เราเคยชินกับการหยิบ “สบู่” มาฟอกผิวทุกวัน หลังตื่นนอนตอนเช้า และ ก่อนเข้านอนในเวลากลางคืน ก้อนสบู่ก้อนเดิมที่บางทีเราก็นึกอยาก เปลี่ยนกลิ่น เปลี่ยนสี ตามใจเราบ้าง เรามี วิธีทำสบู่ อย่างง่าย ๆ มาฝาก
วันนี้ FAVFOWARD ชวนทุกคนมาเปลี่ยน “สบู่” ของใช้ที่เรา ต้องหยิบ ต้องใช้ ในชีวิตประจำวันแบบเดิมๆ แล้วมาครีเอทกับ วิธีทำสบู่ ใหม่ๆ ทั้ง กลิ่น สี และรูปร่าง เฉพาะตัว ที่สามารถทำเองได้ง่ายๆ ภายในห้องครัว หรือพื้นที่เล็กๆ ภายในบ้าน คอนโด แต่ก่อนจะไปถึงขั้นนั้น เรามาทำความรู้จักไอ้เจ้าสบู่กันก่อนดีกว่า
Do you know สบู่ ?
คำว่า สบู่ ในภาษาไทย เพี้ยนมาจากคำว่า “soap” ในภาษาอังกฤษ ซึ่งมาจากคำว่า “sapo” ซึ่งหมายถึง “สบู่” ในภาษาละติน “สบู่” เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดร่างกาย ที่ได้จากปฏิกิริยาของ ด่าง กับ ไขมัน จากพืชหรือสัตว์ “สบู่” ที่มีลักษณะเป็น ก้อน หรือ ของเหลว พร้อมด้วยส่วนผสมต่างๆ ที่มีคุณสมบัติเหมาะสำหรับการใช้ทำความสะอาด
ส่วน “สบู่ (soap)” อีกคำที่พบในสมการเคมีจะหมายถึง สารตั้งต้นสำหรับการผลิตสบู่ นั่นก็คือ เกล็ดสบู่ (soap) ที่ได้จากปฏิกิริยาระหว่าง ด่างเข้มข้น กับ ไขมันพืช หรือ สัตว์ ร่วมกับ กลีเซอรีน (Glycerine) หรือ กลีเซอรอล (Glycerol) ซึ่งสารทั้งสองเป็นสารตั้งต้นในการทำสบู่เหมือนกัน แต่จะให้ผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งจะเรียกว่า “เกล็ดสบู่”
“สบู่” ที่เราใช้กันทุกวันนี้ แบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือ สบู่ก้อน และสบู่เหลว แต่แท้จริงแล้ว สบู่ก้อนยังแยกย่อยได้เป็นสองชนิด ชนิดแรก คือ สบู่ก้อนขุ่น เป็นสบู่ที่คนทั่วไปรู้จักและใช้กันมานานจนถึงปัจจุบัน มีลักษณะเป็นก้อนแข็งๆ สีขาวขุ่นหรือสีต่างๆ ตามสีของสารเติมแต่ง สบู่ชนิดนี้ใช้สารตั้งต้น คือ เกล็ดสบู่ (soap) ที่ผลิตได้จากปฏิกิริยาข้างต้นเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิต มีคุณสมบัติที่ดีคือ เป็นก้อนแข็ง ขาวขุ่น และให้ฟองมาก
อีกชนิดหนึ่งเราเรียกว่า สบู่ก้อนใส เป็นสบู่ที่มีลักษณะ “ใส” หรือ “ค่อนข้างใส” ตามสัดส่วนของกลีเซอรีนที่ผสม ก้อนสบู่จะมีลักษณะอ่อนกว่า และให้ฟองค่อนข้างน้อยกว่า สบู่ก้อนขุ่น เนื่องจากมีส่วนผสมของกลีเซอรีนเป็นส่วนใหญ่ สารตั้งต้นที่ใช้อาจเป็น กลีเซอรีนเหลว หรือ กลีเซอรีนก้อน ร่วมกับสารเติมแต่งชนิดต่างๆ
สบู่ที่ได้จากกรดไขมันต่างชนิดกัน ก็ให้คุณสมบัติที่แตกต่างกันด้วย เรามาดูกันว่า กรดไขมันแต่ละชนิดที่คนนิยมเอามาทำสบู่นั้น ให้คุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
- น้ำมันมะพร้าว สบู่ที่ผลิตได้ จะมีเนื้อแข็ง กรอบ แตกง่าย สีขาวขุ่น มีฟองมากเป็นครีม ให้ฟองที่คงทนพอควร เมื่อใช้แล้วทำให้ผิวแห้ง
- น้ำมันปาล์ม จะทำให้สบู่มีลักษณะเนื้อแข็งเล็กน้อย มีฟองน้อย ฟองคงทนอยู่นาน มีคุณสมบัติในการชะล้างได้ดี แต่ทำให้ผิวแห้งเช่นกัน
- น้ำมันรำข้าว ให้วิตามินอีมาก ทำให้สบู่มีความชุ่มชื้น บำรุงผิว ช่วยลดความแห้งของผิว
- น้ำมันถั่วเหลือง เป็นน้ำมันที่เข้าได้ดีกับน้ำมันชนิดอื่นๆ สบู่ที่ผลิตได้ จะให้ความชุ่มชื้น รักษาผิว แต่เก็บไว้ได้ไม่นาน มีกลิ่นหืนง่าย
- น้ำมันงา เป็นน้ำมันที่ให้วิตามินอี และให้ความชุ่มชื้น รักษาผิว แต่มีกลิ่นเฉพาะตัว
- น้ำมันมะกอก ทำให้ได้สบู่ที่มีลักษณะ แข็งพอสมควร ใช้ได้นาน มีฟองเป็นครีมที่นุ่มมาก ให้ความชุ่มชื้น และไม่ทำให้ผิวแห้ง
- น้ำมันละหุ่ง ช่วยทำให้สบู่มีฟองขนาดเล็กจำนวนมาก ทำให้สบู่เป็นเนื้อเดียวกันดี สบู่ไม่แตก ทำให้สบู่มีความนุ่มเนียน และช่วยให้ผิวนุ่ม
- น้ำมันเมล็ดทานตะวัน ทำให้สบู่มีลักษณะ นุ่มขึ้น แต่ฟองน้อย
- ไขมันวัว จะได้สบู่ที่มีลักษณะ เนื้อแข็ง สีขาว อายุการใช้งานนาน เนื้อสัมผัสนุ่มนวล แต่มีฟองน้อย
- ไขมันหมู จะได้สบู่ที่มีลักษณะ เนื้อแข็ง อายุการใช้งานนาน แต่ได้ฟองน้อยเช่นเดียวกับสบู่จาก ไขมันวัว
- ไขมันแพะ จะได้สบู่ที่มีลักษณะ เนื้อนุ่ม ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และผิวเนียนนุ่ม น่าสัมผัส
- ขี้ผึ้ง จะได้สบู่ที่มีลักษณะ เนื้อแข็ง อายุการใช้งานนาน แต่ได้ ฟองน้อย เช่นกัน
เรารู้ที่มาและคุณสมบัติของ “สบู่” แต่ละชนิด กันมาพอหอมปากหอมคอแล้ว ได้เวลาที่เราจะมาลองมาครีเอท ก้อนสบู่ ในแบบที่เราชอบกันแล้วล่ะครับ ส่วน วิธีทำสบู่ ก็แสนง่าย ไม่มีขั้นตอนอะไรที่ยุ่งยาก แค่เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม แล้วเริ่มลงมือทำกันได้เลย และง่ายยิ่งไปกว่านั้นที่เดี๋ยวนี้มีหลายแบรนด์เริ่มทำ แพ็คเกจทำสบู่สำเร็จรูป ออกมาวางจำหน่ายให้เราเลือกซื้อกันอย่างสะดวกสบายแล้ว
ล่าสุดไปเดินสยามก็เห็นมีขายแล้วนะครับ เป็น แพ็คเกจทำสบู่สำเร็จรูป ของ Cosmos & Harmony วางขายที่โซน O.D.S ชั้นสาม สยาม ดิสคัฟเวอรี่ ที่นี่นอกจากจะมีแพ็คเกจให้เลือกหลายแบบแล้ว ยังมีคนสาธิตสอน วิธีการทำสบู่ อย่างง่าย ที่ทุกคนทำตามได้สบายมาก และครีเอทรูปแบบทั้ง สี กลิ่น และรูปร่าง ได้ตามที่เราต้องการอีกด้วย
วิธีทําสบู่ ง่ายๆ 3 ขั้นตอนดังนี้
1 ตั้งน้ำให้เดือดในกระทะไฟฟ้า แล้วใช้ไฟอ่อนๆ วางถ้วยแก้วลงบนกระทะ ใส่สารตั้งต้น คือ กลีเซอรีนก้อน หรือ เกล็ดสบู่ หมั่นคนไปเรื่อยๆ จนกว่าสารตั้งต้นจะละลายเป็นของเหลว
Tip : ถ้าต้องการจะทำเป็น สบู่สมุนไพร ให้ใส่ส่วนผสมสมุนไพรหลังจากสารตั้งต้นเริ่มละลายแล้วคนต่อให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
2 นำถ้วยน้ำสบู่ที่คนจนละลายแล้วขึ้นมาจากกระทะ พักไว้สักครู่พอหายร้อนระอุ แล้วหยอดสีผสม และน้ำหอมกลิ่นที่ต้องการ
Tip : เหตุผลที่เราไม่ใส่ สีผสม และ น้ำหอม ระหว่างการทำละลายบนกระทะที่ร้อนจัด ก็เพื่อคงสีและกลิ่นที่เราต้องการไว้ มิฉะนั้น สีอาจจะเพี้ยน หรือ กลิ่นน้ำหอม อาจจะระเหยไปหมดด้วยความร้อน
3 หลังจากนั้นเทใส่แม่พิมพ์ตามที่เราต้องการ แล้วฉีดเสปรย์แอลกอฮอล์ ไล่ฟองอากาศ เพื่อทำให้ก้อนสบู่มีรูปร่างที่เนียนสวย แล้วทิ้งไว้จนกว่าสบู่จะเซ็ตตัว ประมาณ 30 นาที แล้วแกะออกจากแม่พิมพ์
Tip : ถ้าเราต้องการทำสบู่เป็นหลายสี แบ่งเป็นชั้นๆ อยู่ในก้อนเดียวกัน ให้แบ่งน้ำสบู่ที่คนละละลาย แยกใส่ถ้วย แล้วหยดสีต่างๆ ที่ต้องการ แล้วค่อยๆ เทน้ำสบู่ แต่ละชั้นๆ พักทิ้งไว้ให้สบู่เริ่มเซ็ตตัว แล้วเทน้ำสบู่ต่างสีในชั้นต่อไป
เห็นแล้วใช่ไหมครับว่า วิธีทำสบู่ ไม่ยากอย่างที่คิด เมื่อเราทำไปจนคล่องแล้ว สบู่ ของใช้ง่ายๆ ก็กลายเป็นงานอดิเรกได้ หรือจะพัฒนาเป็นสูตรและรูปแบบต่างๆ กลายเป็น สินค้าแฮนด์เมด ที่สร้างรายได้ให้กับเราได้อีกทางหนึ่งด้วย ดี๊ดีนะ เริ่มเลยดีมั้ย
Source : th.wikipedia.org , siamchemi.com
Story & Photo : The Fool
