เปิดตัว GoPro HERO8 BLACK, Mods และ GoPro MAX
HERO8 Black
HERO8 Black นับเป็นกล้องขั้นสุดยอดในตระกูล HERO ด้วยคุณสมบัติอย่าง HyperSmooth 2.0 ที่เพิ่มระดับความนิ่งของวีดีโอให้ดียิ่งขึ้นและสามารถรองรับได้สำหรับการถ่ายในทุกโหมด และทุกเฟรมเรต รวมถึงโหมดใหม่อย่างบูสท์ (Boost) เพื่อสัมผัสกับวิดีโอที่นิ่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา และฟังก์ชันล่าสุดกับ Horizon leveling ที่ใช้ได้ร่วมกับ GoPro App ที่จะทำให้วีดีโอของคุณไม่มีเอนเอียงอีกต่อไป ตามมาด้วย TimeWarp 2.0 ที่พร้อมปรับความเร็วอัตโนมัติเพื่อให้ได้วีดีโอที่ดีที่สุด และยังสามารถลดความเร็วการเคลื่อนไหวให้ช้าลงแบบเรียลไทม์ได้เพียงแตะหน้าจอ นอกจากนี้ยังได้เพิ่ม LiveBurst เข้ามาซึ่งจะทำการถ่ายเป็นวิดีโอแบบ 3 วินาที และสามารถเลือกเฟรมที่ดีที่สุดจากวีดีโอได้ สำหรับ SuperPhoto และ HDR มีการเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายให้เร็วและคมชัดยิ่งขึ้น นอกจากนั้น HERO 8 Black ประกอบด้วยเลนส์ดิจิตัล ที่จะช่วยให้การถ่ายภาพออกมาอย่างมืออาชีพ ด้วยมุมมองตัวเลือกการถ่ายแบบมุมแคบ มุมตรง มุมกว้าง และ SuperView ซึ่งสามารถถ่ายได้แบบขอบไม่บิดเบี้ยวได้อีกด้วย และยังสามารถตั้งค่าการถ่ายล่วงหน้าได้ด้วย Capture presets เพื่อให้การใช้งานจริงสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญ HERO8 Black ได้จัดวางตำแหน่งไมโครโฟนด้านหน้าแบบใหม่ เพื่อคุณภาพของเสียงที่คมชัดแม้ในสถานการณ์ที่มีลมแรง ทั้งหมดนี้ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่คล่องตัว
https://www.facebook.com/231350416905009/posts/3271763299530357/
อุปกรณ์เสริม (Mods)
HERO8 Black ได้รับการออกแบบมาเพื่อยกระดับการสร้างคอนเทนต์ จะเป็นวิดีโอบล็อกเกอร์ ผู้ผลิตภาพยนตร์มืออาชีพ หรือครีเอเตอร์ไฟแรง ก็ทำได้มากกว่าที่เคยจินตนาการไว้ ด้วยอุปกรณ์เสริมที่ใส่ได้ง่าย รวดเร็ว สามารถเปลี่ยนกล้องตัวเดียว เป็นโปรดักชั่นเฮาส์ได้ทันที
Media Mod : มาพร้อมคุณสมบัติไมโครโฟนรอบทิศทางในตัวและพอรต์ไมโครโฟน 3.5 มม. สำหรับไมโครโฟนเสริมตัวโปรดของคุณ พอร์ต HDMI-Out และช่องยึดอุปกรณ์เสริมจำนวน 2 ช่อง
Display Mod : จอพับได้ขนาด 1.90 นิ้ว ที่ติดอยู่ด้านบนของ Media Mod จะทำให้คุณเห็นภาพตัวเองไปพร้อมกับการผจญภัย จะดูตัวอย่างภาพ หรือถ่ายภาพ ก็สามารถทำได้ และเมื่อใช้งานเสร็จก็พับเก็บเข้าที่ได้อย่างง่ายดาย
Light Mod : ช่วยมอบความสว่างถึง 200 ลูเมน 200 ลักซ์ที่ระยะ 1 ม. เพื่อปรับแสงให้เหมาะสม สามารถติดตั้งเข้ากับ HERO8 Black ด้วย Media Mod หรือยึดเข้ากับขาตั้ง GoPro ได้โดยตรง (โดยไม่ต้อง ใช้ร่วมกับกล้อง) Light Mod สามารถป้องกันน้ำได้ที่ความลึก 33 ฟุต หรือ 10 เมตร และยังมีระบบชาร์จเพื่อใช้งานอีกด้วย
MAX
MAX เสมือนมีกล้อง 3 ตัวในตัวเดียว เพราะ MAX สามารถถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอแบบดั้งเดิม และถ่ายวิดีโอแบบ360 องศาได้ด้วยหน้าจอดิสเพลย์และไมโครโฟนที่ built-in ถึง 6 ตัว ซึ่งสามารถบันทึกเสียงได้ดีที่สุด MAX ป้องกันน้ำได้ที่ความลึก 16 ฟุต หรือ 5 เมตร Max ยังรองรับ HyperSmooth นับว่าเป็นอีกขั้นของโหมดลดการสั่นไหวที่สมบูรณ์แบบที่สุด จึงให้ภาพที่ละเอียดยิ่งกว่าที่เคย รวมถึง Max TimeWarp ที่ใช้งานได้ทั้งโหมด 360 และ HERO ที่เรียกว่าใช้งานได้อย่างง่ายแต่ได้วีดีโอแบบมืออาชีพ MAX สามารถใช้โหมด Digital Lens เพื่อเลือกมุมมองการใช้งานได้มากถึง 4 แบบ รวมถึงเลนส์แบบ ultra-wide Max SuperView ซึ่งนับว่าเป็นมุมมองที่กว้างที่สุดที่ GoPro เคยมีมา นอกจากนั้น MAX ยังมี PowerPano ที่สามารถถ่ายภาพได้กว้างถึง 270° ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ด้านการตัดต่อวีดีโอแบบ 360° ผู้ใช้งานสามารถ Reframe ฉากที่ดีที่สุดได้เพื่อเพิ่ม ประสบการณ์การตัดต่อที่ดียิ่งขึ้น ยิ่งกว่านั้นยังสามารถเชื่อมสู่การตัดต่อวิดีโอทั่วไปได้อีกด้วย เพื่อความสะดวกในการใช้งานแอพโกโปรนั่นเอง เรียกได้ว่า MAX เป็นกล้องที่ให้มากกว่าความเป็นกล้อง และเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบลองนวัตกรรมใหม่ๆอีกด้วย
https://www.facebook.com/231350416905009/posts/3273243996048954/
แอพพลิเคชั่นโกโปรโฉมใหม่
หลังจากที่โกโปร (GoPro) และควิก (Quik) รวมแอพพลิเคชั่นเป็นหนึ่งเดียวเพื่อประสบการณ์การตัดต่อวีดีโอที่รวดเร็ว และสะดวกสบายขึ้นบนมือถือแล้ว แอพพลิเคชั่นโกโปรยังให้ผู้ใช้งานสามารถตัดต่อภาพและวิดีโอได้ทั้งบนกล้อง (HERO8 Black และ MAX) และบนมือถือ รวมถึงมีฟิลเตอร์ให้เลือกในการผสมผสานทั้งสำหรับคลิปเดียว หรือแบบหลายๆ คลิปมารวมกัน ทั้งยังให้ผู้ใช้งานได้สตรีมมิ่งไลฟ์ในความละเอียดสูงสุดถึง 1080p สำหรับการตัดต่อวิดีโอบนแอพโกโปร ได้มีธีมใหม่ๆจาก
GoPro Studio ให้เลือกใช้งาน ทั้งผู้ที่ชื่อชอบกิจกรรมที่ให้อะดรีนาลีนพุ่งพล่าน ผู้ที่ชอบท่องเที่ยวสไตล์แอดเวนเจอร์ หรือผู้ชื่นชอบการสร้างฟุตเทจภาพยนตร์ กระทั่งผู้สร้างคลิปเพื่อเก็บเป็นความทรงจำ โดยแอพโกโปรยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเก็บผลงานไว้เป็นแบบร่างเพื่อแก้ไข ปรับเปลี่ยน สร้างสรรค์เป็นผลงานชิ้นใหม่ได้ตลอดเวลา หรือจะแชร์ผลงานสู่โลกโซเชียลก็ทำได้ทันทีอีกด้วย
กลับมาอีกครั้งกับ GoPro Million Dollar Challenge – ถึงเวลาของ HERO8 Black และ MAX
ครั้งนี้นับเป็นอีกครั้งที่ GoPro ได้เชิญชวนผู้ใช้งานทุกท่าน มาร่วมกิจกรรมในการสร้างสรรค์วิดีโอ โดยในครั้งนี้เราขอเชิญชวนผู้ใช้ HERO8 Black และ MAX ทุกท่าน มาร่วมกิจกรรมถ่ายวิดีโอ และส่งไฟล์วิดีโอคลิปแบบ RAW ไปที่ gopro.com/milliondollarchallenge ระหว่างวันที่ 2 ตุลาคม 2562 จนถึงวันที่ 12 มกราคม 2563 โดยทีมงานครีเอทีฟของเราจะเลือกช็อตที่พวกเขาชื่นชอบมากที่สุด เพื่อนำมารวมในวิดีโอไฮไลท์ที่รวบรวมทุกคลิปโดดเด่นจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากทั่วโลก โดยผู้ชนะทุกท่านที่คลิปได้รับการคัดเลือก จะได้รับส่วนแบ่งเป็นสัดส่วนเท่าๆ กัน จากเงินรางวัลรวมทั้งหมด 1 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
ข้อมูลการวางจำหน่ายในประเทศไทย
- GoPro HERO8 Black (14,500 บาท) สามารถสั่งพรีออเดอร์ได้แล้ววันนี้ผ่านร้านค้าบางสาขาของผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทยที่ร่วมรายการ ได้แก่ Big Camera, King Power, World Camera, Power Buy, Fotofile, Jaymart, Inwgadget, Extream GoPro, EC Mall, Zoom Camera, Eastbourne, Dotlife, Digital 2Home, GoPro JarackIPSC, BananaIT, Istudio by Com7 และ IT City สำหรับลูกค้าท่านใดที่สั่งพรีออเดอร์ GoPro HERO8 Black กับร้านค้าเหล่านี้ ระหว่างวันที่ 2-14 ตุลาคม 2562 จะได้รับชุดกระเป๋ากล้อง GoPro สำหรับเดินทาง (ของมีจำนวนจำกัด) สำหรับวันที่จัดจำหน่ายและรับสินค้า จะประกาศให้ทราบภายหลังผ่านช่องทาง Facebook : GoProThailand https://www.facebook.com/GoProThailand/
- GoPro MAX (17,000 บาท) สามารถสั่งพรีออเดอร์ผ่านร้านค้าบางสาขาของผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทยที่ร่วมรายการได้เช่นกัน โดยลูกค้าที่สั่งพรีออเดอร์ GoPro MAX กับร้านค้าดังกล่าว ระหว่างวันที่ 15-21 ตุลาคม
จะได้รับแบตเตอรี่เพิ่มอีก 1 ก้อนฟรี โดย GoPro MAX Black จะออกวางจำหน่ายทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม เป็นต้นไป - อุปกรณ์เสริม (Mods) สามารถสั่งพรีออเดอร์ผ่านทาง GoPro.com ในเดือนธันวาคม