สัมผัสเรื่องราวประวัติศาสตร์ของแบรนด์ไวน์ชื่อดังระดับโลก “PENFOLDS”

สัมผัสเรื่องราวประวัติศาสตร์ของแบรนด์ไวน์ชื่อดังระดับโลก “PENFOLDS”

ร่วมสัมผัสเรื่องราวประวัติศาสตร์อันยาวนานของแบรนด์ไวน์ชื่อดังระดับโลก ‘เพนโฟลด์’ (PENFOLDS) ในงานเปิดตัวไวน์คอลเลกชั่นใหม่ประจำปี 2018

หลังจากที่เปิดตัวไวน์รุ่นแรกขึ้นในปี ค.ศ. 1844 รสชาติไวน์อันยอดเยี่ยมของ ‘เพนโฟลด์’ (PENFOLDS) นั้นเป็นที่ถูกใจของเหล่านักดื่มไวน์จำนวนมาก และยังคงรังสรรค์ไวน์ให้มีรสชาติหลากหลายออกมาตลอดในระยะเวลากว่า 175 ปี โดยล่าสุดแบรนด์ไวน์คุณภาพเยี่ยมจากประเทศออสเตรเลียนี้ ได้จัดนิทรรศการนำเสนอเรื่องราวความเป็นมาของแบรนด์ในรูปแบบของอุโมงค์ประวัติศาสตร์อันน่าสนใจ พร้อมเปิดตัวผลงานชิ้นมาสเตอร์พีซโดยศิลปินชื่อดังกับการนำรูปปั้นช้างที่เป็นสัญลักษณ์เมืองไทยมาบรรจงสร้างสรรค์ลวดลาย ‘เพนโฟลด์’ (PENFOLDS) ลงไปอย่างงดงาม และร่วมดื่มด่ำกับไวน์ชั้นเลิศในคอลเลกชั่น 2018 ซึ่งเปิดตัวที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ถูกจับคู่มาพร้อมกับอาหารเลิศรสอย่างลงตัวท่ามกลางบรรยากาศของริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมด้วยนักผลิตไวน์ชื่อดัง ปีเตอร์ เกโก (Peter Gago) มาร่วมพูดคุยถึงการทำไวน์ในคอลเลกชั่น 2018 นี้ ในวันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ที่โรงแรมอนันตรา ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ รีสอร์ท

โดยในงานได้รับเกียรติจากเหล่าแฟนคลับ ‘เพนโฟลด์’ (PENFOLDS) เข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์, ณชนก รัตนทารส, อรชุมา ดุรงค์เดช, เดิมพัน-เมลนีย์ อยูวิทยา, กรุณา วัจนะพุกกะ, ชนินธิดา จันทรุเบกษา, ทศพล ธีระวิทยภิญโญ, รริส อยู่วิทยา, ญาดา รุ่งวัฒนภักดิ์, พิมสิริ นาคสวัสดิ์, เฟิม หงสนันทน์, สิริโสภา จุลเสวก, ทิพย์ระวี ภู่ไชย, ณัฐวินท์ วงศ์ญาพรหม, สิทธิพงษ์ เหมเรืองเงิน, วิทวัส อัครพงศ์พิศักดิ์ และอีกมากมาย

ปีเตอร์ เกโก (Peter Gago) เผยถึงความรู้สึกที่ได้จัดงานเปิดตัวไวน์ครั้งแรกที่ประเทศไทย พร้อมพูดถึงไวน์รุ่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดว่า “เราได้นำไวน์เข้ามายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาหลายทศวรรษแล้ว และวันนี้รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะเปิดตัวไวน์คอลเลกชั่น 2018 ที่กรุงเทพฯ แห่งนี้ ซึ่งคอลเลกชั่นนี้นับเป็น 175 ปีแห่งการสั่งสมประสบการณ์และความมานะอุตสาหะในการทำไวน์ โดยไวน์รุ่นเด่นของคอลเลกชั่นนี้แน่นอนว่าจะต้องเป็นเกรนจ์ (Grange) ซึ่งเราได้เพิ่มส่วนผสมขององุ่นรัททันบัลลีย์ (Wrattonbully) เข้าไปในงานเปิดตัวเมื่อปี 2014 ส่งผลให้เกรนจ์กลายเป็นไวน์ไอคอนของ เพนโฟลด์ (PENFOLDS) โดยได้รับคำชมจากเหล่านักวิจารณ์ทั่วโลก ซึ่งโรเบิร์ต ปาร์กเกอร์ (Robert Parker) ได้ให้คะแนนเกรนจ์รุ่นปี 2014 สูงถึง 98 คะแนนจาก 100 คะแนนเต็ม โดยลงความเห็นว่าเป็นไวน์ที่เข้มข้นนุ่มลึกที่สุดเท่าที่เคยดื่มมา”

โดยไวน์ ‘เพนโฟลด์’ (PENFOLDS) คอลเลกชั่น 2018 นี้ นับเป็นการสื่อถึงความเป็นมาอันยาวนานของแบบแผนการคัดสรรองุ่นพันธุ์ดีที่สุดจากแหล่งไร่องุ่นที่ดีที่สุดในออสเตรเลีย รวมถึงความพิถีพิถันในการรังสรรค์ไวน์ก็ได้เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดเป็นไวน์รสชาติยอดเยี่ยมเหล่านี้ ซึ่งรุ่นเด่นอย่างเกรนจ์ (Grange) คือผลงานที่แสดงถึงความพยายามในการสร้างสรรค์ และยังเป็นรุ่นที่ แม็กซ์ ชูเบิร์ต (Max Schubert) หัวหน้านักทำไวน์คนแรกของ ‘เพนโฟลด์’ (PENFOLDS) เป็นผู้คิดค้นเอาไว้ โดยรุ่นปี 2014 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากนั้นนับเป็นการให้เกียรติต่อ แม็กซ์ ชูเบิร์ต (Max Schubert) อย่างแท้จริง

นอกจากไวน์รุ่นเด่นอย่าง เกรนจ์ (Grange) ทาง ‘เพนโฟลด์’ (PENFOLDS) ยังมีไวน์อีกหลากหลายประเภทที่ให้รสชาติที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน อย่างรุ่น บิน 389 กาแบร์เน ชีราซ ปี 2016 (Bin 389 Cabernet Shiraz 2016) ด้วยรสชาติที่มีการผสมผสานของสองสายพันธุ์องุ่นซึ่งยังคงสร้างคาเรคเตอร์ให้กับรสชาติได้อย่างลงตัว รวมถึงตระกูลไวน์ขาวอย่าง บิน 311 ชาร์ดอนเนย์ (Bin 311 Chardonnay) ที่คัดสรรองุ่นชั้นดีจากแหล่งที่ดีที่สุด โดยในปี 2017 การคัดสรรองุ่นได้เลือกจากถิ่นฐานในหลากหลายพื้นที่ในเขตที่มีอากาศเย็นอย่างแอดิเลด ฮิลล์ (Adelaide Hills), แทสมาเนีย (Tasmania) และทัมบารัมบา (Tumbarumba) โดยในกรรมวิธีการหมักบ่มนักทำไวน์ได้เพิ่มการหมักบ่มในถึงไม้โอ๊คเข้าไปเล็กน้อย เพื่อประสานความกลมกลืนให้กับองุ่นที่มาจากแต่ละพื้นที่

เกี่ยวกับ ‘เพนโฟลด์’ (PENFOLDS)

นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1844 ‘เพนโฟลด์’ (PENFOLDS) มีบทบาทสำคัญในการบุกเบิกวิวัฒนาการของการทำไวน์ด้วยประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมของประเทศออสเตรเลียตั้งแต่ยุคเริ่มต้นจวบจนกระทั่งมาถึงปัจจุบัน โดยยังคงนำเสนอความเป็น House Style ที่มีเอกลักษณ์ นับเป็นที่สุดของการสื่อถึงความเป็นมาอันยาวนานของแบบแผนการผลิต การคัดสรรองุ่นพันธุ์ดีจากแหล่งปลูกที่ดีที่สุด โดยคอลเลคชั่นไวน์รุ่นสำคัญจาก ‘เพนโฟลด์’ (PENFOLDS) นั้นมาจากการรังสรรค์นวัตกรรมและการพัฒนาเพื่อคุณภาพอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเห็นได้จากการพัฒนาไวน์รุ่น เกรนจ์ (Grange) ที่มีความเป็นมาอันยาวนาน และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สิ่งเหล่านี้ได้สร้างความเชื่อมั่นว่า ‘เพนโฟลด์’ (PENFOLDS) ยังคงรังสรรค์ไวน์ที่มีคุณภาพเยี่ยมต่อไป พร้อมนำเสนอเรื่องราวและปรัชญาเบื้องหลังการทำไวน์แต่ละชนิดเพื่อนำมาซึ่งคุณภาพอันเหนือกาลเวลา ทำให้ไวน์ของ ‘เพนโฟลด์’ (PENFOLDS) มีความพิเศษที่นักดื่มทั่วโลกมองหา

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลิ้มรสไวน์รสชาติยอดเยี่ยมระดับโลกจาก ‘เพนโฟลด์’ (Penfolds) ได้แล้ววันนี้ที่ วิลล่า มาร์เก็ต, ฟู้ดแลนด์, ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไวน์ เซลล่าร์ กูร์เมต์ มาร์เก็ต, เทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี, แม็กซ์แวลู, ยูเอฟเอ็ม ฟูจิ ซูเปอร์ และร้านจำหน่ายไวน์ชั้นนำทั่วประเทศ หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.penfolds.com, Facebook: Penfolds, Twitter: Penfolds, Instagram: Penfolds และ YouTube: PenfoldsEST1844

 

THE PENFOLDS COLLECTION 2018

• ตระกูลไวน์ชั้นเยี่ยมที่มีคุณลักษณะของวัตถุดิบ กรรมวิธีการผลิต คุณภาพ และแหล่งที่มาแตกต่างกันไป นับเป็นข้อพิสูจน์ของสุดยอดไวน์แบบ ‘House Style’ และปรัชญาการทำไวน์ที่ Penfolds ยึดถือด้วยความภาคภูมิใจมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1844
• ปรัชญาการเลือกองุ่นของ Penfolds แบ่งออกเป็น 3 สไตล์ที่ต่างกันโดยมีลักษณะเฉพาะตัว ได้แก่ เลือกองุ่นจากไร่เดียว หรือแคว้นเดียว รวมถึงการใช้สายพันธุ์องุ่นแบบผสมผสาน
• หัวใจแห่งปรัชญาการทำไวน์นี้คือความสมดุลที่ได้มาจากความเชื่อมั่นอันยาวนานว่า ไวน์ต่างๆ ของ Penfolds จะต้องมีการพัฒนาคุณภาพการผลิตอย่างพิถีพิถันอยู่เสมอ และจะต้องนำสุดยอดของรสชาติที่มอบความพึงพอใจสูงสุดตั้งแต่วันที่มีการเปิดตัว
• ไวน์แต่ละรุ่นนั้นควรค่าแก่การเป็นส่วนหนึ่งของตระกูล Penfolds ซึ่งล้วนเป็นไวน์ที่แสดงถึงจินตนาการ ความใส่ใจ และศาสตร์แห่งการทำไวน์ชั้นเลิศที่สืบทอดรุ่นสู่รุ่น โดยรวมตัวกันสร้างความพิเศษสุดให้กับ Penfolds Collection

2014 Grange – เริ่มผลิตครั้งแรกเมื่อปี 1951 ต่อเนื่องเข้าสู่ครั้งที่ 64 ราครา THB 32,000

• ปี 2014 Grange ตอบโจทย์ทุกอย่างที่ Max Schubert หัวหน้านักทำไวน์คนแรกของ Penfolds ได้วางแผนไว้ตั้งแต่ครั้งแรกว่า Grange จะต้องเป็นไวน์ที่โดดเด่นสามารถสร้างความประทับใจ และเป็นที่จำจดของนักดื่มไวน์จากทั่วโลก
• รสชาติที่หนักแน่นและทรงพลังที่สุดของไวน์ Penfolds โดยใช้องุ่นจากหลายไร่ หลายแคว้น และเทคนิคการผสมผสานขั้นสูงในการหมักบ่ม
• รังสรรค์ขึ้นจากองุ่นสุกเต็มที่ ให้รสชาติเข้มข้นเต็มรูปแบบของสายพันธุ์ Shiraz
• ด้วยความพิถีพิถันในการผลิตตั้งแต่ทดลองครั้งแรกเมื่อปี 1951 Grange มีรสชาติที่ลงตัวจากองุ่นสายพุนธุ์ Shiraz และสภาพอากาศของประเทศออสเตรเลียทางตอนใต้
• ใช้เวลาหมักบ่ม 20 เดือนในถังไม้โอ๊คอเมริกันใหม่ 100% [ช่วงเวลาเหมาะที่สุดในการดื่ม 2020 – 2045]
• Penfolds รุ่นล่าสุดปี 2014 นั้นได้เปิดตัวและพร้อมกับการเปิดตัวสู่ตลาดแล้ว Grange จะเป็นที่ชื่นชอบขนาดไหน คำตอบขึ้นอยู่กับผู้ดื่มทุกท่าน… Peter Gago หัวหน้านักทำไวน์ของ Penfolds กล่าว

2016 Bin 707 Cabernet Sauvignon – เริ่มผลิตครั้งแรกเมื่อปี 1964 ราคา THB 19,000

• ตัวแทนเฮาส์ไวน์จากองุ่น Cabernet Sauvignon อย่างแท้จริงของ Penfolds
• เผยรสองุ่นเข้มข้น สมบูรณ์แบบด้วยการหมักบ่มในถังไม่โอ๊คใบใหม่ที่สื่อถึงความรู้ความเข้าใจของ Penfolds ในด้านการใช้องุ่นจากหลายไร่องุ่น และการคัดสรรจากหลายๆ แหล่งปลูกองุ่น
• ผลิตเฉพาะช่วงปีที่องุ่นให้ผลผลิตคุณภาพสมบูรณ์เท่านั้น
• เข้มเต็มรสชาติและสามารถเก็บไว้ได้นาน Bin 707 ยังคงรักษาความเป็นไวน์ Carbenet ชั้นเลิศที่สุดในออสเตรเลียเอาไว้ได้ในการจัดอันดับ
• ใช้เวลาหมักบ่ม 20 เดือนในถังไม้โอ๊คอเมริกันใหม่ 100% [ช่วงเวลาเหมาะที่สุดในการดื่ม 2020 – 2050]
• เป็นโอกาสดีที่จะเปิดตัว ยังมีจุดเด่นอีกหลายสิ่งที่ Bin 707 Cabernet Sauvignon จะเผยออกมา… Peter Gago หัวหน้านักทำไวน์ของ Penfolds กล่าว

2016 RWT Barossa Valley Shiraz – เริ่มผลิตครั้งแรกเมื่อปี 1997 ราคา THB 7,500

• อักษรย่อ RWT มาจาก ‘Red Winemaking Trial’ ชื่อของโครงการภายในแบรนด์เกี่ยวกับการคัดสรรนักผลิตไวน์แดงที่ได้เริ่มต้นขึ้นในปี 1995
• ผลิตจากองุ่นที่คัดสรรผ่านคุณสมบัติของกลิ่นที่หอมและเนื้อองุ่นที่แน่นเต็มที่
• องุ่น Shiraz จากแหล่งกำเนิดเดียวคือ Barossa Valley ผ่านการหมักบ่มนาน 12 เดือน ในถังไม้โอ๊คฝรั่งเศส (ถังใหม่ 72%) [ช่วงเวลาเหมาะที่สุดในการดื่ม 2020 – 2040]
• ขอเตือนไว้ถึงเสน่ห์อันเหลือล้นของไวน์รุ่นนี้ เพราะความซับซ้อนของการผสมผสานในไวน์รุ่นปี 2016 นี้ ที่ประกอบด้วยองุ่นจากหลายแหล่งที่ดีที่สุดอย่าง Barossa/Shiraz… Peter Gago หัวหน้านักทำไวน์ของ Penfolds กล่าว

2015 St Henri Shiraz – ผลิตครั้งแรกเมื่อปี 1953 ราคา THB 4,300

• อาศัยช่วงเวลาและการออกผลที่หลากหลายของ Shiraz ซึ่งเป็นไวน์คู่ประสานอันน่าทึ่งของ Grange
• แม้จะมีการผสมผสานของ Cabernet ในอัตราส่วนเล็กๆ แต่องุ่นที่ใช้เป็นหลักในรุ่งนี้ยังคงเป็น Shiraz
• St Henri จะเข้มข้นในช่วงที่หมักบ่มเสร็จใหม่ๆ จากนั้นเมื่อเริ่มเก่าจะมีความอ่อนละมุน ให้ความรู้สึกถึงรสมอคค่า
• ผ่านการหมักบ่มในถังไม้โอ๊คใบเก่าขนาดยักษ์ที่ช่วยให้ไวน์มีการพัฒนารสชาติ และเผยถึงคุณสมบัติส่วนหนึ่งของไม้โอ๊คออกมาได้อย่างลงตัว [ช่วงเวลาเหมาะที่สุดในการดื่ม 2020 – 2045]
• St Henri ยังคงสื่อถึงนิยามความเป็นไวน์แดงในสไตล์ Claret ด้วยองุ่น Cabernet 7% ซึ่งชวนให้หวนรำลึกถึงยุคเก่าก่อน… Peter Gago หัวหน้านักทำไวน์ของ Penfolds กล่าว

2016 Bin 389 Cabernet Shiraz – เริ่มผลิตครั้งแรกเมื่อปี 1960 ราคา THB 3,699

• Bin 389 มักได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘Baby Grange’ เพราะส่วนประกอบในไวน์นั้นได้รับการหมักบ่มในถังเดียวกับที่เคยใช้หมักบ่ม Grange รุ่นก่อนหน้านี้
• ผสานโครงสร้างขององุ่น Cabernet Sauvignon กับความเข้มข้นของ Shiraz ที่ผสานระหว่างองุ่นกับไม้โอ๊คได้อย่างลงตัว
• หมักบ่มนาน 12 เดือนในถังไม้โอ๊คอเมริกัน (ถังใหม่ 37%) [ช่วงเวลาเหมาะที่สุดในการดื่ม 2020 – 2046]
• แน่นอนว่าไม่ใช่ Bin 389 รุ่นก่อนในอดีต แต่ในรุ่นปี 2016 นี้ยังคงรักษาสไตล์ พร้อมเพิ่มการผสมผสานระหว่างแหล่งปลูกองุ่นของ Cabernet กับ Shiraz ได้อย่างนุ่มลึก… Peter Gago หัวหน้านักทำไวน์ของ Penfolds กล่าว

2016 Bin 407 Cabernet Sauvignon – เริ่มผลิตครั้งแรกเมื่อปี 1990 ราคา THB 3,800

• เปิดตัวหลังจากเริ่มหมักบ่มในปี1990 ซึ่งในปี 1993 Bin 407 ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อนำผลผลิตคุณภาพสูงอย่างองุ่น Cabernet Sauvignon ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างมากมาใช้ในการผลิต
• เป็นการรวมมิตรองุ่น Cabernet Sauvignon จึงทำให้ Bin 407 เป็นไวน์จากองุ่นในหลายแหล่งปลูกมาผสมผสานกัน ด้วยการใช้ผลองุ่นสุกที่หมักบ่มในถังไม้โอ๊คเพียงเล็กน้อย
• หมักบ่ม 12 เดือนในถังไม้โอ๊คฝรั่งเศส (ถังใหม่ 25%) และถังโอ๊คอเมริกัน (ถังใหม่ 9%) [ช่วงเวลาที่เหมาะในการดื่ม 2020 – 2032]
• เป็นเหมือนการประสานรสชาติขององุ่นในแต่ละแหล่งปลูกทั้ง McLaren Vale Cabernet และ Coonawarra Cabernet ที่สามารถเข้ากันอย่างลงตัวเป็นอย่างมาก… Peter Gago หัวหน้านักทำไวน์ของ Penfolds กล่าว

2016 Kalimna® Bin 28 Shiraz –เริ่มผลิตครั้งแรกเมื่อปี 1959 ราคา THB 1,900

• Bin 28 นำเสนอองุ่นสายพันธุ์ Shiraz จากเขตอากาศอบอุ่นในออสเตรเลีย โดยเลือกแบบที่สุกสมบูรณ์ ให้รสชาติลงตัว
• ตั้งชื่อตาม Barossa Valley Kalimna ไร่องุ่นที่ Penfolds ซื้อเมื่อปี 1945 ซึ่งเป็นแหล่งดั้งเดิมขององุ่นที่ใช้
• ในวันนี้ Bin 28 เป็นการผสมผสานขององุ่นจากหลายไร่องุ่นจากหลายแคว้นโดยมี Barossa Valley เป็นตัวแทนหลักเสมอมา
• หมักบ่มนาน 12 เดือนในถังไม้โอ๊คอเมริกันเก่า [ช่วงเวลาเหมาะที่สุดในการดื่ม 2022 – 2034]
• และนี่คือสุดยอด Shiraz อีกรุ่นจากปี 2016 ที่มีความหนาแน่นและนุ่มมลึก… Peter Gago หัวหน้านักทำไวน์ของ Penfolds กล่าว

2016 Bin 128 Coonawarra Shiraz – เริ่มผลิตครั้งแรกเมื่อปี 1962 ราคา THB 2,100

• Bin 128 ประกอบด้วยองุ่นที่เป็นผลผลิตจากดินที่ Coonawarra แหล่งที่หล่อเลี้ยงองุ่นแดงซึ่งเปี่ยมด้วยกลิ่นหอม เนื้อสุกใสจากพื้นที่ซึ่งมีอากาศเย็น
• Coonawarra ยังคงเป็นแหล่งองุ่นสายพันธุ์ Shiraz อันดับแรกสำหรับ Bin 128 ตั้งแต่เริ่มมีการหมักบ่มครั้งแรกเมื่อปี 1962
• หมักบ่มในถึงไม้โอ๊คฝรั่งเศสถังใหม่ (30%) และถังเก่าเป็นเวลา 12 เดือน โดยกรรมวิธีที่ใช้ในช่วงยุค 1980 นั้นคือช่วงก่อนมีการปรับสู่การใช้ถังไม้โอ๊คอเมริกันเป็นฝรั่งเศส [ช่วงเวลาเหมาะที่สุดในการดื่ม 2019 – 2035]
• ช่วงอากาศเย็นในปีที่ค่อนข้างอบอุ่นนั่นคือช่วงเวลามหัศจรรย์สำหรับองุ่น Shiraz… Peter Gago หัวหน้านักทำไวน์ของ Penfolds กล่าว

2016 Bin 138 Barossa Valley Shiraz Grenache Mataro – เริ่มผลิตครั้งแรกเมื่อปี 1992 ราคา THB 2,100

• Bin 138 ได้รับแรงบันดาลใจจากไวน์ในแคว้นโรนทางตอนใต้ ที่องุ่นสายพันธุ์ Shiraz, Grenache และ Mataro (mourvèdre) นั้นผสมผสานกันในสัดส่วนที่แตกต่างเพื่อสร้างความเต็มเปี่ยมในรสชาติไวน์อันเข้มข้นที่มีกลิ่นหอม
• ในแต่ละปีองุ่นสำหรับ Bin 138 นั้นผ่านการคัดสรรจากไร่องุ่นใน Barossa Valley (ซึ่งบางแห่งมีอายุกว่า 100 ปี) จากนั้นใช้เวลาหมักบ่ม 12 เดือนในถังไม่โอ๊คฝรั่งเศสใช้แล้วและถังไม่โอ๊คอเมริกันเพื่อให้องุ่นแต่ละชนิดได้เผยรสชาติออกมาอย่างโดดเด่น[ช่วงเวลาเหมาะที่สุดในการดื่ม ปัจจุบัน – 2030]
• ประเดิมด้วยความเข้มข้นของสีที่เผยสิ่งอื่นๆ ตามมา เถาองุ่นในดินต้องการน้ำ และไวน์ในแก้วก็ต้องการอากาศ… Peter Gago หัวหน้านักทำไวน์ของ Penfolds กล่าว

2017 Bin 311 Tumbarumba Chardonnay – ผลิตครั้งแรกเมื่อปี 2005 ราคา THB 2,500

• จากสายพันธุ์องุ่นในหลายแหล่งปลูกที่มีอากาศเย็น และการเลือกองุ่นในแต่ละปีจะสะท้อนถึงสไตล์ของ Bin 311
• การคัดองุ่นในปี 2016 ใช้องุ่นจาก Adelaide Hills, Tasmania และ Tumbarumba
• Bin 311 Chardonnay สะท้อนถึงกรรมวิธีของนักทำไวน์อย่างแท้จริงที่ว่า ‘เราไปทุกหนแห่งที่องุ่นเติบโตได้ดีที่สุด’
• สไตล์การหมักบ่มคือใช้กรดจากแร่ธาตุ หมักบ่มในถังไม้โอ๊คเก่าและถังใหม่ (25%) [ช่วงเวลาเหมาะที่สุดในการดื่มคือปัจจุบัน – 2025]
• ไม่ควรละเลยองุ่นจาก Tumbarumba, Tasmania และ Adelaide Hills… Peter Gago หัวหน้านักทำไวน์ของ Penfolds กล่าว

2018 Bin 51 Eden Valley Riesling – ผลิตครั้งแรกเมื่อปี 1999 ราคา THB 1,900

• พื้นที่ราบสูงในรัฐนี้ และอากาศที่เย็นช่วยเอื้อต่อความสมบูรณ์ขององุ่นสายพันธุ์ Riesling ทำให้คงทนต่อการเก็บรักษาไวน์ไว้ได้อย่างยาวนาน
• คัดสรรองุ่นจากเขต Eden Valley แคว้นซึ่งเป็นที่รู้จักในนามแหล่งปลูกองุ่นสายพันธุ์ Riesling ระดับโลก
• ในช่วงแรกเริ่มไวน์จะเผยกลิ่นแอปเปิ้ล และมะนาวเป็นหลัก ตามด้วยแร่ธาตุ กรดธรรมชาติ ที่จะช่วยเสริมสร้างแก่นของรสชาติอย่างหนักแน่น [ช่วงเวลาเหมาะที่สุดในการดื่ม ปัจจุบัน – 2028]
• จากดินแดนมหัศจรรย์ที่อุดมสมบูรณ์ต่อการปลูกองุ่น ย่อมมาพร้อมกับรสชาติอันเลิศล้ำ… Peter Gago หัวหน้านักทำไวน์ของ Penfolds กล่าว

*Bin 2 and Bin 8 ยังคงอยู่ในช่วงการหมักบ่ม