มีเวลา 30 นาที แต่เบิร์นได้ 500 แคลอรี่ กับการปั่นจักรยานแนวใหม่ที่เรียกว่า SPRINT
SPORT: คาร์ดิโอให้เบิร์นได้ 500 แคลอรี่ในเวลา 30 นาที กับการปั่นจักรยานแนวใหม่ SPRINT ที่ดึงจุดเด่น ‘น้อย แต่มาก’ คือใช้เวลาน้อย แต่เบิร์นได้มาก เหมาะสำหรับคนเมืองผู้มีเวลาน้อย แต่รักการออกกำลังกาย
มีเวลาน้อย ไปฟิตเนสหรือออกกำลังกายคงเบิร์นได้ไม่เท่าไร หลายคนเคยคิดอย่างนี้และจากความคิดนี้ยังเป็นชนวนจุดประกายให้เกิดโปรแกรมออกกำลังกายคลาสใหม่ที่เรียกว่า “Sprint” โดยดึงจุดเด่นเรื่อง ’น้อย แต่มาก’ คือใช้เวลาน้อย แต่เบิร์นได้มากนั่นเอง
เราได้รับการแนะนำให้รู้จักการ Sprint ผ่านเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นผู้นำเข้าคลาสนี้มาเอาใจคนเมืองที่ทำงานหนัก มีเวลาออกกำลังกายน้อยนั่นเอง และจากการไปลองปั่นจักรยานในคลาส Sprint เราต้องบอกว่าเหนื่อยและเบิร์นได้เยอะจริง!!
Sprint เป็นคลาสปั่นจักรยานรูปแบบใหม่ ซึ่งมีพื้นฐานมาจากการออกกำลังกายแบบ HIIT (High-Intensity Interval Training) หรือการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ หนักสลับเบา แต่สามารถเบิร์นแคลอรี่ได้มากถึง 500 แคลอรี่ ภายในเวลาเพียง 30 นาที ซึ่งหมายความว่าในการปั่น Sprint 30 นาที เราสามารถเบิร์นได้มากกว่าการออกแบบคาร์ดิโอปกติถึง 9 เท่า โดยคลาสนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองที่มีเวลาในการออกกำลังกายน้อยเป็นหลัก
• ได้มากกว่าในเวลาสั้นๆ เพราะเราใช้เวลาเพียง 30 นาที แต่สามารถเผาผลาญไขมันได้สูงสุดถึง 500 แคลอรี่ ซึ่งมากกว่าการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอปกติถึง 9 เท่า ที่สำคัญร่างกายยังสามารถเบิร์นต่อเนื่องอีกหลายชั่วโมงแม้สิ้นสุดการออกกำลังกายแล้ว และนี่คือจุดเด่นแรกของ Sprint ในการเผาผลาญที่ไม่อาจปฏิเสธได้
• ขาเรียว หุ่นลีน ฝันที่ไม่เกินเอื้อม นอกจากตัวเลขแคลอรี่ที่คุ้มหายเหนื่อย สิ่งที่ได้ตามมาคือ ความแข็งแกร่งของร่างกาย นอกจากต้นขาด้านหน้า ด้านหลัง และสะโพกแล้ว กล้ามเนื้อน่อง ก็ได้ทำงานอย่างเต็มที่ตลอด 30 นาทีนั้น โดยผลงานวิจัยจากมหาวิทยาลัย เพน สเตต (Penn State) ประเทศอังกฤษ ซึ่งได้ทดลองเปรียบเทียบกลุ่มตัวอย่างที่ออกกำลังกายกายแบบคาร์ดิโอปกติ เวลา 60 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์ กับกลุ่มที่เข้าร่วมคลาส Sprint ในระยะเวลาเท่ากัน พบว่ากลุ่มที่ออกกำลังกายแบบ Sprint มีอัตราเผาผลาญไขมันได้ดีกว่า ระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์อยู่ในระดับที่น่าพอใจ รวมถึงมีความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้ออย่างน่าทึ่ง
• สตรองและปลอดภัย การปั่นจักรยานแบบ Sprint ก่อให้เกิดแรงกระแทกต่ำกว่าการออกกำลังกายแบบ HIIT วิธีอื่น ๆ ขณะเดียวกันก็ก้าวข้ามขีดจำกัดด้านร่างกายและจิตใจได้ในบรรยากาศที่ปลอดภัย เนื่องจากมีเทรนเนอร์คอยควบคุม แถมความเร็วของการปั่นก็ได้รับการออกแบบมาพอดี จึงหมดกังวลเรื่องความล่ำของเรียวขาอีกด้วย
• กายพร้อมใจแกร่ง การฝึกปั่นจักรยานแบบSprint อย่างสม่ำเสมอ มีส่วนช่วยให้สุขภาพหัวใจดีขึ้นด้วย เพราะการปั่นแบบเต็มกำลังในระยะเวลาที่เหมาะสม จะเร่งอัตราการเต้นของหัวใจและกระตุ้นการทำงานของระบบไหลเวียนเลือด ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
• ใคร ๆ ก็ทำได้ Sprint ไม่ได้มองหานักปั่นแข้งทอง คลาสนี้เปิดกว้างสำหรับทุกคนที่มีความมุ่งมั่นและพร้อมจะระเบิดพลังในตัว
ส่วนคำแนะนำเบื้องต้นของการปั่น Sprint ให้ปลอดภัยและถูกต้องคือ เราได้เทรนเนอร์จากเวอร์จิ้น แอ็คทีฟมาบอกเล่าให้ฟังว่า “การป้องกันการบาดเจ็บ ต้องเริ่มจากการปรับจักรยานให้ได้ระยะ ความสูงของอาน ระยะห่างของแฮนด์จักรยาน ซึ่งที่นี่เราจะมีเทรนเนอร์มาคอยดูให้ ถ้าไม่เคยปั่น เขาก็จะมาปรับให้ ดังนั้นอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการปั่นจักยานจะเกิดจากการเหยียดและกระชากเต็มที่ระหว่างปั่น ถ้าเราปรับจักรยานสูงไปก็จะกระชากเข่าเยอะ เพราะฉะนั้นการปั่นที่ดี พอเราเหยียดขาลงไป จะต้องงอเขาเล็กน้อย มันจะไม่กระตุก มันทำให้กล้ามเนื้อขาแข็งแรงขึ้นด้วย
โดยการปรับจักยานให้วัดความสูงจากเบาะ ให้เรายืนตรง แล้วให้เบาะอยู่ต่ำกว่ากระดูกเชิงกลาง อย่างที่สอง เวลาขึ้นไปนั่งเล่นแล้วให้วัดระยะของแฮนด์จักรยาน ต้องงอศอกเล็กน้อย จะไม่เหยียดตึง ลำตัวของเราจะเป็นแนว 45 องศา
แต่ทั้งนี้ไม่แนะนำให้เล่น Sprint ทุกวัน ให้เล่าสัปดาห์ละ 3 ครั้งแบบเล่น 1 วันเว้น 2 วันน่าจะดีกว่า เพราะเล่นแต่ละครั้งเราต้องใช้พลังงานเยอะมาก อย่างน้อยต้องใช้พลัง 85% เกือบ 100% เต็ม เพราะฉะนั้นเมื่อใช้พลังงานไป 85% แล้ว จะไม่สามารถเล่นคลาสอื่นไหว เพราะจริงๆ แล้ว Sprint ถูกออกแบบให้เราเล่นคลาสเดียวแล้วจบเลย กลุ่มเป้าหมายของคลาสนี้จึงเป็นคนที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย”
สำหรับการรปั่นจักรยาน Sprint แฟน ๆ เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ สามารถไปลองสนามลงแข่งในวันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป ณ คลับของเวอร์จิ้น แอ็คทีฟทั้ง 5 สาขา พร้อมกับติดตามความเคลื่อนไหวอื่นๆ ได้ที่ www.virginactive.co.th และ www.facebook.com/VirginActiveThailand