WHY : Elle งานถนัดสไตล์ drama thriller ของ Paul Verhoeven เราจึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมหนังเรื่องนี้ถึงสามารถเล่าความซับซ้อนและความลึกลับออกมาได้อย่างดีเยี่ยม
คงไม่มีใครอยากใช้ชีวิตที่มี “รอยร้าว” แต่ก็เป็นเรื่องยากที่มนุษย์อย่างเราจะใช้ชีวิตอย่างสมบรูณ์แบบ และถ้าหากว่ารอยร้าว มันได้เกิดขึ้นแล้ว ก็คงเป็นเรื่องที่ต้องทำใจกับรอยร้าวนั้น คนนั้นคงต้องพยายามปรับตัวเพื่อใช้ชีวิตต่อไป ไม่ว่าชีวิตจะมีรอยร้าวใหม่เกิดขึ้นอีกกี่ครั้งก็ตาม เพราะนั่นคือพื้นฐานที่ธรรมดาของการใช้ชีวิต เช่นเดียวกับ Michelle Leblanc (Isabelle Huppert) ที่รอยร้าวในชีวิตของเธอ ได้เปลี่ยนแปลงตัวตนของเธอให้กลายเป็นบุคคลที่เย็นชา และเฉยชาต่อโลก จนไม่มีใครสามารถหยั่งถึงจิตใจหรือความนึกคิดของเธอได้
Michelle Leblanc คือหญิงวัยกลางคนที่เดินทางมาถึงจุดที่ซับซ้อนของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ลูกชายของเธอที่กำลังจะเป็นพ่อคนกับหญิงสาวที่เธอไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่นัก หรือสามีของเธอที่กำลังจะเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่กับสาวสวยอายุน้อย รวมไปถึงลูกน้องในที่ทำงานที่ไม่ยอมรับในความสามารถของเธอ แต่ทั้งหมดนี้ก็คงไม่เลวร้ายเท่ากับการที่มีคนสวมหน้ากากปิดหน้าปิดตา เพื่อบุกเข้ามาทำร้ายเธอที่บ้าน พร้อมกับพยามใช้กำลังข่มขืนเธอ ก่อนที่จะทิ้งเธอไว้ให้นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น แล้วจากไปอย่างไร้ร่องรอย
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าหากว่าเป็นคนทั่วไป ก็คงจะไปแจ้งความ และคงจะหวาดระแวงกับการใช้ชีวิตอยู่ไม่น้อย แต่นั่นไม่ใช่วิถีทางที่ Michelle Leblanc เลือกใช้ เพราะเธอไม่ต้องการแจ้งความ และเลือกที่จะรับมือและแก้ปัญหาในแบบของเธอเอง และนั่นทำให้เธอ กลายเป็นตัวแทนของผู้หญิงที่ด้านชาต่อโลก และถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างล้ำลึก ในภาพยนตร์เรื่องนี้
Elle หนังฝรั่งเศสเรื่องที่ 2 ของผู้กำกับ Paul Verhoeven ผู้กำกับภาพยนตร์สไตล์ drama thriller ที่เคยฝากผลงานสร้างชื่อสุดคลาสสิคอย่าง Basic Instinct (1992) ที่มักใช้ตัวละครที่เป็น สตรีที่ใช้เสน่ห์ยั่วยวน และล่อลวงเหยื่อมาล้างแค้นอย่างเลือดเย็น โดยครั้งนี้เป็นการกลับมาในรอบ 4 ของเขา จากภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายที่เขาได้ไปกำกับไว้คือเรื่อง Tricked ในปี 2012 และคราวนี้เป็นการทำงานร่วมกับ Isabelle Huppert นักแสดงตัวแม่จากฝั่งยุโรป จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ยิ่งทรงพลัง และมีโทนอารมณ์ที่กดดันและซับซ้อนยิ่งนัก
ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนิยายของ Phillipe Dijan ที่ชื่อว่า “Oh…” แล้วถูกนำมาเขียนเป็นบทภาพยนตร์ขึ้นใหม่โดย David Birke (13 Sins – 2014) ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ สามารถเล่าความซับซ้อน และความลึกลับของเนื้อเรื่องออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ที่สำคัญยังเป็นเป็นบทบาทที่ทำให้ Isabelle Huppert ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยมในหมวดภาพยนตร์ดราม่ามาแล้ว แถมยังได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงในปีนี้อีกด้วย จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ น่าจับตามองเป็นพิเศษ
คำว่า Elle ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่า เธอ หรือ ของเธอ ซึ่งน่าจะเป็นใจความของภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้งหมด เพราะสตรีคือเพศที่ยากจะคาดเดา และเป็นเพศที่มีก้นบึ้งทางความคิดที่ลึกเกินจะหยั่งถึง หรือที่เราเรียกกันติดตลกว่า ตัวแม่ นั่นแหล่ะ แต่เบื้องหลังคำว่า ตัวแม่ ย่อมมีอดีตที่สร้างรอยร้าว และสาเหตุที่ทำให้เธอกลายเป็นแบบนั้น และนั่นคือเหตุผลที่ทรงพลังที่สุด เพราะถ้าเธอสามารถอยู่กับรอยร้าวมากมายเหล่านั้นได้ นั่นหมายความว่ารอยร้าวเล็กๆ หรือแม้แต่รอยแตกที่จะเกิดขึ้นในชีวิตหลังจากนี้ ก็ไม่สามารถทำอะไรเธอได้ด้วยเช่นกัน
