เชื่อว่าใครๆ ก็อยากทำงานท่ามกลางธรรมชาติ “โครงการในป่าฯ” (Naiipa Art Complex) จึงเกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานของคนรุ่นใหม่ด้วยการเนรมิตพื้นที่ว่างแต่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ให้กลายเป็นออฟฟิศให้เช่า ดังนั้นโครงการในป่าฯ จึงเปรียบเสมือนพื้นที่ส่วนบุคคล ที่มิได้เปิดเป็นพื้นที่สาธารณะอย่างที่เราเข้าใจ
แต่เมื่อไม่นานมานี้ คุณเก้ – ศาณ์ปัฏ รักษ์ขิตวัน เจ้าของโครงการก็ได้ปิ้งไอเดียและตอบรับเสียงเรียกร้องของคนรักการทำงานด้วยการรีโนเวทบ้านเก่าของครอบครัวให้เป็น co-working space ในชื่อ “Pencave” เพื่อเปิดกว้างให้เหล่าพนักงานออฟฟิศอย่างเราได้ไปนั่งทำงานท่ามกลางธรรมชาติ
“ผมมองว่า co-working นี้เป็นเสมือนสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพิ่มขึ้นให้กับโครงการในป่า เพราะโครงการในป่าเป็นสำนักงานให้เช่าระยะยาว ผมก็เลยอยากเปิดพื้นที่ตรงนี้ให้เป็นพื้นที่ที่คนทั่วไปสามารถเข้ามาใช้บริการได้”
Pencave ไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่ทำงานที่รายล้อมด้วยธรรมชาติใจกลางกรุงเท่านั้น แต่ co-working แห่งนี้ยังออกแบบมาเพื่อตอบรับการทำงานของเหล่า ‘ดีไซเนอร์’ โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศหรือการตกแต่ง โดยคุณเก้ทำหน้าที่อินทีเรียดีไซน์ด้วยตนเอง และแน่นอนว่าแรงบันดาลใจในการออกแบบย่อมมาจากไลฟ์สไตล์การทำงานด้านกราฟฟิกดีไซเนอร์ของคุณเก้เอง ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศดิบๆ สไตล์ลอฟต์ แต่ให้ความรู้สึกละมุนและเป็นกันเองจากแสงธรรมชาติ ผนวกกับการเพิ่มความสนุกให้การทำงานด้วยพื้นที่หลากหลาย ทั้งเปลเชือกถักที่ให้เราขึ้นไปนอนเล่น หรือเก้าอี้นอนที่ได้แรงบันดาลใจจากเก้าอี้ชายหาดที่พร้อมให้คุณนอนพักผ่อน ขณะเดียวกันก็สามารถลุกขึ้นมาทำงานได้ทันทีที่ปิ้งไอเดีย เป็นต้น
Pencave ถ้าแปลเป็นภาษาไทยคือ ‘ถ้ำปากกา’ เป็นสถานที่ของคนที่มีความคิดครีเอทีฟ และตัวผมเองก็ชอบคำว่า pen เพราะมันเป็นสัญลักษณ์ของการทำงาน ของคนมีความคิด
“การทำงานไม่จำเป็นต้องมีแค่โต๊ะกับเก้าอี้ แต่มันต้องมีที่พักผ่อนที่เราสามารถนอนเล่นได้ด้วย และผมก็เป็นดีไซเนอร์ ผมจึงเข้าใจลูกค้ากลุ่มดีไซเนอร์ได้ดีที่สุดว่าพวกเขาต้องการการทำงานแบบติสๆ หน่อย พื้นที่ทำงานจึงต้องไม่คับแคบ และมีบรรยากาศสบายๆ
อย่างตรงเก้าอี้ชายหาดตรงนั้น ผมออกแบบตามลักษณะการทำงานของผมเอง เพราะผมชอบคิดงานได้ตอนจะหลับ แล้วปัญหาคือ พอผมคิดได้ก็ต้องลุกขึ้นมา และต้องหากระดาษ หาโต๊ะให้วุ่นวาย พื้นที่ตรงนี้เลยออกแบบให้เป็นเก้าอี้นอนที่มีโต๊ะพับไว้ข้างๆ ซึ่งสามารถลุกขึ้นมาเขียนงานได้เลย
ส่วนการตกแต่ง ผมก็อยากได้พื้นที่ที่มันดิบๆ หน่อย เป็นการออกแบบกึ่งเสร็จกึ่งไม่เสร็จ เพราะผมคิดว่าการทำงานมันไม่มีวันจบ เราสามารถทำให้มันดีขึ้นได้เรื่อยๆ ผมก็เลยมองว่าที่ตรงนี้จะกลายเป็นตัวกระตุ้นได้ดี แบบว่ามองแล้วก็คิดว่ามันทำอะไรได้อีกนะ มันจึงเป็นอะไรที่สนุก”
นอกจากนี้ทุกรายละเอียดของ co-working ยังมีเรื่องราวแฝงไว้อีกด้วย “ของแต่ละชิ้นจะมีเรื่องเล่าของมัน ผมจะเลือกอะไรที่เก๋ๆ แปลกๆ หน่อย อย่างนาฬิกากับโคมไฟก็เป็นของที่อยู่บนเรือ โดยเฉพาะนาฬิกา ปกติมันจะต่อเข้ากับตัวคอนโทรลที่จะทำให้นาฬิกาทุกเรือนบนเรือเดินพร้อมกัน แต่ผมก็เอาไปเปลี่ยนเป็นใช้ถ่าน หรือโคมไฟบนโต๊ะก็เป็นโคมไฟที่เคยอยู่ในร้านตัดผม”
สำหรับ Pencave Co-Working Space แห่งนี้ประกอบด้วยพื้นที่ 3 ส่วนด้วยกัน เริ่มจากชั้นล่างซึ่งเป็นพื้นที่ Play Room เป็นเสมือนพื้นที่คลายเครียดจากงาน โดยสามารถเนรมิตพื้นที่ส่วนนี้ให้กลายเป็นห้องสัมมนาหรือห้องสำหรับเวิร์คช็อปได้อีกด้วย ส่วนชั้นสองเป็นพื้นที่ Hot Desk ที่ให้คุณได้เลือกพื้นที่นั่งทำงาน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะกลางตัวใหญ่ โต๊ะแบบเคาร์เตอร์สำหรับปลีกตัวทำงานอย่างมีสมาธิ นอกจากนี้ยังเล่นระดับพื้นที่ด้วยชั้นลอยซึ่งวางเก้าอี้ชายหาดให้เราได้นอนทำงาน โดยข้างๆ กันเป็นเปลเชือกให้เราได้ปีนไปนอนอ่านหนังสือยามว่าง แต่หากใครอยากคุยงานเป็นกลุ่มและต้องการความเป็นส่วนตัว Pencave ก็มีพื้นที่ Private ให้บริการอีกด้วย โดยมีทั้งห้องทำงานแบบ 2 คน 5 คน และห้องใหญ่ถึง 8 คน โดยห้องเหล่านี้ยังเปิดให้บริการเช่าเป็นรายเดือนและรายปีอีกด้วย
นอกจากนี้คุณเก้ยังวางแผนอนาคตให้ Pencave เป็นพื้นที่ของ Design Community ที่คนหลายๆ กลุ่มมาเกื้อหนุนกัน ทั้งดีไซเนอร์ ผู้ประกอบการ ผู้ผลิต รวมทั้งนักศึกษา เพื่อทำให้งานมีคุณภาพ โดยคุณเก้แอบกระซิบกับเราว่าเร็วๆ นี้จะเริ่มเปิดพื้นที่สัมมนา ให้นักธุรกิจกับดีไซเนอร์มาพูดคุยแชร์ไอเดียกัน เป็นการแชร์แนวคิดที่ว่าการออกแบบจะมาช่วยเติมเต็มศักยภาพของธุรกิจได้อย่างไร ใครที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ FB : Pencave Co-Working Space
Address : Naiipa Art Complex (BTS พระโขนง ทางออก 4 เดินเข้าซอยสุขุมวิท 46 ราว 100 เมตร)
GPS : 13.7140039,100.59135
Time : เปิดทุกวัน เวลา 09:00 – 22:00 น.
Tel : 062 553 5345
Facebook : www.facebook.com/pencaveco
