บอกลา โรคภูมิแพ้ ถึงรักษาไม่หายแต่ก็หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงได้

อาการจาม ไอ หรือน้ำมูกไหลเป็นประจำโดยไม่มีสาเหตุ เป็นหนึ่งในอาการของ โรคภูมิแพ้ ที่คนเมืองต้องเผชิญหน้าและอาจไม่ได้ตระหนักว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องมีการรับมือ แต่ในระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา อุบัติการของโรคภูมิแพ้จากการสำรวจทั่วโลกและในประเทศไทยเองมีการเพิ่มขึ้นถึง 3-4 เท่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปโดยเฉพาะในสังคมเมืองหรือสังคมอุตสาหกรรม สภาพอากาศที่เต็มไปด้วยฝุ่นควัน สภาพแวดล้อมการทำงานที่เร่งรีบและเคร่งเครียดนั่นเอง

medical-allergy-P01

โรคภูมิแพ้

โรคภูมิแพ้ส่วนใหญ่สามารถถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม ถ้ามีพ่อและแม่ที่เป็นโรคภูมิแพ้ เด็กก็จะมีโอกาสเป็นมากขึ้นถึง ร้อยละ 50-70 เด็กที่มีประวัติครอบครัวที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคภูมิแพ้ควรหลีกเลี่ยงการดื่มนมและรับประทานอาหารที่มีโปรตีนซึ่งก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ง่าย รวมไปถึงการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ในบ้าน เช่น ไรฝุ่น , แบคทีเรีย , ขนสัตว์ , ละอองเกสร , และเชื้อรา ตั้งแต่ขวบปีแรก

โดยอาการของภูมิแพ้จะมีความแตกต่างกันตามลักษณะต่างๆ เช่น โรคแพ้อากาศ จะมีอาการจาม คันจมูก คัดจมูก คันเพดานปากหรือคอ น้ำมูกไหล โรคภูมิแพ้บริเวณหลอดลม จะมีอาการไอ แน่นหน้าอก หอบ หายใจขัดหรือหายใจเร็ว โรคภูมิแพ้บริเวณผิวหนัง จะทำให้มีอาการคัน มีผดผื่นตามตัว เป็นต้น

medical-allergy-P02

รักษาให้หายได้ไหม?

โรคภูมิแพ้เป็นโรคที่ไม่หายขาดแต่จะมีความแปรปรวนในตัวเองสูง บางทีอาการอาจหายเกือบสนิท แต่ถ้าไม่ดูแลสุขภาพหรือมีสิ่งมากระทบ อาการแพ้ก็อาจจะกลับมาใหม่ได้ และถ้าหากปล่อยไว้ไม่ได้รับการรักษาจะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ย่ำแย่ ส่งผลต่อการนอนหลับและการดำรงชีวิตประจำวัน จนไปถึงการเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น ไซนัสอักเสบ ริดสีดวงจมูก หูชั้นกลางอักเสบ นอนกรน ผิวหนังติดเชื้อ เป็นต้น

medical-allergy-P03

ปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้

นอกเหนือจากปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมภายนอกที่สามารถกระตุ้นให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ เช่น ควันบุหรี่ ควันจากท่อไอเสีย ควันไฟ และฝุ่นละอองจากแหล่งต่างๆแล้วนั้น สภาพแวดล้อมภายในบ้านก็ถือเป็นสถานที่เสี่ยงที่หลายคนมักมองข้ามไป โดยสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้อาจแทรกตัวอยู่ตามจุดต่างๆ ของบ้านที่เราอาจจะคาดไม่ถึงและกำจัดได้ยาก เพราะเมื่อมันก่อตัวขึ้นแล้วจะแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เพราะอนุภาคเหล่านี้เล็กถึง 0.3 ไมครอน ซึ่งปัจจัยที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ภายในบ้านนั้นก็มี อาทิ

  • ไวรัสและแบคทีเรีย

ซึ่งเกิดจากความชื้นหรืออับทึบในพื้นที่ภายในบ้านที่แสงแดดส่องไม่ถึง รวมถึงที่สะสมอยู่ตามอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ

  • ขนสัตว์

ในบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงมีขน เช่น สุนัขและแมว ขนสัตว์สามารถทำให้เกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจได้

  • ละอองเกสร

การนำต้นไม้ ดอกไม้สด ดอกไม้แห้งไว้ในบ้าน ละอองนอกบ้านที่ปลิวเข้ามา หรือติดตามร่างกาย

  • ไรฝุ่น

โดยเฉพาะบนที่นอน เก้าอี้ โซฟา หรือเครื่องเรือนที่บุด้วยผ้า นุ่น หรือขนสัตว์ จะมีไรฝุ่นสะสมอยู่ภายในจำนวนมาก หากไม่ได้ดูดฝุ่นเพื่อขจัดฝุ่นละอองเป็นประจำ

medical-allergy-P08

ความเป็นอยู่ที่ดีเริ่มต้นที่บ้าน

นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย แนะนำให้มีการจัดการสิ่งแวดล้อมภายในบ้านให้ถูกสุขลักษณะ มีความสะอาดตามหลักสุขาภิบาลเป็นระเบียบ ห้องนอนควรมีอากาศถ่ายเทได้สะดวกและรับแสงสว่างจากธรรมชาติ และที่สำคัญต้องทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็ก เพื่อลดโอกาสการเกิดโรคภูมิแพ้

โรคภูมิแพ้
เครื่องทำความสะอาดพื้นพลังไอน้ำ Philips SteamCleaner Active : FC7028

ซึ่งวิธีการทำความสะอาดบ้านที่ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของสารก่อภูมิแพ้ ต้องดูแลอย่างครบวงจร เพราะปัจจัยก่อภูมิแพ้เหล่านี้ ซ่อนอยู่ในส่วนต่างๆ ของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นพื้น ที่นอน ตู้เสื้อผ้า หรือแม้กระทั่งอากาศภายในบ้านซึ่งเราไม่สามารถมองเห็น แต่ด้วยนวัตกรรมของเครื่องใช้ไฟฟ้าในปัจจุบันได้ถูกพัฒนาให้ตอบโจทย์เพื่อคลายความกังวลในการกำจัดเชื้อโรคและปัจจัยก่อภูมิแพ้ต่างๆ หลายๆแบรนด์ได้พัฒนาสินค้าออกมาไม่ว่าจะเป็น เครื่องขจัดไรฝุ่น , เครื่องทำความสะอาดพื้นพลังไอน้ำ ซึ่งช่วยให้เราทำความสะอาดบ้านเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงของสารก่อภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Philips
เครื่องขจัดไรฝุ่น Philips Mite Cleaner : FC6230

ดังนั้นการมีสุขภาพดีห่างไกลจากโรคและปัจจัยที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้สามารถทำได้ไม่ยากเลยครับ


ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก : Philips ประเทศไทย

เรียบเรียงโดย : Nomad609

ภาพประกอบ : Pinterest

keyboard_arrow_up