ถึงวันสำคัญของคุณแม่ทั้งที คุณลูกๆ ก็อยากมอบของขวัญแด่คุณแม่กันบ้าง แต่ปัญหาหนักใจคือไม่รู้จะเลือกอะไรให้คุณแม่ดี? โดยเฉพาะคุณลูกชายที่ไม่สันทัดเรื่องการเลือกซื้อของขวัญเท่าไรนัก วันนี้เราจึงขอเสนอ Tip สำหรับการการเลือกของขวัญที่รับรองว่าถูกใจและเหมาะกับคุณแม่มาฝากกัน!
01. เลือกอะไรดี?
ปัญหาแรกของการเลือกซื้อของขวัญคือ ‘ไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรดี’ เราขอแนะนำให้คุณสังเกตว่าตอนนี้คุณแม่ของคุณต้องการอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า ซึ่งการเลือกซื้อของขวัญที่คุณแม่กำลังมองหาอยู่จะทำให้คุณแม่รู้สึกเซอร์ไพรส์และยังแสดงออกถึงความใส่ใจของคุณลูกอีกด้วย
แต่หากคุณแม่ของคุณไม่มีสิ่งที่ต้องการอะไรเป็นพิเศษ เราขอแนะให้คุณสังเกตพฤติกรรมหรือปัญหาที่คุณแม่ประสบแทน เพื่อคุณจะได้เลือกซื้อของขวัญที่ช่วยบรรเทาปัญหาเหล่านั้น เช่น ช่วงนี้คุณแม่มักมีอาการปวดขาปวดข้อ เพราะต้องยืนนานๆ หรือเดินบ่อยๆ คุณก็อาจเลือกรองเท้าเพื่อสุขภาพมอบเป็นของขวัญให้คุณแม่ หรือลองสังเกตตู้เสื้อผ้าของคุณแม่ดู หากเสื้อผ้าของคุณแม่ที่มีอยู่เก่ามากแล้ว คุณอาจเลือกซื้อเสื้อเก๋ไก๋แต่ใส่สบายให้คุณแม่ก็ได้เช่นกัน ฯลฯ แต่สิ่งสำคัญของการเลือกซื้อของขวัญให้คุณแม่คือ ต้องเป็นของขวัญที่คุณแม่สามารถนำไปใช้ได้จริง
02. เรื่องสีก็สำคัญนะ
หลังจากตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกอะไรเป็นของขวัญ คำแนะนำต่อมาคือการเลือกสี เพราะสีจะเป็นตัวเสริมให้ของขวัญของคุณถูกใจคุณแม่มากขึ้น โดยคุณลองสังเกตว่าสีอะไรที่คุณแม่ชอบใช้ หรือลองสังเกตรอบๆ บ้านว่าสินค้าสีไหนที่คุณแม่มักจะเลือกเข้ามาในบ้าน เช่น คุณแม่มักใส่เสื้อสีฟ้า ของใช้ในบ้านก็มักเป็นโทนสีฟ้า เป็นต้น ซึ่งการรู้สีโปรดของคุณแม่จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อของขวัญได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเมื่อของขวัญที่คุณเล็งไว้มีหลายเฉดสี
แต่ถ้าของขวัญที่คุณตัดสินใจเลือกไม่มีโทนสีที่คุณแม่ชอบ เราแนะนำให้คุณพิจารณาสีจากความสวยงามโดยภาพรวมของของขวัญนั้นแทน และสิ่งสำคัญอีกอย่างที่ต้องคำนึงถึงเรื่องสีคือ เราต้องพิจาณาด้วยว่าสีที่เราตัดสินใจซื้อ แม้จะเป็นสีโปรดของคุณแม่ แต่ต้องเหมาะกับวัยของคุณแม่ซื้อด้วย
03. ไม่ควรมองข้ามดีไซน์และสไตล์
ต่อมาเป็นเรื่องของดีไซน์และสไตล์ ซึ่งคุณลูกสามารถใช้การสังเกตเช่นเดียวกับการเลือกสีมาเลือกของขวัญที่มีดีไซน์ตรงกับสไตล์ของคุณแม่ได้ เราแนะนำให้คุณแอบไปเปิดดูตู้เสื้อผ้าคุณแม่ แล้วสังเกตชุดที่มีทั้งหมด โดยเฉพาะชุดที่มีสีซีดแล้วแต่คุณแม่ไม่ยอมทิ้งสักที เพราะเสื้อผ้าเป็นของใช้ที่บ่งบอกถึงสไตล์ของคุณแม่ได้ชัดเจนที่สุด หรือลองสังเกตเวลาไปเดินห้างกับคุณแม่ว่าคุณแม่มักมองสินค้าดีไซน์ไหนหรือชอบดูอะไรเป็นพิเศษ และหากคุณทราบแบรนด์ประจำที่คุณแม่มักช็อปก็จะเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น
04. อย่าผิดไซส์
อีกเรื่องสำคัญที่ห้ามมองข้ามคือเรื่องขนาด ณ ที่นี้เราหมายความถึงหากคุณตัดสินใจเลือกซื้อของขวัญที่ต้องกำหนดขนาด เช่น เสื้อผ้า รองเท้า ฯลฯ คุณต้องดูให้แน่ใจว่าคุณแม่ใส่ไซส์อะไร และถึงแม้ว่าคุณจะทราบไซส์คุณแม่ แต่นั่นก็ไม่สามารถการันตีได้ว่าของขวัญที่คุณซื้อมา คุณแม่จะใส่ได้พอดี นั่นเพราะรองเท้าหรือเสื้อผ้ามักจะมีขนาดไม่ตรงกันในแต่ละแบรนด์และแต่ละคอลเลกชั่น
วิธีแก้ปัญหาเรื่องนี้คือให้คุณแอบหยิบเสื้อตัวโปรดหรือรองเท้าคู่เก่งที่คุณแม่มักใส่ประจำมาวัดด้วยสายวัดแล้วจดจำไว้ เมื่อถึงเวลาที่คุณไปเลือกซื้อของขวัญก็ให้พนักงานช่วยวัดขนาดก่อนจะจ่ายเงินซื้อ หรือคุณอาจแอบติดเสื้อหรือรองเท้าของคุณแม่ไปด้วยตอนซื้อของขวัญ แต่ต้องระวังอย่าคุณแม่จะรู้ตัวนะ
05. ถูกจังหวะและถูกเวลา
สิ่งสุดท้ายหลังจากที่เราได้ของขวัญเรียบร้อยแล้วคือการมองหาจังหวะที่จะมอบให้ หลายครอบครัวมักมีกิจกรรมไปทานอาหารมื้ออร่อยกันนอกบ้าน คุณอาจใช้ช่วงเวลาแห่งความสุขนี้มอบของขวัญให้คุณแม่ หรือถ้าคุณไม่มีแพลนจะไปทานอาหารนอกบ้าน ก็อาจเลือกมื้ออาหารที่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัวเป็นช่วงเวลามอบของขวัญก็ได้
สิ่งสำคัญของการเลือกของขวัญแด่คุณแม่หรือแม้กระทั่งคนที่คุณรักคือ “การมอบของขวัญที่เลือกด้วยความใส่ใจ” ดังนั้นของขวัญที่เราเลือกให้คุณแม่ อาจจะใช่ของขวัญชิ้นโตราคาแพงก็ได้