ทำไม Vans Old Skool ถึงยังฮิตไม่เลิก…และจะเกิดอะไรขึ้น!! เมื่อแถบหนอนขาวเปลี่ยนไป
WHAT: หากพูดถึงรองเท้าในตำนานที่มีความคสาสสิคเหนือกาลเวลา คงต้องยกให้ Vans Old Skool ที่ผ่านมาหลายยุคหลายสมัย บวกกับวัฒนธรรมสตรีทแวร์ จึงทำให้ Vans Old Skool กลายเป็นอีกหนึ่งไอเทมสุดฮิตที่หนุ่มๆ ควรมีไว้ในครอบครองแต่ก่อนอื่นเราลองมาทำความรู้จักกับรองเท้า Vans ให้มากขึ้นกันก่อนดีกว่า
Vans ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 1966 ในฐานะรองเท้าแฟชั่นที่ไว้สำหรับการเล่นสเก็ตบอร์ด ก่อนจะมาผลิตรองเท้ารุ่น Style 36 หรือที่รู้จักกันในนามของ Old Skool ซึ่งได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 1977 ที่มีความโดดเด่น สะดุดตาตรงลายเส้นสีขาวด้านข้างตัวรองเท้าที่เรียกกันว่า Jazz-Stripe จนกลายเป็นจุดเด่นของ Vans รุ่น Old Skool นั่นเอง
แล้วทำไม Vans Old Skool ถึงได้เป็นรองเท้าในตำนานที่ฮิตตลอดกาล…?
ด้วยความยาวนานร่วม 40 ปี Vans Old skool จึงถูกบ่มเพราะพัฒนาและปรับปรุงจนเต็มขั้น พร้อมด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเจ้าหนอนขาวที่ถูกพาดสง่าอยู่กลางตัวรองเท้าซึ่งถูกจัดวางได้อย่างเหมาะเจาะ และในส่วนของของขลิบด้ายที่เย็บรอยต่อของรองเท้าก็ทำได้อย่างดีไม่มีที่ติ อีกทั้งยังเรียบหรูในโทนสีดำที่สามารถแมทช์ได้กับทุกสไตล์
และด้วยเหตุนี้เจ้า Vans Old Skool จึงได้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นต้นแบบโครงสร้างความสวยงามไปผลิตรุ่นลิมิเต็ดตามมาอย่างต่อเนื่อง แถมดารานักร้องคนดังหลายๆ คนทั้งในและต่างประเทศก็ยังสวมใส่กันเป็นจำนวนมากอีกด้วยจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ Vans Old Skool จะถูกกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งรองเท้ารุ่นคลาสสิคที่ทุกคนต้องมี
BLENDS X VANS VAULT OLD SKOOL STYLE 36 (BONE JAZZ STRIPE)
และนี่นับเป็นครั้งที่ 7 แล้วที่ Vans ผนึกกำลังกับ Blends ปรับเปลี่ยนรองเท้ารุ่น Old Skool ที่เคยมี Jazz-Stripe หรือลายเส้นสีขาวที่เป็นเอกลักษณ์ด้านข้างตัวรองเท้าเป็น “Bone Jazz Stripe” หรือโครงกระดูกแทน ตัวรองเท้ายังคงรูปทรง Old Skool สุดคลาสสิค ประกอบด้วยหนังเทียมสีดำ เพิ่มเติมในส่วนของเชือกถักที่เป็นหนังสีดำเช่นกัน แต่ยังคงพื้นยางสีขาวตามแบบฉบับของ Vans ซึ่งวางจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมา ทาง www.Blendsus.com แล้วก็เป็นไปตามคาดเพราะสินค้า Sold Out ทุกไซส์ภายในไม่กี่นาที ส่วนสาวก Vans ชาวไทยที่ก็ไม่ต้องเสียใจไป รออัพเดทข่าวกันกันให้ดีๆ ว่าจะมีวางจำหน่ายให้เราได้จับจองเป็นเจ้าของกันหรือไม่ค่ะ
ที่มาและภาพจาก: www.blendsus.com