LEICA ไม่ได้แพงไร้สาระ
เพราะนี่คือ Iconic Camera เป็นตำนานที่ยังมีชีวิต
หลายคนคงเคยตั้งคำถามว่า “ทำไมกล้อง Leica ถึงได้แพงนักแพงหนา” แล้วคนที่ยอมเสียเงินไปกับกล้องแบรนด์นี้คุ้มค่าแล้วจริงๆ หรือ? ทุกคำถามในวันนี้เราหาคำตอบมาให้แล้ว
เพราะ LEICA ไม่ใช่แค่กล้อง แต่เป็น iconic ที่บ่งบอกถึงความหรูเท่อย่างมีคลาส การมีกล้อง LEICA ไว้ครอบครองจึงบ่งบอกได้มากกว่าความรวยจากราคากล้องที่แสนแพง แต่ยังหมายรวมถึงรสนิยมและไลฟ์สไตล์ สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าราคาที่แพงลิ่วของกล้องตัวนี้คือความเก๋าที่กลายเป็นตำนาน จนทำให้ LEICA กลายเป็นกล้องคลาสสิกที่นักสะสมอยากมีไว้ครอบครองสักตัว
หากพูดถึงเรื่องคุณภาพของภาพถ่ายจาก LEICA ยอมรับว่ากล้องตัวนี้ไม่อาจสู้ DSLR สัญชาติญี่ปุ่นอย่าง Nikon หรือ Canon ได้ ในทางตรงกันข้ามกล้องรุ่นใหม่ก็ไม่อาจเทียบความเก๋าของกล้อง LEICA ได้เช่นกัน โดยเฉพาะเสน่ห์ที่ล้นเหลือที่ทำให้ใครหลายคนหลงรัก
หากนับอายุของแบรนด์กล้อง Leica กันจริงๆ ในปีนี้ Leica มีอายุกว่า 103 นับตั้งแต่ UR-LEICA กล้องตัวแรกที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1914 แม้ว่าช่วงเวลาหนึ่ง LEICA จะถูกลดทอนความนิยมจากการมาของกล้อง DSLR ของแบรนด์น้องใหม่ แต่นั่นก็ไม่สามารถล้ม LEICA ลงได้ โดยเฉพาะ LEICA M3 ที่ถูกยกให้เป็น Iconic Camera ด้วยการครองยอดขายสูงสุดในช่วงปี ค.ศ. 1954 – 1966 ซึ่งกล้อง LEICA M3 ถูกขายไปมากกว่า 220,000 ตัว
จุดเริ่มต้นของการเป็นตำนาน เริ่มจาก LEICA 1 กล้องตัวแรกที่วางจำหน่ายในงาน Leipzig Spring Fair LEICA เมื่อปี ค.ศ. 1925 ซึ่งการวางจำหน่าย LEICA 1 ทำให้อุตสาหกรรมการถ่ายภาพในช่วงเวลานั้นเกิดจุดเปลี่ยน เพราะ LEICA 1 ใช้ฟิล์มขนาด 35 มม. ซึ่งเป็นฟิล์มที่ใช้ถ่ายภาพยนตร์ แม้ว่าการใช้ฟิล์มขนาด 35 มม. ในกล้องถ่ายรูปจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ LEICA กลับเป็นบริษัทแรกที่สามารถใช้งานฟิล์มขนาด 35 มม.ได้จริง ซึ่งกลายมาเป็นต้นแบบของกล้องฟิล์มนับจากนั้นจนถึงปัจจุบัน
ด้วยศักยภาพ ณ ช่วงเวลานั้นทำให้ช่างภาพมืออาชีพระดับโลกหลายคนหันมาใช้กล้อง LEICA จนเกิดภาพถ่ายในตำนานอย่างภาพ ‘จุมพิตหญิงสาวโดยกะลาสีชาวอเมริกันในวัน V-J Day’ (วันประกาศชัยชนะของอเมริกาเหนือญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2) ซึ่งถูกถ่ายขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1945
สิ่งหนึ่งที่ทำให้กล้อง LEICA เป็นที่ยอมรับนับจากอดีตจนถึงปัจจุบันคือ “เลนส์” ที่ได้มาตรฐาน โดย LEICA คอนเฟิร์มว่าเลนส์ทุกตัวทำขึ้นด้วยมือจากช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญ เช่นเดียวกันกับตัวบอดี้ของกล้อง และแม้ LEICA จะคงดีไซน์คลาสสิกสายวินเทจเอาไว้อย่างเหนี่ยวแน่น แต่ LEICA ก็ไม่หยุดพัฒนาศักยภาพของกล้อง อย่าง LEICA M10 ซึ่งเป็นกล้อง Rangefinder แบบดิจิตอลซึ่งมีการปรับเปลี่ยนเรื่องเซนเซอร์จาก LEICA M9 ให้เป็นเซนเซอร์ที่มีความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ฯลฯ การไม่หยุดอยู่กับที่ ขณะเดียวกันก็คงยึดมั่นในคุณภาพและรักษาเอกลักษณ์ จึงไม่แปลกหาก LEICA จะกลายเป็นกล้องในตำนานและเป็นไอเท็มที่ควรค่าแก่การครอบครอง
เสน่ห์อีกข้อของ LEICA คือความเรียบง่ายที่หาไม่ได้ในกล้องปัจจุบันกลับกลายเป็นข้อดีที่ส่งให้ LEICA ขึ้นแท่นกล้องในดวงใจของคนรุ่นใหม่ทั้งแง่ดีไซน์และฟังก์ชั่น โดย LEICA ที่ยังคงเป็นกล้อง Rangefinder ที่ใช้งานง่ายผ่านปุ่มควบคุมเพียง 2 ตัว โดยเมื่อผู้ใช้งานได้ตั้งค่ารูรับแสงแล้ว กล้องจะตั้งค่าของระยะเวลาของชัตเตอร์ที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ หรือแม้แต่เสียงซัตเตอร์ที่นุ่มลึกอย่างมีเอกลักษณ์ก็กลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้หลายคนหลงใหล
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ LEICA กลายเป็นตำนานที่มีคุณค่าและเป็นกล้องระดับ Hi-End ซึ่งได้กลายเป็นสัญญะที่สื่อถึงรสนิยม ไลฟ์สไตล์ และความหรูหราอย่างมีระดับของผู้ชาย ดังนั้นราคาที่ใครหลายคนว่าแพงแสนแพง จึงไม่ใช่ความแพงอย่างไร้สาระ
อ้างอิง:
• longtunman.com
• www.aripfan.com
SEE MORE…
