ในยุคที่ทุกอย่างรวดเร็วไปซะหมด ซึ่งรวมถึงการสื่อสารที่เป็นไปอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน ตัวอย่างที่เห็นได้ง่ายๆ คงไม่พ้นโปรแกรมสนทนาบนสมาร์ทโฟนของเราที่บางครั้งเราแทบไม่ต้องส่งข้อความถึงกัน แต่กลับสามารถเข้าถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายได้ผ่านสติกเกอร์หรือไอคอนรูปต่างๆ โดยเฉพาะ “Emoji” สัญลักษณ์แสดงอารมณ์ที่มาจากภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่รู้จักและใช้กันอย่างแพร่หลายในปี 2015 และกลายเป็นการสื่อสารภาษาสากลยอดนิยมบนโลกออนไลน์ในที่สุด
จากความรวดเร็วของการสื่อสารนี้เอง จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินและดีไซเนอร์ Kiss Miklos ออกแบบศิลปะแบบ Fine Art โดยใช้ Emoji เป็นไอเดียจนได้งานศิลปะที่มีชื่อว่า “Emoji Ballroom” โดยใช้ลูกบอลสีเหลืองแทนสัญลักษณ์อีโมจิ ซึ่งศิลปินได้ครีเอทหน้าตาของอีโมจิถึง 65 อารมณ์และใส่ลูกบอลที่แสดงอารมณ์เหล่านั้นในห้องกระจกจนเต็ม
และแน่นอนว่าเหล่าผู้ชมไม่เพียงแต่เห็นด้วยตาเท่านั้น แต่ยังสามารถเข้าชมและหยิบลูกบอลเหล่านั้นติดไม้ติดมือออกไปได้ เพื่อใช้ลูกบอลเหล่านั้นเป็นสื่อกลางส่งสารให้ผู้อื่นต่อไป เพราะ Kiss Miklos มีวัตถุประสงค์ให้ Emoji Ballroom เป็นเสมือนกระดานสื่อสารและแลกเปลี่ยนความรู้สึกระหว่างกัน ซึ่งหลังจากที่เข้าชมแล้ว ผู้เข้าชมสามารถเขียนความรู้สึกหรืออารมณ์แล้วหย่อนลง
กล่อง เพราะในตอนท้ายของนิทรรศการ ความรู้สึกของผู้เข้าชมจะถูกเขียนลงบนลูกบอลที่ว่างเปล่า เพื่อนำไปจัดแสดงในสถานที่อื่นๆ ต่อไป เปรียบเสมือนการส่งสารจากคนกลุ่มหนึ่งสู่คนอีกกลุ่มหนึ่งนั่นเอง อีกหนึ่งเป้าหมายของ Emoji Ballroom คือ ศิลปินอยากทราบความรู้สึกนึกคิดของผู้คนที่อยู่ในพื้นที่ที่ต่างกัน นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นิทรรศการ Emoji Ballroom เดินทางไปแสดงในหลายประเทศทั่วโลกนั่นเอง
ภาพ : kissmiklos.com/ball-room