WHY : ความดีของ Hacksaw Ridge คือ คนดูจะได้สัมผัสฉากสงครามบนเกาะโอกินาว่า ที่ถือว่า Mel Gibson ยังคงกำกับฉากของสงครามและความรุนแรงได้ดีไม่เคยเปลี่ยน น่าจะถูกใจคอหนังสงคราม และคอหนังแอ็คชั่นไม่น้อย
Desmond Doss (Andrew Garfield) ชายหนุ่มธรรมดาคนหนึ่งที่เติบโตและใช้ชีวิตอยู่ที่เมือง Lynchburg รัฐ Virginia สหรัฐอเมริกา เมื่อเขามีอายุได้ 23 ปี นอกจากเขาจะได้พบรักกับ Dorothy Shuttle (Teresa Palmer) แล้ว เขายังอาสาสมัครตัวเองไปรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงแม้ว่าตัวเขานั้นได้รับการยกเว้นจากการถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารอยู่แล้ว เนื่องจากว่าเขาทำงานอยู่ที่ท่าเรือของกองทัพ แต่ทว่าใจของเขา เขากลับอยากที่จะได้รับใช้ชาติเหมือนกับคนอื่น
การได้เข้ารับการฝึกเป็นทหารนั้นอาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลยสำหรับเขา หากแต่ว่า Desmond Doss นั้น ได้ถูกเลี้ยงดูมาให้เป็นคริสต์ศาสนิกชน นิกายเซเวนต์เดย์แอดเวนทิสต์ที่เคร่งครัด และมีความเชื่อว่าการฆ่าผู้อื่นนั้นเป็นบาป จึงทำให้เขากลายเป็น ผู้คัดค้านสงครามโดยอ้างมโนธรรม (conscientious objector) ที่ยินยอมที่จะเข้ารบในสงครามโลก โดยที่จะไม่หยิบจับอาวุธ และไม่ต้องการที่จะฆ่าผู้ใด ส่งผลให้เขากลายเป็นตัวปัญหาของกองทัพ และไม่ได้รับการยอมรับจากเพื่อนพ้องหรือผู้บังคับบัญชา เนื่องจากทุกคนเชื่อว่า เขาคือคนที่ขี้ขลาดและจะพาลให้คนอื่นที่ไปร่วมรบกับเขาพลอยตายไปด้วย
ด้วยความศรัทธาในศาสนาที่ Mel Gibson มักที่จะใส่เข้าไปในภาพยนตร์ที่เขากำกับเสมอ เมื่อมากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาเองก็ได้ใส่ประเด็นนี้ลงไปในภาพยนตร์เรื่อง Hacksaw Ridge ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังเป็นประเด็นศาสนาที่เข้มข้นมากกว่าเรื่องก่อนๆ (ถ้าไม่นับ The Passion of the Christ) จนทำให้ตัวละครดูกลายเป็นคนหัวรั้นมากกว่าจะทำให้เกิดมิติและความเชื่อในแบบที่ต้องการ บวกกับเนื้อหาที่อยากให้รักชาติ ที่ถ่ายทอดโดยวีรบุรุษสงครามที่เคยเสียสละชีวิตเพื่อนำพาสันติภาพมาให้กับเรา จนทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นภาพยนตร์ที่มีความเป็นอเมริกันและศาสนาจนเกินไป และทำให้ขาดเสน่ห์ความน่าติดตามในสไตล์หนังของ Mel Gibson แบบที่เคยมีมา ซึ่ง Mel Gibson เองก็ได้เว้นช่วงห่างจากการกำกับภาพยนตร์เรื่องก่อนอย่างเรื่อง Apocalypto (2006) นานถึง 10 ปี และต้องพบกับการตกเป็นข่าวต่างๆมากมายหลายเรื่อง จนกระทั่งวันนี้เขาได้กลับมาอีกครั้งกับภาพยนตร์สะท้อนศาสนาและสงครามโลกครั้งที่ 2 เรื่องนี้
การกลับมาอีกครั้งในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ของ Mel Gibson ทำให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมอีกครั้ง และตัวภาพยนตร์เองก็ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ปีนี้ถึง 6 รางวัล แม้ว่าตัวภาพยนตร์นั้น อาจไม่มีรูปแบบการเล่าเรื่องหรือการนำเสนอที่ซับซ้อน หรือมีความวิจิตรงดงามเมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ ที่น่าจับตามองในปีนี้ ทว่าเขานั้นโชคดี นี่อาจเป็นการกลับมาเป็นผู้กำกับชั้นแนวหน้าของเขาอีกครั้งหนึ่งก็เป็นได้
ส่วนเนื้อเรื่องครึ่งแรกของภาพยนตร์ Hacksaw Ridge นั้น ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับความศรัทธาและความรักชาติ จนทำให้รู้สึกเบื่อในเนื้อหาและความดื้อรั้นของตัวละครไปบ้าง แต่ในช่วงครึ่งหลังที่เป็นฉากสงครามบนเกาะโอกินาว่า ก็ยังถือว่า Mel Gibson ยังคงกำกับฉากของสงครามและความรุนแรงได้ดีไม่เคยเปลี่ยน ที่มีทั้งความน่ากลัว และความสมจริง จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ น่าจะถูกใจคอหนังสงคราม และคอหนังแอ็คชั่นไม่น้อย แต่ก็คงยังมีความธรรมดา และความเชยในการนำเสนอไม่น้อยเช่นกัน ถือว่าการกลับมาของเขาในครั้งนี้ ยังไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่นัก
ในความเชื่อของ Desmond Doss แล้ว เขาเชื่อว่าหากโลกนี้มีแต่การเข่นฆ่า เขาก็จะขอเป็นคนหนึ่งที่คิดสวนทางและปฏิเสธมัน เพื่อให้โลกนี้มีความดีเกิดขึ้นบ้าง หรือมีหยดสีขาวถูกปนลงไปในบ่อสีดำบ้าง แม้ว่าจะไม่ส่งผลอะไรมากมายนัก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นคือ จิตใจ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาทำดี เขาก็จะสามารถภาคภูมิใจในตัวเขาเองได้ ว่าเขาได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และเมื่อเขามั่นใจว่าเขาได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง นั่นก็ถือว่า เขาได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า … เพียงพอแล้ว
