5 สถานที่พักใจคลายเหนื่อย
ยามหัวใจอ่อนล้า ฉบับคนเมืองในกรุงเทพ
รวมสถานที่สงบๆ ให้หนีไปพักใจที่อ่อนล้าจากเรื่องหม่นๆ ในกรุงเทพฯ ที่ใช้เวลาเดินทางไม่เยอะ แต่ได้พักเหนื่อยเต็มที่
หลายครั้งที่ความเหนื่อยล้าไม่ได้เกิดกับร่างกายแต่เกิดที่ใจ ไม่ว่าด้วยสาเหตุใดก็ตาม เราเพียงอยากหาสถานที่เงียบๆ เพื่อปล่อยอารมณ์และปลอบโยนจิตใจเพียงลำพัง แต่จะให้ขับรถไปไกลถึงต่างจังหวัดหรือหนีหายไปเงียบๆ ก็ทำไม่ได้ ด้วยภาระและหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ พรุ่งนี้ยังต้องตื่นเช้าไปทำงาน ตอนสายยังมีประชุมที่ต้องเข้าร่วม ทำให้เราไม่อาจหนีหายไปได้อย่างใจคิด แต่ในกรุงเทพยังมีสถานที่สงบๆ ให้เราพักเหนื่อย เพียงใช้เวลาสัก 3-4 ชั่วโมง อาจเพียงพอให้เรามีแรงฮึดขึ้นมาอีกครั้ง
01. เสพย์ศิลป์ให้จรรโลงใจ ณ หอศิลป์
การได้เดินชมศิลปะและปล่อยอารมณ์ไปกับผลงานของศิลปิน อาจเป็นตัวช่วยที่ทำให้เราปลดปล่อยความเหนื่อยล้าไปพร้อมๆ กับงานศิลปะเหล่านั้นได้ ความงามของศิลปะจะทำหน้าที่เยียวยาความคิด อารมณ์ และความรู้สึกของเรา ไม่ว่าเราจะเข้าใจงานศิลปะชิ้นนั้นหรือไม่ก็ตาม นอกจากนี้หอศิลป์ยังเป็นสถานที่ที่กว้างขวางพอให้เราเดินชมศิลปะคนเดียวแบบเงียบๆ ได้โดยไม่ถูกรบกวน และหอศิลป์หลายที่ก็มักไม่เก็บค่าเข้าชม หอศิลป์จึงกลายเป็นสถานที่เงียบสงบที่เหมาะให้เราปลีกตัวและได้อยู่กับตัวเอง โดยหอศิลป์ที่ให้เราไปพักใจในกรุงเทพมีหลายที่ด้วยกัน อาทิ
• หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
• หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
• Bangkok Citycity Gallery
02. เบี่ยงความคิด เปลี่ยนความรู้สึกผ่านเรื่องเล่าในมุมอื่น ณ พิพิธภัณฑ์
เพราะในสายตาคนอื่น พิพิธภัณฑ์คือสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าจากอดีต สถานที่นี้จึงไม่ใคร่จะเป็นนิยมของคนทั่วไปสักเท่าไร ทำให้พิพิธภัณฑ์กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่เงียบสงบ และใช่ว่าพิพิธภัณฑ์จะเป็นเพียงสถานที่เคร่งเครียดเสมอไป เพราะพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่กลับเต็มไปด้วยเทคโนโลยีและรูปแบบการเล่าเรื่องที่ไม่จำเจ การได้ไปศึกษาเรื่องราวที่เราไม่เคยสนใจ อาจชวยให้เราสนุกไปกับเรื่องราวใหม่ๆ และถือเป็นกิจกรรมชวนพักเหนื่อยได้เหมือนกัน อาทิ
• ท้องฟ้าจำลอง
• มิวเซียมสยาม
• พิพิธภัณฑ์รัตนโกสินทร์
03. อ่านหนังสือ สร้างแรงบันดาลใจ ณ ห้องสมุด
พกหนังสือที่อยากอ่านแต่ไม่มีเวลาอ่านสักทีไปห้องสมุดดู ไม่ว่าหนังสือเล่มนั้นจะเป็นหนังสืออะไร ก็ได้จดจ่อกับตัวอักษรบนหน้ากระดาษในบรรยากาศที่ทุกๆ คนต่างก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเหมือนกัน ทำให้เราจดจ่อกับสิ่งที่อ่านได้มากกว่าปกติ แม้ภายในความคิดจะไม่สงบก็ตาม ขณะเดียวกันห้องสมุดก็เหมาะกับเป็นสถานที่ที่ให้เรานั่งเหม่อได้โดยไม่ผิดสังเกตและเป็นสถานที่เงียบๆ ที่ให้เราได้อยู่กับตัวเองได้อย่างเต็มที่
• Bangkok City Library หรือหอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร
• TCDT ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ
04. ดื่มกาแฟ ท่ามกลางธรรมชาติ ณ คาเฟ่ลึกลับและคอมมูนิตี้มอลล์สงบ
ในกรุงเทพเต็มไปด้วยคาเฟ่ ดังนั้นจึงไม่แปลกหากจะมีคาเฟ่ลึกลับที่มีบรรยากาศสงบๆ ให้เราหนีไปนั่งเงียบๆ คนเดียว พร้อมสั่งเครื่องแก้วโปรดมาปลอบใจ โดยเฉพาะเมื่อคาเฟ่ลึกลับส่วนใหญ่จะมีบรรยากาศของธรรมชาติจากต้นไม้ที่ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดและความรู้สึกหมองๆ ได้ หรือจะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์เงียบๆ ริมน้ำเจ้าพระยาอย่าง The Jam Factory ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่รายล้อมด้วยธรรมชาติ เหมาะให้เราไปปรับอารมณ์และความรู้สึก
• The Jam Factory
• Foxhole BKK – Art Shelter Café
• CHATA Specialty Coffee
05. เปลี่ยนความหม่นในอารมณ์ เป็นความเหนื่อยของร่างกาย ณ ฟิตเนสหรือสวนสาธารณะใกล้บ้าน
เปลี่ยนความหม่นในอารมณ์ให้กลายเป็นความเหนื่อยของร่างกาย เพราะการออกกำลังกายเป็นวิธีบำบัดความเครียดและความรู้สึกรูปแบบหนึ่ง ด้วยเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มและการเปลี่ยนสิ่งจดจ่อจากเรื่องเศร้าๆ ไปโฟกัสกับท่าทางออกกำลังกาย การเผาผลาญแคลอรี่ หรือแม้กระทั่งการพูดคุยเรื่องสุขภาพกับเพื่อนใหม่ ความเหนื่อยล้าจากการเสียเหงื่อจะทำให้สมองเราปลอดโปร่ง ซึ่งช่วยสลายความเครียด ส่งผลให้จิตใจเราปล่อยวางได้ แม้อาจจะไม่ใช่ทั้งหมด แต่ช่วงระยะ 2-3 ชั่วโมงของการออกกำลังกายก็ช่วยให้เราลืมเรื่องหนักใจได้ชั่วคราว