สรุป 6 ฟีเจอร์ใหม่ที่จะเกิดขึ้นบนเฟซบุ๊ก หลังจากพี่มาร์กออกมาเกริ่นในงาน Facebook F8 (2018)

สรุป 6 ฟีเจอร์ใหม่
ที่จะเกิดขึ้นบนเฟซบุ๊ก
หลังจากพี่มาร์กออกมาเกริ่นในงาน
Facebook F8 (2018)

ในงานประชุมนักพัฒนา Facebook F8 (2018) มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ได้เกริ่นถึงแผนการใหม่ที่เขากำลังพัฒนา แน่นอนว่าโซเซียลมีเดียอย่าง Facebook ถูกจับตามองมากที่สุด วันนี้เราจึงสรุป 6 สิ่งที่จะเกิดขึ้นบนเฟซบุ๊กมาฝากกัน

• Facebook Dating

ฟีเจอร์ที่ทำให้คนโสดมีแฟนกับเขาสักที โดยเฟซบุ๊กทำหน้าที่เป็นช่องทางนัดเดททั้งแบบเปิดเผยและแบบลับๆ ด้วยการสร้างโปรไฟล์หาคู่ ซึ่งจะมองเห็นได้เฉพาะคนที่ไม่เป็น Friends กันเท่านั้น

วิธีการทำงานของฟีเจอร์นี้คือเชื่อมผู้ใช้ที่มีสถานะ ‘โสด’ ที่สนใจในสิ่งเดียวกันหรือคล้ายกันให้สามารถนัดพบกันได้โดยตรง ซึ่งเฟซบุ๊กจะสร้างอีเวนท์ต่างๆ ขึ้นมา ผู้ใช้สามารถค้นหาและส่งข้อความไปหาผู้ใช้คนอื่นๆ ที่สนใจในอีเวนท์เดียวกัน โดยการส่งข้อความนี้จะแยกจาก Messenger อย่างชัดเจน แน่นอนว่าฟีเจอร์นี้ยังสามารถปกป้องความเป็นส่วนตัว โดยที่เพื่อนเราไม่สามารถเห็นหรือเข้ามาดูโปรไฟล์หาคู่ของเราได้

• Clear History

ปุ่มลบประวัติการใช้งานบนเฟซบุ๊ก โดยปุ่มนี้ผู้ใช้จะเห็นข้อมูลทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นที่เรากดเข้าไปใช้งาน และแน่นอนว่าเราสามารถสั่งลบข้อมูลเหล่านี้ออกจากบัญชีของเราได้เพียงกดปุ่มนี้ หรือจะเลือกปิดการเก็บข้อมูลไปเลยก็ได้

ข้อดีของฟีเจอร์ Clear History คือบัญชีของเราจะล้างข้อมูลทั้งหมด ทำให้เว็บไซต์โฆษณาไม่สามารถล้วงข้อมูลของเราไปวิเคราะห์ กล่าวง่ายๆ ก็คือฟีเจอร์นี้จะช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวและป้องกันข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลนั่นเอง

• Watch Party

เป็นฟีเจอร์ที่ให้เราสามารถดู Live สดไปพร้อมกับคุยแชทกับเพื่อนในกลุ่ม โดยสิ่งที่น่าสนใจคือ ไม่เพียงแต่วิดีโอ Live สดเท่านั้น แต่เราสามารถเลือกวิดีโอจากเพจอื่นๆ ที่เปิดเป็นสาธารณะ แล้วดึงวิดีโอนั้นเข้ากลุ่ม (Group) และชมไปพร้อมๆ กับสมาชิกในกลุ่ม พร้อมกับวิจารณ์ไปได้ ซึ่งให้อารมณ์เหมือนเรานั่งดูหนังและวิจารณ์ไปกับเพื่อนๆ นั่นเอง แต่ฟีเจอร์นี้มีข้อจำกัดว่า เป็นฟีเจอร์สำหรับ ‘ผู้ดูแลกลุ่ม’ เท่านั้น

การเพิ่มฟีเจอร์นี้ก็เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ Facebook Groups ซึ่งมาร์ก ซักเคอร์เบิร์กเชื่อว่า Groups เป็นวิธีการสร้างการเชื่อมโยงที่ดีที่สุดระหว่างผู้ใช้

• Upvote & Downvote

ปุ่มที่ให้เราแสดงความเห็น นอกเหนือจากปุ่ม 6 ปุ่มที่มีอยู่เดิม (Like, Love, Haha, Wow, Sad และ Angry) โดยปุ่ม Upvote จะช่วยให้คอมเม้นที่มีประโยชน์ได้รับการมองเห็นมากขึ้น ขณะที่ปุ่ม Downvote มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กตั้งใจให้ผู้ใช้ใช้กับ Bad comment ที่แสดงถึงความไม่สุภาพ

• Crisis Response

ฟีเจอร์ที่ทำหน้าที่ ‘แจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน’ ซึ่งต่อยอดมาจากฟีเจอร์ Safety Check ที่ทำหน้าที่แจ้งให้เพื่อนและคนที่รักทราบว่า ‘เราปลอดภัย’ กรณีที่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงในพื้นที่ใกล้ๆ แต่สำหรับฟีเจอร์ Crisis Response จะให้ผู้ใช้งานทำหน้าที่ ‘รายงาน’ เหตุฉุกเฉินได้แบบเรียลไทม์ รวมทั้งสามารถติดต่อถึงกันในช่วงที่เกิดเหตุการณ์วิกฤติ

สรุปคือฟีเจอร์ Crisis Response ให้ผู้ใช้ทำประโยชน์ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง โดยสามารถทำหน้าที่ได้ทั้งแจ้งเตือนเพื่อนว่าเราปลอดภัย, ขอความช่วยเหลือ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือ และอัพเดตสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

• Messenger

เฟซบุ๊กวางแผนปรับโฉม Messenger ให้ไฉไลและฉลาดกว่าเดิม แต่การปรับครั้งนี้เป็นการ ‘ลด’ ให้แอปฯ Messenger เรียบง่ายขึ้น แต่มีความฉลาดและเร็วขึ้น เริ่มจาก ‘Dark Mode’ ที่ให้เราเลือกปรับพื้นหลังเป็นสีดำอักษรขาว เพื่อรองรับหน้าจอสมาร์ทโฟนที่เป็น OLED

แต่สิ่งที่น่าใจคือการใส่เทคโนโลยี AR ใน Messenger ซึ่งเป็นการเปิดช่องทางให้แบรนด์ต่างๆ สามารถนำสินค้าของตัวเอง จำลองให้ผู้บริโภคทดลองจัดวางก่อนซื้อจริง

นอกจากนี้มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กยังเพิ่ม ‘M Translations’ ลงไปด้วย ทำให้แอปฯ Messenger ฉลาดขึ้น โดยในช่วงแรกจะแปลได้เพียง 2 ภาษาคือ ภาษาอังกฤษกับภาษาสเปน ข้อดีของฟีเจอร์นี้คือ ทำให้ผู้ใช้ทุกทุมโลกสามารถติดต่อหากันได้ โดยไม่มีภาษาเป็นอุปสรรคนั่นเอง

อ้างอิงข้อมูลจาก www.theverge.com

keyboard_arrow_up