9 ความพิเศษที่ซ่อนอยู่ใน Donki Mall Thonglor
สำรวจ Donki Mall Thonglor ศูนย์การค้าสัญชาติญี่ปุ่นที่เตรียมเปิดให้บริการในวันที่ 22 ก.พ. นี้ โดดเด่นด้วยการยกทัพความเป็นญี่ปุ่น ทั้งวัฒนธรรมการกิน ของใช้ และความบันเทิง วันนี้เราพาไปสำรวจความพิเศษของศูนย์การค้าแห่งนี้กัน!
นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก Donki Mall Thonglor ศูนย์การค้าสัญชาติญี่ปุ่นที่เพิ่เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวานนี้ (20 ก.พ. 2019) และมีกำหนดเปิดให้เราๆ ได้เข้าไปใช้บริการจับจ่ายใช้สอยในวันที่ 22 ก.พ. 2019 นี้ วันนี้เราจึงไม่พลาดโอกาสที่จะพาคุณไปสำรวจ Donki Mall Thonglor ว่าศูนย์การค้าแห่งนี้ซ่อนความพิเศษอะไรเอาไว้บ้าง
• Donki Mall Thonglor ศูนย์การค้าสไตล์ญี่ปุ่นแห่งแรกในไทย ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “FOOD, FUN, CULTURE & AMUSEMENT MALL” ศูนย์รวมร้านอาหาร ความสนุก วัฒนธรรมของญี่ปุ่น และ ความตื่นเต้นสนุกสนาน เป็นศูนย์การค้าที่นำความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ มาส่งต่อ กับพื้นที่กว้างขวาง 27,000 ตารางเมตร (3 ไร่) เป็นอาคารสูง 6 ชั้น โดยแบ่งเป็นพื้นที่รีเทล 10,000 ตารางเมตร
• Donki Mall Thonglor ตั้งอยู่ใจกลางเมืองในซอยทองหล่อ 10 หรือเอกมัย ซอย 5 แน่นอนว่าการเดินทางไปเดินเที่ยวห้างย่อมเป็นเรื่องง่าย โดยเฉพาะบริการรับ-ส่งด้วยรถ Shuttle Bus ขณะเดียวกันใครที่อยากนำรถยนต์ส่วนตัวไปก็มีที่จอดรถอำนวยความสะดวกให้มากกว่า 300 คัน ดังนั้นจึงหมดกังวลเรื่องการหาที่จอดรถยาก แต่ทั้งนี้มีค่าบริการที่จอดรถ นอกจากนี้ศูนย์การค้าแห่งนี้ยังเปิดให้บริการแบบ 24 ชั่วโมง (*แต่ละร้านค้าอาจแตกต่างต่างกันไปบ้าง)
• นำเสนอความเป็นญี่ปุ่นแท้ที่เสมือนยกญี่ปุ่นมาไว้ในเมืองไทยในราคาที่ใกล้เคียง ซึ่งจุดนี้ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของ Donki Mall Thonglor เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะในเรื่องของ ‘ราคา’ ที่หลายคนอาจคิดว่าเป็นสินค้านำเข้าเกรดดี ต้องมีราคาสูง แต่ผู้บริหารคุณโคจิ โอฮาร่า และคุณณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ ยืนยันว่า สินค้าและบริการของที่นี่จะมีราคาใกล้เคียงกับที่ญี่ปุ่น ดังนั้นอยากกินอะไร ซื้อของใช้ชิ้นไหน ก็ไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่นอีกแล้ว
• Don Don Donki หรือดอง ดอง ดองกิ ร้านค้าหลักในโครงการ Donki Mall Thonglor เปรียบเสมือนซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ออกแบบให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนเอเชีย โดยมาพร้อมแนวคิด “ร้านค้าเฉพาะแบรนด์ญี่ปุ่น” หรือ Made in Japan ที่เรียกได้ว่าประเทศญี่ปุ่นมีอะไร ที่นี่ก็มีเหมือนกัน ตั้งขนมขบเคี้ยวไปจนถึงของใช้ภายในบ้าน ใครที่ติดใจขนมของฝากจากญี่ปุ่น ลองแวะมาดูที่นี่ อาจจะเจอของชอบก็ได้ นอกจากนี้ Don Don Donki ยังมาพร้อมความตั้งใจว่า ‘ของดีจากญี่ปุ่นที่ไม่จำเป็นต้องแพง’ ดังนั้นสินค้าจึงมีราคาใกล้เคียงกับญี่ปุ่นนั่นเอง
• Karaoke Manekineko ร้องคาราโอแกะให้มันสุดๆ อีกหนึ่งไฮไลท์ที่หลายคนชื่นชอบ โดยเฉพาะเหล่านักร้องสมัครเล่นที่อยากรวมกลุ่มเพื่อนไปสนุกกับเสียงเพลง โดย Karaoke Manekineko ร้านคาราโอเกะสัญชาติญี่ปุ่นที่เข้ามาเปิดเป็นที่แรกในไทย จุดพิเศษคือห้องคาราโอเกะกว้างขวาง สะอาด พร้อมด้วยเครื่องเสียงคุณภาพใหม่เอี่ยม โดยมีให้เลือกร้องทั้งเพลงไทยและเพลงญี่ปุ่น ส่วนใครอยากไปเป็นครอบครัวก็ได้เช่นกัน เพราะที่นี่ยังมีห้อง VIP และห้องสำหรับเด็กให้บริการ ส่วนราคานั้นคิดเป็นราคาต่อคน โดยราคาอยู่ที่ 160 บาท/คน/2 ชั่วโมง (กระซิบสักนิดว่ายิ่งคนเยอะราคาต่อคนก็ยิ่งถูกลง) โดยราคานี้รวมค่าเครื่องดื่มเอาไว้แล้ว แต่ในช่วงเวลา Weekend จะมีการบอกเพิ่ม 50 บาท/คน (ช่วงเย็นวันศุกร์ 16.00 น. – อาทิตย์ 22.00 น.)
• D-Sports Stadium ครั้งแรกกับ Unexperienced Sports Facilites ให้เราเล่นกีฬากลางแจ้งในที่ร่ม โดยเนรมิตสนามกีฬากว่า 10 ประเภทมาไว้ในพื้นที่เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นกีฬาเบสบอล เทนนิส แบตมินตัน ปิงปองซึ่งมีทั้งตีคู่กับตีเดี่ยวกับเครื่อง ชกมวย บาสเกตบอล ฟุตบอลที่ให้ซ้อมแตะกับกำแพง รวมทั้งบรรดาเครื่องเล่นเกมต่างๆ ฯลฯ นอกจากนี้ยังออกแบบให้มี Party Room ที่ให้เราจัดเลี้ยงสรรค์สันและห้องสำหรรับเด็กเล็กให้บริการอีกด้วย โดยค่าบริการเริ่มต้นที่ 100 บาท/คน/ชั่วโมง แต่หากจะสมัครเป็นสมาชิกก็ไม่ว่ากัน
• ยกวัฒนธรรมการกินมาไว้ที่นี่ให้เราได้เลือกกว่า 20 ร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารเจ้าดังที่เราคุ้นเคย เช่น เทปเปน, ซางามิ, เซน ฯลฯ แต่ที่น่าสนใจคือร้านอาหารญี่ปุ่นที่มาเปิดเป็นสาขาแรกในเมืองไทย อาทิ ร้านนานะ กรีนที คาเฟ่, มิทซูโมโตะ คอฟฟี่, มา เมซง เป็นต้น
• เที่ยวสไตล์ครอบครัวไปกับ Holle Kitty Go Around Thailand ใน DownTownParty ที่นำคาแรคเตอร์จากแมวเหมียวอย่างคิดตี้มาให้เราสนุกแบบใกล้ชิดด้วยการให้เราลงมือทำด้วยตัวเอง ซึ่งประกอบด้วยร้านอาหาร Bakery Kitchen ให้บริการอบขนมปัง พิซซ่า ฯลฯ Photo House สตูดิโอถ่ายภาพที่เรารังสรรความทรงจำผ่านภาพถ่ายในท่าทางต่างๆ
• สถานที่จัดงานแห่งใหม่ @Thonglor มาพร้อมแนวคิด ‘Entertainment และ Destination ที่ไม่มีใครเทียบเคียง’ กับพื้นที่ขนาดใหญ่ที่จุคนได้มากถึง 1,500 – 2,000 คน โดยเน้นเนื้อหาที่เป็นที่นิยมของญี่ปุ่นและอาหารเครื่องดื่มในรูปแบบของการส่งสารและเผยแผ่วัฒนธรรมญี่ปุ่น