10 อันดับหนังจักรวาลมาร์เวล
ที่ครองตำแหน่ง
Best Marvel Movies of All Time
ต้องยอมรับว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหนังจาก “จักรวาลมาร์เวล” (Marvel) ไม่ว่าเรื่องไหนๆ ก็น่าสนใจและน่าดูไปซะหมด หลายคนจึงเผลอควักเงินออกไปดูแทบทุกเรื่อง จนหนังหลายเรื่องของมาร์เวลขึ้นแท่นหนังทำเงินสูงสุดอยู่บ่อยครั้ง อย่างปีที่ผ่านมามีหนังมาร์เวลถึง 4 เรื่องที่ขึ้นแท่น 10 อันดับหนังทำเงินสูงสุดปี 2018 ฯลฯ
เพราะมาร์เวลาขยันทำหนังออกมาอยู่สม่ำเสมอและหลายเรื่องก็สนุกจนเกิดการจัดอันดับ Best Marvel Movies of All Time ขึ้น โดยเว็บไซต์ IMDb ฐานข้อมูลออนไลน์ของวงการหนังที่ใหญ่และเป็นที่ยอมรับ วันนี้เราจึงอดไม่ได้ที่จะหยิบมาฝากคอหนัง
อันดับที่ 10: Captain America: The Winter Soldier
หนังภาคต่อของ Captain America: The First Avenger ที่ได้ผู้กำกับและคนเขียนบททีมเดียวกัน โดยหนังเรื่องนี้เข้าฉายในปี 2014 พร้อมกับการทำรายได้ไป 714 ล้านเหรียญสหรัฐ และที่น่าสนใจคือ หนังเรื่องนี้มีรายชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาเทคนิคสมจริงยอดเยี่ยมอีกด้วย
ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้ คงเป็นการที่ สตีฟ โรเจอร์ส กลับมาสวมชุดกัปตันอเมริกาอีกครั้ง พร้อมกับการร่วมกู้โลกไปพร้อมกับซุปเปอร์ฮีโร่ตัวอื่นๆ อย่าง Black Widow และ Falcon Heavy ดังนั้นหนังเรื่องนี้จึงเปรียบเสมือนการกลับมาชิงบัลลังก์ของกัปตันอเมริกา
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลลับที่เสริมให้หนังเรื่องนี้น่าสนใจ อย่างนำฉากที่ถูกตัดจากเรื่อง The Avengers ตอนที่ สตีฟ โรเจอร์ รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหน่วยปฏิบัติการของเขาและเพ็กกี้ คาร์เตอร์ ที่ถูกนำมาใส่ในเรื่องนี้ หรือฉากที่กัปตันอเมริกาโดดลงจากเครื่องบินโดยไร้ร่มชูชีพ เป็นฉากที่อ้างอิงจากหนังสือการ์ตูน เรื่อง The Ultimates เล่มแรก ฯลฯ
อันดับ 09: X-Men: Days of Future Past
หนังอีกเรื่องที่จัดอยู่ในลิสต์ซีรี่ย์ X-Men โดยเป็นหนังเรื่องที่ 7 ของงซีรี่ย์นี้ ออกฉายเมื่อปี 2014 พร้อมกับการทำรายได้ไป 747.9 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเรื่องนี้เป็นการรวมตัวต่อสู้ในสงครามครั้งยิ่งใหญ่ของทีม X-men ที่ต้องผลึกกำลังกันนั่นเอง ดังนั้นในหนังภาคนี้เราจึงได้เห็นเหล่าทีม X-men แบบครบเซ็ต
ที่น่าสนใจคือ หลังจากหนังเรื่องนี้ฉายไป คนเขียนบทและผู้กำกับก็ได้นำหนังเรื่องนี้มาตัดต่อใหม่ โดยมีความยาวเพิ่มขึ้นจากฉบับฉายในโรง 17 นาที พร้อมกับดัดแปลงเนื้อหาจากฉบับดั้งเดิม จนทำให้หนังเรื่องนี้มี 2 แนวเนื้อหานั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหนังเรื่องนี้ยังคงสนุกและฉากต่อสู้สุดมันส์สไตล์ X-men จึงไม่แปลกหากหลายคนจะให้ X-Men: Days of Future Past เป็นหนังในดวงใจ
อันดับที่ 08: Spider-Man
หนังภาคแรกของสไปเดอร์แมน เรียกได้ว่าเป็นหนังเปิดตัวของสไปเดอร์แมนก็คงไม่ผิด โดยหนังเรื่องนี้ทำเงินได้กว่า 822 ล้านเหรียญสหรัฐ ขึ้นแท่นหนังทำเงินสูงสุดในปี 2002 ที่หนังเรื่องนี้เข้าฉาย ที่สำคัญ Spider-Man ยังเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จ ทำให้มีภาค 2 และภาค 3 ในเวลาต่อมา โดยล่าสุดหนังที่เกี่ยวของกับสไปเดอร์แมนก็ออกภาคใหม่ให้เราได้ชมในเรื่อง Spider-Man: Into the spider-verse
อีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจคือ นักแสดงนำที่รับบทสไปเดอร์แมน ซึ่งได้มีการเปลี่ยนในหลายๆ ภาค อย่างล่าสุดจากเรื่อง Avengers: Infinity War หรือในเรื่อง Spider-Man: Homecoming รับบทโดย ทอม ฮอลแลนด์ ขณะที่ก่อนหน้านี้ อย่าง Spider-Man ภาคแรกนี้ รับบทโดย โทบีย์ แมไกวร์ ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ที่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของตัวเอง ดังนั้นนักแสดงคนไหนจะรับบทก็ไม่ติดขัด
อันดับที่ 07: Captain America: Civil War
หนังภาคต่อของ Captain America: The First Avenger แต่เนื้อเรื่องเป็นเนื้อหาต่อจาก Avengers: Age of Ultron ดังนั้นใครที่เคยดู 2 เรื่องนี้ย่อมอยากดูหนังเรื่องนี้ตามไปด้วย ทำให้หนังเรื่องนี้กวาดรายได้ไปมากมาย โดยทำเงินได้ถึง 1,153 ล้านเหรียญสหรัฐ ขึ้นแท่นหนังทำรายได้สูงสุดอันดับที่ 1 ในปี 2016 และยังครองตำแหน่งภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล อันดับที่ 12 ในช่วงเวลานั้น
เบื้องหลังกว่าที่จะทำให้ Captain America: Civil War ขึ้นแท่นหนังทำเงินและยังครอง Best Marvel Movies of All Time คงเกิดจากการเล่าเรื่องที่แต่งแต้มสีสันและแตกต่างจากแพทเทิร์นแนวซุปเปอร์ฮีโร่เดิมๆ โดยเฉพาะเมื่อหนังเรื่องนี้ยังเป็นการผชิญหน้ากันของ 2 ฮีโร่ที่ไม่ลงรอยกันตั้งแต่ Avengers: Age of Ultron ระหว่างกัปตันอเมริกากับไอรอนแมน แถมยังมีฉากและซีนเด็ดๆ อีกหลายซีนที่กลายเป็นฉากในความทรงจำของแฟนๆ อีกด้วย
อันดับ 06: Logan
หนังเรท R ของจักรวาลมาร์เวล โดยหนังเรื่องนี้เป็นหนังอันดับที่ 10 ของซีรี่ย์ X-Men ออกฉายเมื่อปี 2017 และกวาดเงินเข้ากระเป๋าไป 615.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นหนังภาคเดี่ยวของตัวละครวูลฟ์เวอรีน (Wolverine) และเป็นหนังปิดท้ายไตรภาควูลฟ์เวอรีนอีกด้วย
สำหรับหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ถูกดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนชุด Old Man Logan เรื่องราวจึงเป็นการเล่าชีวิตของโลแกนในบั้นปลายที่ต้องสูญเสียพลังในการฟื้นฟูรักษาแผลตัวเองไปตามวัยที่มากขึ้น เป็นช่วงเวลาที่ตัวร้ายถูกกำจัดไปหมดแล้ว เราจึงได้เห็นโลแกนทำงานแบบคนปกติในภาคนี้นี่เอง หนังเรื่องนี้จึงเปรียบเสมือนการดึงด้านความเป็นมนุษย์ของเขาออกมา