ่มจากบรรยากาศร้านที่รีโนเวทอาคารหลังนี้ให้โดดเด่นตั้งแต่ภายนอก โดยตึกแถวหลังนี้มาพร้อมความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมที่เลียนแบบป้อมพระสุเมรุ ขณะที่หน้าร้านของเสพย์บาร์จัดวางแคร่และขันโตก พร้อมหมอนขิด ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ชวนคิดถึงชานบ้านในอดีต

ส่วนภายในร้านแต่งแต้มความเป็นไทยเคล้าความโมเดิร์นอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นมุมถ่ายรูปชิคๆ ที่จัดหาเฟอร์นิเจอร์ประเภทสานมาจัดวาง ขณะเดียวกันก็เข้ากันอย่างลงตัวกับเคาน์เตอร์บาร์ดีไซน์โมเดิร์น เติมความเป็นวัยรุ่นด้วยการเล่นกับสีสันและแสงไฟที่ฉูดฉาด ทั้งไฟนีออนสีแดงตัดกับสีเขียวของเคาน์เตอร์ หรือผนังด้านหนึ่งที่ติดลวดลายคล้ายหน้านิตยสารไทยในอดีตในสีสันจัดจ้านเช่นกัน ที่สำคัญหน้าเคาน์เตอร์ยังจัดวางโถยาดองไว้ข้างหน้าอย่างโดดเด่น

เสพย์ยาดอง (200 บาท)

“เครื่องดื่มยาดองของเราจะเป็นยาดองสมุนไพรที่นำมาผสมกับ Infused ต่างๆ ค่อนข้างเยอะ มีทั้งเครื่องดื่มที่เราเอายาดองมาปรับรสชาติแล้ว แต่ก็มียาดองสูตรออริจินอลอยู่ด้วย”

คุณตังค์บอกกับเราว่าเครื่องดื่มยาดองของที่นี่มีทั้งยาดองสูตรดั้งเดิม โดยเสิร์ฟ 4 สูตรด้วยกันคือ โด่ไม่รู้ล้ม ม้ากระทืบโรง กำลังช้างสาร และนารีรำพึง ขณะเดียวกันก็นำยาดองมาปรับสูตรด้วยการผสมผสานกับคลาสสิกค็อกเทลจนได้รสชาติร่วมสมัยที่คนรุ่นใหม่ดื่มง่ายขึ้น แถมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บางตัวยังนำผลไม้ไทยมาดองจนได้รสชาติที่มีเอกลักษณ์

เริ่มจากเมนูแรก “เสพย์ยาดอง” (200 บาท) ยาดองสูตรพิเศษที่ทางร้านดองขึ้นมาเอง จนได้เครื่องดื่มรสอร่อยที่มีเอกลักษณ์ เสิร์ฟพร้อมมะม่วงดอง พริกเกลือ และน้ำใบเตย ซึ่งเครื่องเคียงที่เสิร์ฟนี้เป็นการนำวัฒนธรรมการดื่มยาดองขนานแท้ของคนไทยมาเสิร์ฟนั่นเอง เพียงแต่เปลี่ยนยาดองรสออริจินอลให้เป็นยาดองสมัยใหม่ที่ดื่มง่ายขึ้น

ลงดอย (220 บาท)
เสพย์ ออน เดอะ ร็อค (180 บาท)

ต่อกันด้วย “ลงดอย” (220 บาท) เมนูซิกเนเจอร์ตัวใหม่ที่นำยาดองมาผสมผสานกับคลาสสิกค็อกเทลอย่าง Campari , Vodka และ Pandan infused จนได้เครื่องดื่มแก้วคลาสสิกที่ล้ำด้วยรสชาติเข้มๆ หรือจะลอง “เสพย์ ออน เดอะ ร็อค” (180 บาท) เครื่องดื่มที่ทางร้านดองขึ้นมาเอง โดยนำผลไม้ไทยอย่างกระท้อนมาดองและผสมผสานกับ infused อื่นๆ จนได้เครื่องดื่มเข้มแต่นุ่ม และมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์

อีกหนึ่งเมนูที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างขนมหวานกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่าง “เงาะป่า” (180 บาท) โดยมีเฉาก๊วยเป็นตัวชูโรง เพิ่มความหวานผ่านเหล้า Kahlua ซึ่งเป็นเหล้ากาแฟและเหล้า Baileys ที่ให้รสคาราเมล พร้อมกับโรยน้ำตาลทรายแดงเอาไว้ด้านบน จนได้เมนูขนมหวานกึ่งเครื่องดื่มที่ลงตัว

เงาะป่า (180 บาท)
ไก่ผัดเบียร์ (150 บาท)

ส่วนเมนูอาหารอิ่มท้องก็มีทั้งอาหารจานเดียวและเมนูกับแกล้ม โดยยังคงนำเสนอความเป็นไทยผ่านรสชาติไทยๆ อย่าง “ไก่ผัดเบียร์” (150 บาท) ที่นำเนื้อไก่มาผัดกับเบียร์จนทำให้เนื้อไก่นุ่มลิ้น ปรุงรสสไตล์ฟิวชั่นที่ทานได้ทั้งลูกค้าไทยและลูกค้าชาวต่างชาติ เป็นเมนูทานเพลินๆ แบบไม่มีเบื่อ

แต่เมนูพิเศษที่ครีเอทขึ้นโดยเฉพาะคือ “เข้หนุ่ม” (150 บาท) เมนูที่คุณตังค์ตั้งใจครีเอทขึ้นเพื่อเสิร์ฟความแปลกใหม่ให้ลูกค้าชาวต่างชาติ รวมทั้งคนไทยไม่เคยลิ้มลอง เพราะเมนูนี้เป็นเนื้อจระเข้ส่วนบ้องตัน (หาง) ที่นำมาทอดกรอบ เสิร์ฟพร้อมน้ำพริกหนุ่ม กลายเป็นเมนูซิกเนเจอร์ที่เรียกความสนใจและชวนลิ้มลอง

เข้หนุ่ม (150 บาท)

ปิดท้ายกันด้วยดนตรีสดที่ทางร้านยังคงคอนเซ็ปต์เอาไว้อย่างเหนียวแน่นด้วยการนำเครื่องดนตรีไทยมาเล่นคู่กับเครื่องดนตรีสากล โดยเพลงที่เลือกมาเล่นก็มีทั้งเพลงไทยเดิม เพลงสากล ฯลฯ รวมทั้งเพลงลูกค้ารีเควสมา โดยจะเล่นทุกวัน ยกเว้นวันพฤหัสบดี

Sape Bar BKK
• Address: ถนนพระสุเมรุ (ใกล้พิพิธภัณฑ์บางลำพู)
• Map: https://goo.gl/maps/3ZrL5YrPPQ22
• Time: เวลา 18.00 – 01.00 น. (ปิดวันจันทร์)
• Tel: 098 956 0088
• FB: www.facebook.com/sapebarbkk/

Story: Taliw
Photo: Wara Suttiwan

keyboard_arrow_up