อย่าปล่อยให้เรือไททานิกล่ม เพราะ ภูเขาน้ำแข็ง ที่มองไม่เห็น

เปลี่ยนวิธีคิด ควบคุมอารมณ์ อย่าปล่อยให้เรือไททานิคล่ม เพราะ “ภูเขาน้ำแข็ง” ที่มองไม่เห็น

อย่าปล่อยให้เรือไททานิกล่ม เพราะ ภูเขาน้ำแข็ง ที่มองไม่เห็น
อย่าปล่อยให้เรือไททานิกล่ม เพราะ ภูเขาน้ำแข็ง ที่มองไม่เห็น

ถ้าพูดถึง ภูเขาน้ำแข็ง หลายคนคงนึกถึง Titanic(1997) หนังดังเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน เพราะจดจำภาพ แจ็คกับโรส ออกมาชมบรรยากาศบนดาดฟ้าเรือ ที่มีฉากเบื้องหน้าเป็นภูเขาน้ำแข็ง และฉากสำคัญในคืนที่เรือไททานิกพุ่งชนภูเขาน้ำแข็งจนล่มลงกลางมหาสมุทร

อย่าปล่อยให้เรือไททานิกล่ม เพราะ ภูเขาน้ำแข็ง ที่มองไม่เห็น

หนัง Titanic เป็นการเล่าตำนานความรักของ แจ็คกับโรส ผ่าน Based on true stories ของ เรือไททานิค เป็นเรือโดยสารขนาดใหญ่มหึมา ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็น “เรือที่ไม่มีวันจม” แต่แล้วต้องจมลงสู่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1912 หลังชน ภูเขาน้ำแข็ง ระหว่างการเดินทางเที่ยวแรกจาก เซาท์แทมป์ตัน สหราชอาณาจักร ไป นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา การจมลงของเรือไททานิคได้คร่าชีวิตผู้คนไปถึง 1,514 คน นับเป็นภัยพิบัติทางทะเลในยามสงบที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์

อย่าปล่อยให้เรือไททานิกล่ม เพราะ ภูเขาน้ำแข็ง ที่มองไม่เห็น

หลายคนสงสัยว่าภูเขาน้ำแข็งที่เราเห็นในหนังก็ไม่ได้สูงใหญ่อะไรมาก แต่ทำไม? ถึงทำให้เรือใหญ่ขนาดนั้นจมลงสู่ก้นมหาสมุทรได้ เรามีคำตอบครับ เพราะส่วนที่โผล่พ้นน้ำให้เราเห็นได้จากระยะไกลนั้น ซึ่งประมาณคร่าวๆ แล้ว ถือเป็นเพียง 1 ใน 10 ส่วนของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้นครับ และใต้มหาสมุทรที่เรามองไม่เห็นนั้น ยังมีส่วนที่ขนาดใหญ่อยู่มากๆ นั่นเอง

อย่าปล่อยให้เรือไททานิกล่ม เพราะ ภูเขาน้ำแข็ง ที่มองไม่เห็น

ซิกมุนด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) หรือบางคนเรียกว่า ซิกมันด์ ฟรอยด์ เป็นประสาทแพทย์ชาวออสเตรีย ที่เรารู้จักกันดีในฐานะ บิดาแห่งจิตวิเคราะห์ ได้นำเอา “ภูเขาน้ำแข็ง” มาอธิบายเปรียบเทียบกับ จิตใต้สำนึก (Unconscious Mind) หรือ จิตไร้สำนึก ของคนเรานั้น เป็นส่วนที่อยู่ใต้น้ำ ทั้งอารมณ์และความรู้สึก ซึ่งมีอยู่มากกว่า ส่วนที่พ้นน้ำ คือ การรู้เท่าทันจิต หรือ จิตที่ตื่นรู้แล้ว เรามักไม่ค่อยแสดงจิตใต้สำนึกออกมาให้ใครเห็นในยามปกติ แต่เมื่อใดก็ตามที่ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้อารมณ์พลุ่งพล่าน หรือเรียกว่า จิตไม่เป็นปกติสุข อย่าง ดีใจ เสียใจ โกรธ หรือโมโหสุดๆ สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใน จิตใต้สำนึก จะแสดงออกมาโดยไม่รู้ตัว เปรียบเหมือนกับ คลื่นน้ำที่ซัดมาเป็นระลอกจะเผยให้เห็นส่วนที่อยู่ใต้น้ำนั่นเอง

อย่าปล่อยให้เรือไททานิกล่ม เพราะ ภูเขาน้ำแข็ง ที่มองไม่เห็น
Sigmund Freud (ค.ศ. 1856 – 1939)

ส่วนวิธีจัดการกับภูเขาน้ำแข็งที่มองไม่เห็น นั้นไม่ยาก ถ้าเริ่มต้นทำเสียตั้งแต่ตอนนี้ หลักการคือ อย่าปล่อยให้ จิตใจใต้สำนึก มากำหนดหรือมีอิทธิพลเหนือตัวเรา วิธีที่ง่ายที่สุดคือ การฝึกสมาธิ คือ การฝึกให้เรามีสติรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อตั้งรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบไม่คาดฝัน เช่น เมื่อเจอเหตุการณ์ที่น่าเสียใจสุดๆ เราจะมีสติตั้งรับ ไม่ร้องไห้ฟูมฟายอย่างคนไร้สติ หรือ เราจะไม่โกรธจนสติแตก ทำลายข้าวของหรือทำร้ายผู้อื่นอย่างบ้าคลั่ง เมื่อได้เห็น ได้ยิน ได้รู้ หรือได้ประสบกับเหตุการณ์ที่ไม่พึงพอใจ แต่ถ้าเราไม่มีสติ ทุกอย่างจะกลับตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง และอาจกลับมาทำร้ายตัวเราได้เกินกว่าที่คุณคิด หรือที่เรียกกันว่า “รู้เท่าไม่ถึงการณ์” อย่างที่เราได้อ่านเจอข่าวอันน่าเศร้าใจตามหน้าฟีดในโซเชียลนั่นเอง

สติ จึงเหมือนเป็นยาครอบจักรวาลที่รักษาอาการบ้าคลั่งเมื่อขาดสติ เมื่อฝึกจนชำนาญแล้ว นอกจากโรคทางใจจะรักษาได้หายขาดแล้ว สิ่งดีดีก็จะเกิดขึ้นกับตัวเรา ไม่มากก็น้อย ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งด้วยครับ


Photo : pixabay, ภาพจากหนัง

keyboard_arrow_up