05. โคโลเมนสโกเย (Kolomenskoye)
โคโลเมนสโกเย เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และเขตอนุรักษ์ตั้งอยู่บนที่ราบสูง สามารถมองเห็นแม่น้ำ Moskva ได้อย่างชัดเจน โดยที่นี่เคยเป็นที่พักตากอากาศในชนบทสำหรับเหล่าราชวงศ์มาก่อน แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นสวนสาธารณะยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไปแล้ว ภายในยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมหลายแห่ง นับตั้งแต่ โบสถ์ Church of Ascension ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมไม้อันทรงคุณค่า ท่ามกลางบรรยากาศกลางแจ้งบนสนามหญ้าอันเขียวขจี เป็นสถานที่รวมความสวยงามต่างๆ เอาไว้ด้วยกัน เป็นสถานที่ยอดนิยมในการมาเที่ยวชม และพักผ่อนของนักท่องเที่ยวและชาวรัสเซียน
06. ศูนย์การค้ากุม (GUM)
“กุม” (GUM) จัดเป็นศูนย์การค้าเก่าแก่ สวยงาม หรูหรา และใหญ่ที่สุดในกรุงมอสโก สร้างขึ้นในปี 1895 เป็นอาคาร 3 ชั้น ออกแบบโดย Aleksander Pomerantsev ในรูปแบบที่เรียกว่า Russian Revival มีหลังคากระจกทรงโค้ง โครงเหล็กให้แสงส่องเข้ามาให้ความสว่างแก่ตัวอาคาร เพื่อประหยัดพลังงาน ปัจจุบัน นับเป็นศูนย์การค้าที่หรูหราสวยงามอลังการ ที่สำคัญตั้งอยู่บริเวณลานกว้างในย่านจัตุรัสแดง ใครตั้งใจจะมาช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมถือว่ามาถูกทาง เพราะมีช็อปแบรนด์ดังจาก ฝรั่งเศส, สหรัฐอเมริกา, อิตาลี เปิดให้บริการมากมาย ครบครันทั้งเสื้อผ้า, เครื่องสำอาง, น้ำหอม และของฝากที่ระลึก รวมไปถึงร้านอาหาร, คาเฟ่ และภัตตาคาร ซึ่งก็มีให้เลือกอิ่มอร่อยหลากหลาย
07. สถานีรถไฟใต้ดิน มอสโก (Moscow Metro)
รถไฟฟ้าใต้ดิน กรุงมอสโก ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ชาวรัสเซียน สามารถอวดชาวต่างชาติให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ ด้านประวัติศาสตร์ ความเป็นชาตินิยม และวัฒนธรรมประเพณีอันสวยงาม ด้วยการตกแต่งของแต่ละสถานีมีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สถานีรถไฟใต้ดินที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงมอสโก ได้รับการโหวตจากผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ว่าเป็นหนึ่งในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่สวยที่สุดในโลก เปรียบเสมือนพระราชวังของประชาชน Palaces for the People โดยเมื่อสร้างสตาลินสั่งไว้ว่า ต้องทำให้ผู้โดยสารหยุดมอง และชื่นชมความงาม ดุจดังชื่นชมดวงอาทิตย์
ดังนั้นผนังจึงถูกสร้างจากหินอ่อน และมีเพดานสูง สถาปัตยกรรมสุดอลังการนี้ มีความประณีต วิจิตรตระการตาอย่างยิ่ง ทำให้ไม่เบื่อกับการยืนรอรถไฟ ซึ่งโดยเฉลี่ยจะมีผู้โดยสารประมาณ 7-9 ล้านคนต่อวัน มีทั้งหมด 12 สาย 196 สถานี แต่ที่ขึ้นชื่อส่วนใหญ่จะอยู่สายสีน้ำตาลซึ่งเป็นวงแหวนรอบเมือง สถานีที่น่าสนใจ อาทิ Komsomolskaya, Mayakovskaya, Novoslobodskaya, Kievskaya, Ploshchad Revolyutsii, Taganskaya หากได้มาเที่ยวแดนหมีขาวแห่งนี้ เป็นโปรแกรมที่ต้องห้ามพลาด มาสัมผัสความสวยงาม และใช้บริการ
ตื่นตา “แสงเหนือ” น่านฟ้ารัสเซีย
นอกจากแลนด์มาร์คที่กล่าวมาแล้ว รัสเซีย ยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ที่ชื่นชมความงามของ แสงออโรร่า (Aurora) หรือที่เราเรียกกันว่า แสงเหนือ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีแสงเรืองรองบนท้องฟ้าในเวลากลางคืน ที่มักจะเกิดขึ้นในบริเวณแถบขั้วโลก ปกติแล้วแสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปีของประเทศแถบขั้วโลก แต่จะเห็นได้ชัดเจนที่สุด คือ ช่วงเวลาที่มีกลางคืนยาวนาน นั่นคือ นับแต่ปลายเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี ที่ผ่านมาหลายคนเข้าใจว่า ต้องบินไปชมแสงเหนือที่ประเทศไอซ์แลนด์ แต่แท้จริงแล้ว มีอีกหลายประเทศที่สามารถมองเห็นปรากฏการณ์สุดอัศจรรย์นี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นทาง ตอนเหนือของสวีเดน, ตอนเหนือของฟินแลนด์, รัฐอลาสก้า สหรัฐอเมริกา, ตอนเหนือของแคนาดา, ตอนเหนือของนอร์เวย์, กรีนแลนด์, ช่วงฤดูหนาวของสก็อตแลนด์, หมู่เกาะแฟโร เดนมาร์ก และคาบสมุทรโคลาของเมืองมูรมานสก์ รัสเซีย
เหตุนี้เอง รัสเซีย จึงเป็นประเทศที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวเอเชีย เพราะเดินทางไม่ไกลมาก ไม่ต้องขอวีซ่าและค่าใช้จ่ายไม่สูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ การไปท่องเที่ยว มอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย หากไปในช่วงต้นปีเช่นนี้ การไปชมแสงเหนือ จึงเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด ซึ่งสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการชมคือ เมืองมูรมานสก์ (Murmansk) เป็นเมืองท่าภายในคาบสมุทรโคลา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศรัสเซีย ทางด้านทิศเหนือติดกับประเทศนอร์เวย์ และทางด้านทิศตะวันตกติดกับประเทศฟินแลนด์ ซึ่งการเดินทางจากมอสโกไปที่เมืองมูรมานสก์ สามารถนั่งเครื่องบิน ไปเพียง 2.30 ชั่วโมง เท่านั้น และเป็นเมืองที่ปลอดภัยและเงียบสงบ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ในช่วงฤดูหนาวที่เหมาะสำหรับการล่าแสงเหนือ ตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนพฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ -14 °C ถึง -20 °C นอกจากแสงเหนือที่ควรค่าแก่การมาสัมผัสอย่างยิ่งแล้ว บรรยากาศเกือบทั้งหมดของเมืองในช่วงนี้จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว เป็นทัศนียภาพที่สวยงามมากๆ
ระหว่างรอคอยความงดงามของแสงออโรร่าที่จะปรากฏขึ้นตอนกลางคืน ช่วงกลางวันก็สามารถท่องเที่ยวและสนุกกับกิจกรรมฤดูหนาว ท่ามกลางหิมะในเมืองมูรมานสก์ได้ อย่างเช่น 2 สถานที่ยอดฮิต นั่นคือ หมู่บ้านซามิ (Sami Village) ที่นี่เราจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมและการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายของชาวซามิ สัมผัสบ้านกระโจมของจริง และเพลินไปกับฝูงกวางเรนเดียร์ กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดก็คือ การนั่งรถลากเลื่อน ร่วมกิจกรรมแบบชาวพื้นเมือง และให้อาหารกวางเรนเดียร์ และอีกหนึ่งสถานที่ควรไปเที่ยว คือ Husky Park ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ของคนรักสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ ภายในฟาร์มจะได้พบกับสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ ที่เลี้ยงไว้สำหรับใช้งาน นอกจากจะได้ถ่ายรูปและเล่นกับฝูงฮัสกี้อย่างจุใจแล้ว กิจกรรมที่ไม่ควรพลาด คือ การนั่งรถเทียมสุนัขลากเลื่อน ซึ่งสุนัขฮัสกี้ตัวใหญ่จะพาเคลื่อนที่ไปรอบๆ ท่ามกลางบรรยากาศแสนสวยของหิมะสีขาว สร้างความตื่นเต้น เติมเต็มความสุข สนุกสนาน ให้กับการเยือนรัสเซีย ให้เป็นทริปแสนพิเศษ
ถึงตรงนี้ หลายคนคงอยากไปฟิน 7 จุดแลนด์มาร์คและแสงเหนือที่รัสเซียกันแล้ว วันนี้สามารถบินสบาย จองง่าย จ่ายสะดวก เพราะสายการบินชั้นนำ “การบินไทย” พร้อมเหินฟ้าพานักท่องเที่ยวบินตรงสู่ มอสโก ด้วยเที่ยวบิน TG974 ทุกวันจันทร์, พุธ, พฤหัสบดีและวันเสาร์ วันละ 1 เที่ยวบิน ด้วยราคาบัตรโดยสารไป-กลับเริ่มต้นเพียง 25,130 บาท/ท่าน ที่พร้อมบริการแบบ Full Service ไม่ต้องกังวลเครื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยใช้เวลาเดินประมาณ 10 ชั่วโมงกว่า ก็แลนดิ้งสู่สนามบินนานาชาติมอสโก ที่พร้อมเปิดประสบการใหม่ให้แก่นักท่องเที่ยวไม่รู้ลืม #Thaiairways #สบายต่าง #iflyTHAI เพียงคลิก https://bit.ly/2Q6I4BQ