เมื่อไอเดียไม่ได้จำกัดด้วยขนาดวัตถุ ดังนั้นเราจึงมักเห็นของใช้ทั้งชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ที่มีความครีเอทมาอวดโฉมให้เราได้ชมอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านดีไซน์ที่มีรูปลักษณ์เก๋ไก๋และฟังก์ชั่นที่เรียกได้ว่าดีงาม เช่นเดียวกันกับพลาสเตอร์ปิดแผลที่เรากำลังนำมาเสนอนี้ ซึ่งไม่เพียงแต่มีรูปลักษณ์โดเด่นสะดุดตาเท่านั้น แต่ยังแฝงฟังก์ชั่นที่ช่วยในการรักษาบาดแผลเอาไว้อีกด้วย โดยมีรางวัลชนะเลิศ Red Dot Award 2015 มาการันตีความคลู
“The Leaf-band-aid” เป็นพลาสเตอร์ที่เรากล่าวถึงข้างต้น โดยความคลูของ The Leaf-band-aid ที่ทำให้พลาสเตอร์นี้แตกต่างจากพลาสเตอร์ทั่วไปนั้น เริ่มจากรูปร่างหน้าตาที่ละม้ายคล้าย ‘ใบไม้’ ดูสะดุดตา มาพร้อมแพ็คเกจต้นไม้ที่ดูโดดเด่น ซึ่ง The Leaf-band-aid ไม่เพียงแต่มีรูปลักษณ์คลูๆ เท่านั้น แต่พลาสเตอร์นี้ยังมีกระบวนการย่อยสลายคล้ายใบไม้อีกด้วย แน่นอนว่ากระบวนการย่อยสลายที่เรากล่าวนี้ไม่ได้หมายความว่าพลาสเตอร์นี้สามารถย่อยกลายเป็นปุ๋ยได้จริงๆ แต่เป็นการเปลี่ยนสีตามวงจรใบไม้ จากสีเขียวสดใสเสมือนใบไม้ที่เพิ่งเด็ดออกจากต้น เมื่อเวลาผ่านไปแต่ละวัน The Leaf-band-aid จะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลือง สีส้ม และสีน้ำตาลในที่สุด
การที่พลาสเตอร์ The Leaf-band-aid เปลี่ยนสีได้นี้ ไม่ได้ทำขึ้นความเก๋ไก๋หรือสนุกเพียงอย่างเดียว แต่การเปลี่ยนสีทำหน้าที่เป็นสัญญาณเตือนให้เราเปลี่ยนพลาสเตอร์ได้แล้วนั่นเอง ซึ่งไอเดียนี้เริ่มมาจากการที่เรามักลืมหรือไม่แน่ใจว่าควรเปลี่ยนพลาสเตอร์ที่ปิดแผลเมื่อไรดี ดังนั้นทีมนักออกแบบ 5 คน Ye Wenzai, Yang Lei, Mai Rijin, Geng Yazhen, และ Du Jiachen จึงได้ใช้วัสดุพิเศษที่ตอบสนองต่ออุณหภูมิของผิวหนังมนุษย์มาใช้ในการผลิตพลาสเตอร์ ซึ่งทำให้พลาสเตอร์นี้ค่อยๆ เปลี่ยนสี เพื่อเป็นสัญญาณเตือนว่าเราได้ปิดแผลด้วยพลาสเตอร์ชิ้นนั้นนานเท่าไรแล้ว โดยเมื่อผ่านไป 3 วันแล้ว The Leaf-band-aid จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล สีที่บ่งบอกเราว่าเราควรเปลี่ยนพลาสเตอร์ได้แล้ว เพราะช่วงเวลา 3 วันคือช่วงเวลาที่แพทย์มักแนะนำให้เราเปลี่ยนพลาสเตอร์ปิดแผล ส่วนข้อดีของการที่พลาสเตอร์เปลี่ยนสีได้นี้คือช่วยหลีกเลี่ยงการติดเชื้อในแผลหรือแผลเกิดการอับชื้นนั่นเอง
ภาพ : www.yankodesign.com
