สรุป Apple เปิดตัวอะไรบ้างในงาน WWDC17
GADGET: จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีสำหรับอีเว้นท์ WWDC17 หรืองาน Apple Worldwide Developers Conference ประจำปี 2017 ของบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ชื่อดังอย่าง Apple ที่เปรียบเสมือนงานสัมนาของเหล่านักพัฒนาโปรแกรม รวมไปถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆทางด้านซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์บางส่วนของแอปเปิลอีกด้วย
และถึงแม้สิ่งที่ทุกคนอยากให้เปิดตัวในงานอย่าง iPhone 8 จะยังคงไม่มาตามข่าวลือที่ได้หลุดออกมาก่อนหน้านี้ แต่การเปิดตัวของซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์ตัวอื่นๆก็สามารถสร้างความสนใจได้ไม่น้อยเช่นเดียวกัน โดยจะมีอะไรใหม่ๆในงานบ้างนั้น วันนี้เราได้รวบรวมมาให้แล้วครับ
WatchOS4
Wearable Devices หรืออุปกรณ์ไอทีแบบส่วมใส่ได้ นับเป็นเทคโนโลยีที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แม้ยอดขายจะไม่ได้หวือหวาสักเท่าใดนัก แต่ถ้าพูดถึง Smartwatch อันดับต้นๆก็คงหนีไม่พ้น Apple Watch อย่างแน่นอน โดยการเปิดตัว WatchOS 4 ในครั้งนี้จะเน้นไปที่ประสบการณ์ใช้งานอันลื่นไหลมากกว่าฟังก์ชั่นล้ำๆแบบเจ้าอื่นๆ ซึ่งก็มีตั้งแต่
- Siri Face ที่เอาความสามารถของ Siri มาใส่ไว้บนหน้าปัด Apple Watch เพื่อให้เรียกใช้งานได้ง่ายกว่าเดิม
- เพิ่มลูกเล่นของหน้าปัดอย่าง Toy Story ที่เป็นตัวการ์ตูนชื่อดังและ Interactive ที่มีสีสันจัดจ้านสวยงาม
- ออกแบบอินเตอร์เฟสของแอปพลิเคชั่น Workout ใหม่ ให้ใช้งานง่ายมากยิ่งขึ้น
- จับมือกับผู้ผลิตเครื่องออกกำลังกายบางเจ้าในการเพิ่มความสามารถให้ Apple Watch เชื่อมต่อข้อมูลกับเครื่องออกกำลังกายเพื่อความแม่นยำมากยิ่งขึ้น
- เพิ่มฟังก์ชั่นการ Sync ข้อมูลเพลงอัติโนมัติให้กับแอป Music บน Apple Watch
ระบบปฏิบัติการ macOS เวอร์ชั่นใหม่
สำหรับในงานนี้ทางแอปเปิลยังได้เปิดตัว macOS เวอร์ชั่น 10.13 High Sierra ที่เป็นการอัพเกรดความสามารถเพิ่มเติมเล็กๆน้อยๆบางส่วนอย่าง
- บราวเซอร์ Safari มีความไวขึ้น พร้อมทั้งผสานความสามารถในการบล็อกวิดีโอที่เล่นอัติโนมัติ
- Photos มีการจัดหมวดหมู่ใหม่ให้ใช้งานง่ายขึ้นพร้อมทั้งเพิ่มเติมเครื่องมือแต่งภาพให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
- ยกเลิกระบบ HFS+ ที่ใช้มากว่าสามสิบปีแล้วเปลี่ยนไปใช้ Apple File System ซึ่งมีความเสถียรและรวดเร็วมากกว่า
- รองรับการเข้ารหัสวิดีโอแบบใหม่ที่ช่วยให้ทำงานได้ดีกับวิดีโอประเภท 4K มากยิ่งขึ้น (H.265)
iMac Pro
หลายคนคงรู้จักคอมพิวเตอร์ iMac ที่เพิ่งออกรุ่นใหม่ไปไม่นาน ครั้งนี้แอปเปิลก็ได้อัพเกรดความสามารถอีกขั้นด้วยการอัพเสปคกลายเป็น iMac Pro ที่ถึงแม้จะยังพัฒนาไม่เสร็จแต่ก็เอาความสามารถบางส่วนมาเรียกน้ำย่อยเหล่าสาวกกันภายในงาน ตั้งแต่ CPU 18-Core, ใช้ Radeon Vega ประมวลผลกราฟฟิก, หน้าจอคมชัดระดับ 5K, รองรับการตัดต่อภาพยนตร์ระดับ 4K + กราฟฟิก 3D รวมไปถึงรูปลักษณ์ดีไซน์ที่มาในโทนสีดำเรียบหรูทั้งตัวเครื่อง เมาส์ และคีย์บอดร์ดเลยทีเดียว
iPad Pro
หลังจากประสบความสำเร็จในรุ่นที่แล้ว มาคราวนี้แอปเปิลขอเพิ่มขนาดหน้าจอเป็น 10.5 นิ้วพร้อมกับฟังก์ชั่นต่างๆดังนี้
- หน้าจอกว้างขึ้นเป็น 10.5 นิ้วในขณะที่รูปทรงของเครื่องนั้นบางลง
- รองรับโหมด True Tone Display ที่เป็นการปรับโทนสีของหน้าจอให้เข้ากับสภาพแวดล้อม
- ทำงานร่วมกับ Apple Pencil ได้ดียิ่งขึ้น
- ชิบประมวลผลใหม่ Apple A10X ขนาด 6-Core ที่ประมวลผลเร็วกว่าเดิมถึง 30%
- กล้องดิจิตอลความละเอียด 12 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอ 4K ได้
- กล้องหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล
- ความจุเริ่มต้นที่ 64 GB
iOS 11
นอกเหนือจากซอฟท์แวร์เวอร์ชั่นใหม่ของเครื่อง Mac และ Apple Watch แล้ว ในงานนี้แอปเปิลก็ยังได้เปิดตัว iOS 11 ที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงอีกเช่นเคย โดยในภาพรวมจะเน้นไปที่การแก้ไขอินเตอร์เฟสให้ใช้งานง่ายมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงเพิ่มเติมฟังก์ชั่นพื้นฐานที่จำเป็นลงไปดังนี้
- ปรับอินเตอร์เฟสของ iMessages ให้ใช้งานง่ายมากยิ่งขึ้น
- รองรับการโอนเงินในระบบ Apple Pay ผ่านการแชท iMessages
- ปรับปรุงความสามารถของ Apple Maps ให้แม่นยำเทียบเท่า Google Maps
- เพิ่มฟังก์ชั่น Do Not Disturb สำหรับการเชื่อมต่อ CarPlay โดยจะไม่มีฟีด Notification เด้งขึ้นมาบนจอขณะขับรถ
- ปรับปรุงแอป Home ให้รองรับการใช้งาน Speaker และสามารถเล่นเพลงพร้อมกันได้หลายๆลำโพงในแอป AirPlay 2
- เปิดตัว MusicKit for Apple Music
- ปรับปรุงหน้าตาอินเตอร์เฟสของ App Store ใหม่
- Siri สามารถ Translate ภาษาได้ โดยรองรับเบื้องต้นที่ 5 ภาษา ได้แก่ จีน, เยอรมัน, ฝรั่งเศส, อิตาลี และสเปน
- โหมดกล้องสามารถถ่ายรูปคมชัดได้มากขึ้นแต่ไฟล์ภาพเล็กลง
- เรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้ผ่าน Machine Learning
- ออกแบบหน้าตา Control Center ใหม่ให้ใช้งานได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
- ชูเทคโนโลยี AR ให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันด้วยการเปิดตัว ARKit ให้กับนักพัฒนา
HomePod
ถึงจะมีรูปลักษณ์ที่ค่อนข้างแปลกๆไปสักหน่อยแต่เจ้าลำโพงอัจฉริยะ HomePod ก็จัดเต็มทางด้านฟังก์ชั่น ไม่ว่าจะเป็น
- สามารถสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Siri
- ภายในประกอบไปด้วยลำโพงชิ้นเล็กๆจำนวน 7 ชิ้น ที่กระจายพลังเสียงได้รอบด้าน
- ใช้ชิปประมวลผลตัวเดียวกับ iPhone อย่าง A8
- มีหน้าจอแสดงผลว่า Siri กำลังแสตนด์บายอยู่ทางด้านบนของตัวเครื่อง
- รองรับการเชื่อมต่อกับ HomeKit ในการออกคำสั่งเปิดปิดไฟหรือล็อกบ้าน เป็นต้น
- เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ง่ายผ่านระบบ Bluetooth
ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก: www.apple.com
เรื่องโดย: Nomad609
ภาพประกอบ: www.apple.com