แกะดีเทล แบบทรงผม ของเหล่านางแบบในงาน London Fashion Week 2019 กับ 6 โชว์จาก 6 ช่างผมมืออาชีพระดับโลก ที่ให้เราแต่งตามได้ไม่ยาก
โชว์ 1: Adidas x Ji Won Choi
:: สไตล์ทรงผมโดย Alex Brownsell ผู้ร่วมก่อตั้ง Bleach London
Adidas Originals เปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่กับดีไซน์เนอร์อย่าง Ji Won Choi ที่งานลอนดอนแฟชั่นวีก การร่วมงานกันในครั้งนี้ระหว่าง Adidas Originals และ Ji Won Choi จะเป็นซีรีย์ที่สามของการทำงานร่วมกันกับดีไซน์เนอร์หญิง และนำแบบลายเส้นสามลายที่เป็นไอคอนนิคมาออกแบบให้ดูเก๋ไก๋ Ji Won Choi เกิดที่กรุงโซลแต่เติบโตที่ภาคตะวันตกกลางของสหรัฐอเมริกา เธอได้ศึกษาในเมืองนิวยอร์กซิตี้และที่กรุงปารีส Ji Won Choi มีประสบการณ์การทำงานด้านวัฒนธรรมต่างๆของมนุษย์ และได้นำสิ่งเหล่านี้มาออกแบบเพื่อเป็นการส่งเสริมด้านการเปลี่ยนแปลงภายในสังคมให้ดีขึ้น
แรงบันดาลใจของลุค: ความเป็นตัวเอง – เส้นผมที่เป็นธรรมชาติ นางแบบแต่ละคนจะมีลุคที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นผมตรง หยิก หยักศก หรือผมที่หยิกมาก โดยช่างผม Alex Brownsell จะเลือกใช้ไดร์เป่าผม Dyson Supersonic professional edition กับหัวอุปกรณ์หลากหลายแบบเพื่อให้เหมาะกับสภาพทรงผมของนางแบบ
- สำหรับการจัดแต่งทรงผมของสาวผมหยิกและหยิกมาก หัว diffuser จะสำคัญมาก เริ่มด้วยการสเปรย์ผมด้วยน้ำเปล่า แล้วใช้ไดร์ Dyson Supersonic ระดับความร้อนสูงสุด แรงลมต่ำสุด และใช้เทคนิคในการเป่าแห้งแบบธรรมชาติ เมื่อผมแห้งแล้วให้ใช้แปรงของ Mason Pearson และนิ้วจัดทรง
- สำหรับสาวผมหยักศก เราจะเน้นการยกระดับเพิ่มคลื่นธรรมชาติและความโค้งให้ชัดขึ้นโดยใช้แปรงช่วยจัดทรง และใช้ไดร์เป่าผมกับหัว Professional concentrator nozzle ที่ระดับความร้อนและแรงลมสูง
- สำหรับสาวผมตรง Alex จะสเปรย์ผมด้วยน้ำเปล่าแล้วเป่าแห้งด้วยไดร์เป่าผมกับหัว professional concentrator nozzle ในการทำลุคนี้ จะต้องใช้ไดร์เป่าลงจลดเส้นผม ให้ผมดูเงางาม แข็งแรง และตรงสวย
ประวัติ Alex Brownsell: Alex Brownsell เป็นสไตล์ที่มีอิทธิพลและช่างสีที่มีฝีมือ ความคิดสร้างสรรค์ที่โดดเด่นของเธอได้ปรากฏให้เห็นในหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นสำนักพิมพ์แฟชั่นอย่าง cream, British Vogue, i-D, Dazed & Confused และ นิตยสาร AnOther ซึ่งเธอได้ร่วมงานกับช่างภาพชื่อดังหลายท่าน เช่น Tim Walker, Mert & Marcus, Angelo Pennetta, Colin Dodgson, Harley Weir และ Tyrone Lebon และอื่นๆอีกมากมาย แต่เธอมีชื่อเสียงทางด้านบรรณาธิการเท่านั้น ในปี 2010 Alex ได้ก่อตั้งร้านทำผม Bleach ร่วมกับ Samantha Teasdale ซึ่งกลายเป็นร้านทำผมชื่อดังด้านการทำสีแบบ dip-dye นอกจากนี้เธอยังมีผลงานกับ Hermès, McQueen, Kenzo, Topshop และ Mango และเธอยังได้ทำงานให้กับลูกค้าชื่อดังอีกหลายท่าน เช่น Florence Welch, Georgia May Jagger, Alex Chung และ M.I.A.
โชว์ 2: Vivienne Westwood
:: สไตล์ทรงผมโดย Gary Gill
แรงบันดาลใจ: “ลุคสำหรับโชว์ของ Vivienne ได้รับแรงบันดาลใจส่วนมากมาจากตัวของเธอเอง เธอเปรียบเสมือนไอคอนสำหรับฉัน ฉันเติบโตมาโดยมีเธอเป็นแบบอย่าง ดังนั้นแรงบันดาลใจนี้จึงได้มาจากเธอ หากฉันนึกภาพสมัยฉันอายุ 25 และได้ทำงานร่วมกับ Vivienne Westwood ลุคที่ฉันสร้างก็จะเป็นแบบนี้”
วิธีทำ:
- ขั้นที่ 1: ใส่ผลิตภัณฑ์ต่างๆช่วงโคนผม
- ขั้นที่ 2: เป่าแห้งด้วยไดร์ Dyson Supersonic โดยใช้หัว professional styling concentrator เพื่อช่วยให้การเป่าความร้อนเข้าตรงถึงโคนผม ซึ่งระดับความร้อนนั้นเป็นสิ่งสำคัญ เราจะปรับให้ระดับความร้อนสูง หลังจากนั้นให้ปรับกลับเป็นความเย็นโดยทันทีเพื่อเป็นการเซ็ทวอลลุ่มที่โคนผม
- ขั้นที่ 3: เซคชั่นผมเพื่อสร้าง lift
เกี่ยวกับ Gary Gill: Gary มีประสบการณ์ในการเป็นช่างทำผมมานานกว่า 30 ปี และมีโอกาสได้ทำงานให้กับสไตล์ลิสในวงการแฟชั่นเป็นเวลา 15 ปี เขาได้ฝึกงานกับ Toni & Guy & Vidal Sassoon นอกจากความสามารถที่โดดเด่นแล้ว เขายังมีพรสวรรค์ทางการตัดผมอีกด้วย Gary ได้พัฒนาความรู้ด้านการสไตล์ทรงผมของเขามาใช้กับแฟชั่น เขาสามารถสร้างสไตล์ทรงผมทั้งของผู้หญิงและผู้ชายให้ออกมาโดดเด่นไม่เหมือนใคร Gary มีโอกาสได้ร่วมงานกับดีไซน์เนอร์ชื่อดัง ทั้ง Balenciaga, JW Anderson, Fendi, Loewe, Jil Sander, Stella McCartney, Helmut Lang, Burberry, Acne, Missoni และอื่นๆ
โชว์ 3: Roksanda
:: สไตล์ทรงผมโดย Jon Reyman
แรงบันดาลใจ: เด็กสาว ทรงธรรมชาติ ผมม้วน ลุคของโชว์ Roksanda จะมีอยู่ 2 ลุค อันแรกจะเป็นลุคแบบผมคลื่นธรรมชาติ เราอยากที่จะให้ลุคนี้ดูเป็นเด็ก ไม่โรแมนติกจนเกินไป แต่ก็ยังคงดูโมเดิร์น ส่วนลุคที่สองจะเป็นทรงธรรมชาติ ผมม้วน ในการเตรียมทรงผม เราจะใช้ผลิตภัณฑ์ Aveda Volumising tonic ซึ่งจะเป็น polymer แบบเบาบาง ช่วยในการเซ็ทผมในขณะเป่าแห้งให้เป็นทรง
- ลุคที่ 1: เป่าแห้งด้วยไดร์ Dyson Supersonic hair dryer โดยใช้แปรงม้วนผมช่วงปอยผมเล็กๆ ใช้ความร้อนของไดร์ Dyson Supersonic เพื่อสร้างลุคที่ดูเป็นคลื่นธรรมชาติ
- ลุคที่ 2: เป่าแห้งด้วยไดร์ Dyson Supersonic จัดผมให้มาอยู่ตรงกลางแบบ off-centre parting แล้วให้ใช้แปรงหวีไปข้างหลังให้อยู่ระดับต่ำลงมาหน่อย แล้วให้ม้วนผมให้แน่น เหลือปลายผมบางส่วน ทำให้ดูเป็นลุคแบบไม่ตั้งใจ แต่ก็ยังดูสวยงาม
เกี่ยวกับ Jon Reyman:Jon Reyman เป็นทั้งช่างผม เจ้าของธุรกิจ นักการศึกษา และยังเป็นพันธมิตรที่ทำงานร่วมกับนักออกแบบที่มีอิทธิพลหลายท่าน เขาเป็นผู้นำโชว์กว่า 20 โชว์ ในช่วงงาน Fashion Week โดยทำงานร่วมกับทีมทั้งในนิวยอร์กและลอนดอน เขาจัดว่าเป็น go-to สไตล์ลิสต์ สำหรับบรรณาธิการด้านความงามในนิวยอร์กและลอสแองเจลิส ชื่อของ Jon ถูกเอ่ยถึงทั้งในนิตยสาร Vogue, Harper’s Bazaar, Allure แลพ Refinery 29 และอื่นๆอีกมากมาย
ในฐานะนักการศึกษาและเจ้าของธุรกิจJon ได้ก่อตั้งธุรกิจซาลอน Pro RX ซึ่งเป็นหลักสูตรทางเทคนิคออนไลน์ที่ครอบคลุมที่สุด มีสถาบันทั่วโลก และเขาก็ได้เปิด Spoke & Weal ซึ่งเป็นธุรกิจร้านเสริมสวยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล มีสาขาทั่วสหรัฐอเมริกา รวมทั้งซานฟรานซิสโกและนิวยอร์กเขาได้ใช้ทักษะด้านเทคนิคและความคิดสร้างสรรค์ของเขาเพื่อส่งเสริมผู้อื่น และ Jon ยังให้ความสำคัญกับสารประโยชน์และความเรียบง่ายในงานของเขาอีกด้วย เขามองเห็นความหมายและความงามในสิ่งที่มีอยู่แบบธรรมชาติ
โชว์ 4: JW Anderson
:: สไตล์ทรงผมโดย Anthony Turner
แรงบันดาลใจ: ลุคนี้จะเป็นลุคที่ดูมีมโนทัศนศิลป์มากๆ มีความละเอียด กึ่งหญิงและชาย เป็นลุคที่ใช้ทรงผมของ Lego เป็นแบบอย่าง มีความเงางาม เหมือนใส่หมวกกันน็อคให้นางแบบแต่ละคน
- ขั้นที่ 1: ใส่ผลิตภัณฑ์เจลเป็นเซคชั่น ตั้งแต่ช่วงปลายผมจนถึงด้านบนศีรษะ
- ขั้นที่ 2: แบ่งเซคชั่นเป็นทรงสามเหลี่ยมจากด้านหน้า ไปทางมุมคิ้วจนถึงด้านบนของศีรษะ
- ขั้นที่ 3: รวบเศษผมที่เหลือให้เป็นหางม้ามาทางด้านหลัง แล้วใช้หลังยางมัดให้ตึง
- ขั้นที่ 4: หวีตรงส่วนสามเหลี่ยมมาทางด้านหน้า แล้วจัดทรงให้ติดหน้าผากโดยใช้เจล
- ขั้นที่ 5: จากนั้นให้ใช้เจลที่ปลายหางม้า และจัดทรงของเส้นผมให้เหมือนการ์ตูนทางฝั่งด้านหน้าของใบหน้า
- ขั้นที่ 6: ใช้ไดร์ Dyson Supersonic กับหัว diffuser เป่าให้เจลแห้งจนแข็ง
คำกล่าวจาก Anthony: “ลอนดอนแฟชั่นวีคซีซั่นนี้ เป็นงานสไตล์ทรงผมที่สนุกมาก เรามีการใช้สีสันอันหลากหลาย เราได้เห็นทรงผมหลากหลายทรง เห็นลุคที่ดูมีมโนทัศนศิลป์ เหมือนที่เราออกแบบให้กับ JW Anderson ซึ่งเป็นความงามที่โดดเด่น”
โชว์ 5: Erdem
:: สไตล์ทรงผมโดย Anthony Turner
แรงบันดาลใจ: ลุคนี้จะดูเป็นผู้ใหญ่ – ทรงด้านหลังจะจะเรียบตรงขึ้นดูคล้ายกับทรงผมผู้หญิงสมัยก่อน ส่วนด้านหน้าก็จะตรงไปทางด้านหลัง โดยจะไม่มีการบิดหรือเกล้ามวยผม ซึ่งจะทำให้ดูเป็นลุคเหมือนในสมัยใหม่
วิธีทำ:
- ขั้นที่ 1: ใส่ผลิตภัณฑ์ Volumizing mousse ที่โคนผม แล้วให้เป่าให้แห้งโดยใช้ไดร์ Dyson Supersonic กับหัว styling concentrator เพื่อช่วยในการเป่าให้ถึงโคนผม และทำให้ผมเรียบ
- ขั้นที่ 2: หลังจากนั้นให้นำ horseshoe เซคชั่น จากช่วงบนศีรษะถึงช่วงบนของใบหูโดยรอบ รวมทั้งเซคชั่นทางด้านหลังรวบขึ้นให้เป็นหางม้าแล้วจัดทรงเป็นมงกุฎโดยใช้ hairspray ช่วยจัดทรง และใช้วิธียีผมที่หางม้าให้ผมที่ยีใหญ่เป็นปุย
- ขั้นที่ 3: เซคชั่นผมทางด้านหน้า โดยใช้ hairspray ช่วยจัดทรง และให้ยีผมแต่ละเซคชั่นขึ้น หลังจากนั้นให้สมูททุกอย่างให้เป็นทรง ‘anti-head’ ซึ่งทรงจะยื่นออกไปทางด้านหลังของศีรษะ จะไม่เหมือนกับทรงแบบคลาสสิคสมัยก่อน
- ขั้นที่ 4: ช่วงทางด้านหลังทรงผม ใช้ไดร์ Dyson Supersonic เป่าใกล้เข้าไปที่ท้ายทอย แล้วเป่ากวาดขึ้นไป เพื่อจัดทรงผมให้ไปตามทิศทาง ปิดท้ายด้วยการสเปรย์ผมที่ด้านบน
โชว์ 6: Emilia Wickstead
:: สไตล์ทรงผมโดย Benjamin Muller
แรงบันดาลใจ: แรงบันดาลใจนี้มากจากผู้หญิงซิซิลี ให้นึกถึงหนังเรื่อง The Godfather และยังสะท้อนให้เห็นถึงการเลือกสถานที่จัดแสดงที่ดูเป็นโทนมืดและเป็นส่วนตัว
- ลุคที่ 1 – ‘The Mother look’: ลุคนี้จะโฟกัสที่รูปทรงของศีรษะ ผมจะถูกกวาดไปทางด้านข้าง และแบ่งนำผมลงมาช่วงกลางให้ผมอยู่เหนือหน้าผาก จัดเป็น hair line ให้แน่น แล้วจบด้วยการม้วนเป็น bun ซึ่งลุคนี้จะมอบความรู้สึกเหมือนชายหน่อยๆ และต้องทำให้ผมดูเงาประกาย
- ลุคที่ 2: ‘The younger version’: ลุคนี้จะดูเด็ก มีความสนุกสนาน มีความเย้ายวน และกลิ่นอายของยุค 1960 ซึ่งเข้ากับชุดแบบทางการ gala-style ที่นางแบบจะได้ใส่โชว์
วิธีทำ: (ลุคที่ 2)
- ขั้นที่ 1: เริ่มด้วยการเป่าแห้งด้วยไดร์ Dyson Supersonic โดยใช้แปรงหัวกลมเพื่อสร้าง texture และสมูทผมขึ้นให้เป็นหางม้า
- ขั้นที่ 2: แบ่งผมหางม้าเป็น 5 หรือ 6 เซคชั่น เป่าแห้งให้เป็นม้วนแล้วให้ใช้กิ๊บปักให้เป็นทรง หลังจากนั้นให้สมูทโคนผมเพื่อให้ดูเรียบและบาง
- ขั้นที่ 3: แบ่งผมหางม้าให้เป็นสองซีก แล้วใช้กิ๊บปักแต่ละข้างไปทางด้านหลังใบหู จบด้วยการใช้โบว์ประดับ
เกี่ยวกับ Benjamin Muller: Benjamin เป็นช่างทำผมชาวฝรั่งเศส เขาได้เรียนรู้วิธีการ ความชำนาญ เทคนิคต่างๆ และความเชี่ยวชาญอันล้ำเลิส จากประสบการณ์การเป็นผู้ช่วนคนแรกของ Guido Palau ในระยะเวลาเจ็ดปีที่ผ่านมา
ปัจจุบัน Benjamin มีอาชีพเป็นของตนเอง เขาได้ร่วมงานกับศิลปินและเอเจนซี่อย่างหลากหลาย อาทิ Jamie Hawkesworth, Richard Burbridge, Karl Temper, Ronnie Cooke Newhouse, Benjamin Bruno, MM Paris, Lacey, Fumiko Imano และ Baron & Baron นอกจากนี้เขายังได้ทำงานร่วมกับแบรนด์ดังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Dior, McQueen, Coach, Ellery, Khaite, Hugo Boss, Dion Lee และ NARS ล่าสุด Benjamin ได้ทำงานร่วมกับ Emilia Wickstead ที่โชว์ FW19 เป็นซีซั่นที่สองในกรุงลอนดอน
