สิ่งที่ต้องรู้และเตรียม
ก่อน “สัก” ความเท่บนเรือนร่าง
หลายคนเริ่มอยากเติมแต่งความเท่บนเรื่องราวผ่านสิ่งที่เรียกว่า “รอยสัก” แต่ก่อนที่จะเดินดิ่งไปร้านสักเลย ลองมาดูสิ่งที่ต้องรู้และการเตรียมตัวกันก่อน เพื่อให้รอยสักที่ตรงใจ เพราะรอยสักจะอยู่กับเราตลอดกาล (แม้ปัจจุบันจะมีร้านรับลบรอยสักก็ตาม) และปลอดภัยที่สุด
มั่นใจแล้วว่า ‘ชอบจริงๆ’
อย่าสักตามกระแสหรือสักตามเพื่อน แต่อยากให้แน่ใจก่อนว่าการที่คุณเลือกสัก เกิดจากความชอบจริงๆ ไม่ใช่เพียงชอบความแบบชั่วครั้งชั่วคราว หรือแค่อยากเท่ตามเพื่อนเท่านั้น
หากแน่ใจว่าอยากมีรอยสักสวยๆ บนเรือนร่างจริงๆ แล้ว ขั้นตอนต่อมาคือ ‘ลวดลาย’ ที่เลือกสัก ซึ่งการเลือกรอยสักเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ที่คุณควรให้ความสนใจ หลายคนอาจเลือกรอยสักจากความชอบ บางคนเลือกจากความหมาย ฯลฯ ไม่ว่าจะเลือกจากอะไร หากคุณชอบรอยสักนั้นจริงๆ ก็ไม่ผิด
เตือนอีกนิดว่าหากคิดสักเป็น ‘คำหรือประโยค’ ไม่ว่าจะภาษาไทยหรือสากล อย่าตรวจสอบว่าคำนั้นสะกดถูกหรือไม่ นอกจากนี้อาจต้องแน่ใจด้วยว่ารอยสักที่คุณเลือกนั้นจะคงความเท่อยู่เสมอ แม้สภาพร่างกายและผิวหนังจะเปลี่ยนไป ส่วนใครคิดอยากสัก ‘ชื่อแฟน’ หรือ ‘สักรูปใบหน้าของแฟน’ คุณต้องมีแผนรับมือในวันที่คุณอาจเลิกรากับเขาไว้ด้วย หากจากกันด้วยดี รอยสักนั้นจะกลายเป็นความทรงจำดี แต่หากเลิกรากันด้วยไม่ดี รอยสักนั้นจะกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้คุณเจ็บปวดอยู่เสมอก็ได้
>>> รอยสักแบบไหนที่เหมาะกับผู้ชาย สักแล้วไม่มีวันเสียใจ click!
>>> 10 ไอเดียรอยสักสไตล์ Geometric เรียบๆแต่แฝงไว้ด้วยความหมาย click!
กำหนดจุดบนร่างกาย
หลังจากได้รอยสักที่มั่นใจว่าอยากให้ติดบนเรือยร่างแล้ว ต่อมาคือการเลือกตำแหน่งบนร่างกาย กระซิบสักนิดว่า ไม่ใช่ว่ารอยสักอะไรจะสักจุดไหนก็ได้ แต่รอยสักบางลวดลายจะสวยที่สุดก็ต่อเมื่ออยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังต้องดูขนาดของรอยสักด้วย
หากเป็นลวดลายที่ต้องใช้พื้นที่บนร่างกายมาก อาจต้องเลือกสักที่หลัง ต้นแขน ต้นขา ฯลฯ ส่วนตำแหน่งข้อมือและข้อเท้า เป็นอีกตำแหน่งที่นิยมสักกัน แต่อย่าลืมว่าทั้ง 2 ตำแหน่งนี้เราใช้ในชีวิตประจำวันบ่อย ทำให้รอยสักจางได้ง่ายกว่าตำแหน่งอื่น ดังนั้นการดูแลจึงต้องใส่ใจกว่าตำแหน่งอื่นๆ
อย่าลืมประเมินความอดทนของตัวเอง เพราะรอยสักยิ่งใหญ่ สียิ่งเยอะ ก็ยิ่งเจ็บ
ข้อแนะนำอีกสิ่งหนึ่งที่ควรรู้คือ การสักแต่ละลวดลายย่อมมีความเจ็บปวด ยิ่งลวดลายใหญ่ๆ สีเยอะๆ ยิ่งเจ็บนานแน่นอน ดังนั้นอย่าลืม “ประเมินความอดทน” ของตัวเองเอาไว้ด้วยว่าจะสามารถทนความเจ็บได้มากแค่ไหน หากคิดว่ามีความอดทนต่อความเจ็บน้อย อาจเริ่มสักรอยแรกที่มีขนาดเล็กก่อน นอกจากจี้ตำแหน่งที่เลือกก็มีผลต่อความเจ็บด้วยเช่นกัน หากเป็นตำแหน่งที่บอบบางอย่างกกหูหรือหลังใบหูก็จะเจ็บกว่าบริเวณอื่นๆ
นอกจากการประเมินความอนทนต่อความเจ็บปวดของตัวเองแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนมักมองข้ามคือ “การแพ้ของผิวหนัง” ก่อนไปสักอยากแนะนำให้ไปตรวจว่าผิวหนังของคุณจะมีอาการแพ้หมึกหรือสารเคมีตัวไหนบ้างไหม เพราะหากเกิดอาการแพ้ระหว่างสัก จะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากขึ้นมาทันที เพราะจะสักต่อก็คงไม่ไหว
เสิร์ชหาร้านที่มั่นใจ ทั้งฝีมือและความปลอดภัย
เมื่อมั่นใจในทุกสิ่ง ทั้งรอยที่จะสักและตำแหน่งบนร่างกายแล้ว สิ่งต่อมาคือการมองหาร้านและช่างสักเก่งๆ แน่นอนว่าใครๆ ก็อยากได้รอยสักที่สวยเท่จากช่างฝีมือดี ดังนั้นจึงต้องเตรียมใจไว้หน่อยว่ายิ่งช่างสักเก่งมากเท่าไร ค่าใช้จ่ายก็ยิ่งสูงขึ้นตามฝีมือและประสบการณ์ของช่างด้วย
นอกจากนี้อย่าลืมเช็คดูว่าช่างสักที่เราเลือก เขาถนัดหรือเชี่ยวชาญประเภทงานที่เราเลือกหรือเปล่า แต่หากไม่มีช่างสักในใจ แนะนำให้เลือกช่างที่เชี่ยวชาญงานสักประเภทที่เราอยากได้จะดีกว่า เมื่อเลือกช่างแล้ว อย่าลืมเลือกร้านที่มีความปลอดภัยด้วย ทั้งในเรื่องอุปกรณ์ที่ใช้ หมึกและสารเคมีที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง เพราะมันคงไม่คุ้มค่าหากได้รอยสักเท่ๆ ที่แถมโรคมาด้วย
>>> 5 ร้านสักสุดคูล ที่อยากให้ลองไปทำ TATTOO ดูสักครั้ง click!
รอยสักก็ต้องการ ‘การดูแลเอาใจใส่’
ไม่ใช่ว่าสักเสร็จแล้วก็จบ! แต่รอยสักที่คงอยู่บนร่างกายอย่างสวยงาม จะต้องได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง โดยหลังจากสักมาใหม่ๆ ควรระวังเรื่องแผลติดเชื้อ อักเสบ และในช่วงแรกควรทาครีมบนรอยสัก และหลีกเลี่ยงแสงแดด นอกจากนี้หากรอยสักมีการตกสะเก็ดอย่าเพิ่งตกใจ เพราะเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ต้องยั้งมือไม่ให้แกะเกา
ส่วนขั้นตอนการดูแลในระยะยาว คือต้องมั่นเติมสีให้รอยสักให้เส้นยังคงความชัดเจน โดยเฉพาะรอยสักที่ต้องใช้สีหลายสี ยิ่งเราเติมสีให้คงเข้มเท่าไร รอยสักนั้นจะดูสวยเท่อยู่เสมอ แน่นอนว่าการเติมสีแต่ละครั้งย่อมเสียเงินทองเพิ่มเติม ดังนั้นอย่าลืมเผื่อค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ด้วย
เตรียมแผนรับมือกับคนรอบข้าง ทั้งคนที่คุณแคร์และเขาแคร์คุณ
อุปสรรคสำหคัญของคนที่คิดอยากสัก คือผู้คนรอบข้าง โดยเฉพาะครอบครัวที่ไม่เห็นด้วย ดังนั้นหากมั่นใจว่าอยากสักจริงๆ จึงควรต้องมีแผนรับมือ หารพูดคุยและทำความเข้าใจก่อนไปสัก เป็นวิธีนี้เป็นทางออกที่ดี อาจประณีประนอมด้วยการเลือกสักรอยเล็กๆ ในตำแหน่งร่มผ้าก่อนก็ได้ เมื่อคนรอบข้างเริ่มยอมรับได้ ก็ค่อยไปเพิ่มหรือสักลวดลายที่ใหญ่ขึ้นก็ยังไม่สาย
