หนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ คงไม่พ้นเทรนด์รักสุขภาพที่เหล่าคนหนุ่มสาวหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ทั้งการออกกำลังกายและอาหารการกิน ในส่วนของการออกกำลังกายนั้น เราเชื่อว่าคนหนุ่มสาวเหล่านี้มีตัวเลือกมากมายอยู่แล้ว แต่สำหรับเรื่อง ‘อาหาร’ นั้น ในกรุงเทพฯ ของเรามีร้านอาหารและคาเฟ่เพื่อสุขภาพรองรับไม่มากนัก และ Brekkie ก็เป็นหนึ่งร้านคาเฟ่ที่เสิร์ฟเมนูเพื่อสุขภาพ ตอบรับเทรนด์ที่กำลังมาแรงนี้
Brekkie คาเฟ่ชื่อน่ารักในบรรยากาศสบายๆ ด้านหน้าต้อนรับเราด้วยเคาน์เตอร์ตลาดผลไม้สดที่จำลองเสมือน farmer market ซึ่งเป็นวัตถุดิบของร้าน ส่วนชั้นสองและชั้นสามเป็นพื้นที่นั่งทานอาหาร โดยตกแต่งเรียบง่ายแต่อบอุ่นเสมือนอยู่บ้าน
“เบสมีคอนเซ็ปต์ตั้งแต่แรกว่าอยากทำร้านอาหารที่ดีต่อสุขภาพที่ไม่ใช่แค่ healthy อย่างเดียว แต่อยากให้เวลาลูกค้ามากิน เขารู้สึกว่าอาหารของเราเป็นธรรมชาตินะ เบสจึงอยากให้ร้านมีบรรยากาศแบบโฮมเมด เขาเข้ามากินที่ร้านก็เหมือนมากินที่บ้าน” คุณเบส – ณิชชารีย์ กิจวิริยะธนโชติ เจ้าของร้านบอกเล่าถึงไอเดียการตกแต่งของร้าน
จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่การเสิร์ฟ ‘อาหารเพื่อสุขภาพ’ หรือ Healthy Fools โดยมีจุดเริ่มต้นจาก “ความรักในสุขภาพ” ของคุณเบส อีกทั้งยังสนุกกับการได้ทดลองทำ คิดค้นสูตรอาหารใหม่ๆ ที่มีรสชาติอร่อยถูกอกถูกใจใครหลายคน คุณเบสจึงตัดสินใจเปิดคาเฟ่เพื่อสุขภาพแห่งนี้
“ร้านนี้เริ่มมาจากตัวเบสเอง ต้องบอกก่อนว่าเบสเป็นคนรักสุขภาพอยู่แล้ว ชอบดูแลตัวเอง ตั้งแต่ออกกำลังกาย อาหารการกิน แล้วก็ทุกๆ อย่าง เบสเคยไปอยู่เมืองนอกมาก่อนเลยได้รับอิทธิพลจากความรักสุขภาพของฝรั่ง พอเบสไปอยู่ที่โน้น เบสก็ทำอาหารสุขภาพกินเอง และพอกลับไทยก็ยังติดกินติดทำอาหารสุขภาพจนสนุกกับมัน ลองทำให้คนโน้นคนนี้กิน จริงๆ ร้านนี้มีหุ้นส่วนอยู่คนหนึ่ง เขาบอกว่าถ้าชอบขนาดนี้ ทำก็อร่อย ทำไมถึงไม่เปิดร้านเลยล่ะ แล้วตอนนั้นเบสกำลังเรียนจบพอดี เบสไม่อยากทำงานออฟฟิศ อยากทำอะไรที่ตัวเองชอบ ก็เลยเปิดร้านนี้ขึ้นมา”
เมนูของที่นี่ล้วนเป็นสูตรเฉพาะของคุณเบสที่เกิดจากการทดลองทำ โดยมีโจทย์ว่า “จะทำอย่างไรให้อาหารเพื่อสุขภาพอร่อยและไม่เลี่ยน” เมนูของที่นี่จึงไม่ใช่เพียงอาหารเพื่อสุขภาพเท่านั้น แต่เป็นอาหารที่มีการปรุงจนได้รสชาติที่คุ้นลิ้นแบบไทยๆ กลายเป็นเมนู Healthy Thai Foods
“เมนูของร้านมาจากประสบการณ์ของเบสเอง อย่างที่บอกเบสชอบกินอาหารสุขภาพ แต่ถ้าไปซื้อมากิน รสชาติจะไม่ถูกปาก เบสก็เลยทำเอง มันจึงเป็นที่มาของสูตร อีกอย่างเบสเป็นคนไทย ชอบกินอาหารรสจัด เบสเลยคิดว่าจะทำอาหารยังไงให้คนอย่างเราชอบกิน คืออาหารฝรั่งกินมากๆ มันเลี่ยนใช่ไหมคะ แต่ทำยังไงให้อาหาร healthy มันอร่อยและไม่เลี่ยน คนไทยกินได้ ไม่เบื่อ เบสก็เลยกลับมาคิดว่าคนปกติชอบกินผัดกะเพรา อาหารเบสิกๆ แต่เราจะทำยังไงให้อาหารเบสิกๆ ธรรมดาที่มีรสชาติจัดจ้านกลายเป็นอาหารสุขภาพ ก็เลยเอาสองอย่างนี้มารวมกันเป็นอาหารฟิวชั่น เป็นอาหารสุขภาพ แต่มีรสชาติค่อนข้างจัดจ้าน”
“ถามว่าอาหารของเราคลีนไหม ตอบเลยว่าไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะมีส่วนผสมหลายๆ อย่างที่ไม่สามารถคลีนได้ แต่ร้านเราไม่ใส่ผงชูรสนะ อาหารคลีนคืออาหารไม่ปรุงรส แต่ที่นี่จะอยู่ตรงกลางระหว่างคำว่าคลีนกับอาหารธรรมดา แต่ถามว่า healthy ไหม เบสบอกเลยว่าอาหารของเรา healthy เพราะเบสคิดว่าอาหารสุขภาพก็คือ อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ให้คุณค่าทางอาหารเยอะ”
เริ่มจากเมนู Fried Quinoa Holy Basil with Pork Shoulder Steak (280 บาท) หรือคีนัวผัดกะเพรา รสชาติคล้ายผัดกะเพราที่เราทานกัน เพียงแต่ใช้คีนัวแทนข้าว เสิร์ฟพร้อมสเต็กหมูที่นำไปย่างจนหอมนุ่ม ตามมาด้วย Skinny Royale (260 บาท) ประกอบด้วยขนมปังโฮลวีท แซลมอนดิบ และไข่ ราดด้วยซอสโยเกิร์ตฮันนี่มัสตาร์ดสูตรเฉพาะของร้าน ส่วนขนมหวานจาน
สุขภาพนั้น เป็น Coconut Chia Pudding (190 บาท) พุดดิ้งเมล็ดเจียในน้ำนมมะพร้าว เพิ่มความหวานด้วยคาราเมลมะพร้าวทำเองของร้าน เคียงข้างด้วยกราโนล่าทำเองเช่นกัน ซึ่งประกอบด้วยข้าวโอ๊ตกับอัลมอนด์ผสมน้ำผึ้ง ตัดหวานด้วยผลไม้รสเปรี้ยวตระกูลเบอร์รี่และเสาวรส ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มหอมหวานรสกลมกล่อมอย่าง Bluebird Almond Milk Tea (165 บาท)
และไม่เพียงอาหารเพื่อสุขภาพเท่านั้น Brekkie ยังใส่ใจทุกคนด้วยการเสริมเมนูทั่วไป เพื่อตอบรับลูกค้าที่มากันเป็นกลุ่ม “คือบางทีลูกค้ามาเป็นแก๊งเพื่อนๆ และมีบางคนที่เขาไม่กินคลีน เขาเข้ามาก็กินไม่ได้ ที่ร้านก็เลยมีเมนูทั่วไปเสิร์ฟบ้าง ให้เขาโอเค พอกินได้ แต่ถ้าถามว่ามันเหมือนที่อื่นร้อยเปอร์เซ็นต์ไหม ก็ไม่นะ เราก็จะปรับแต่งอาหารให้ healthy กว่าที่อื่น”
“อย่าง French Toast ของเรา แทนที่จะใช้ขนมปังขาว เราใช้เป็นขนมปังข้าวไรย์ที่มีไฟเบอร์เยอะกว่า แร่ธาตุเยอะกว่า กินแล้วดีกว่า หรือแพนเค้ก แทนที่จะเป็นแพนเค้กธรรมดา เราก็เป็นใช้แป้งโฮลวีท น้ำมันน้อย เนยน้อย บางคนชอบกินสมูทตี้ สมูทตี้ของเราก็จะไม่ใส่น้ำตาลเลย ใช้น้ำผึ้งแทน น้ำผลไม้เราก็คั้นเองด้วย ส่วนใหญ่ถ้าอะไรที่เบสทำได้ เบสจะทำเอง เพราะเบสรู้สึกว่าถ้าเราใช้ของที่ซื้อมา เราไม่รู้ว่าเขาใส่อะไรลงไปบ้าง แต่ถ้าเราทำเอง เรารู้ว่าเราใส่อะไรเข้าไป ทุกๆ อย่างที่เบสทำในร้านนี้ เบสรู้สึกว่าเบสต้องกล้ากินก่อนถึงจะเสิร์ฟลูกค้าได้”
ปิดท้ายด้วยความหมายของชื่อร้าน Brekkie ที่มาจากคำว่า Breakfast เพราะที่นี่มีอาหารเช้าเสิร์ฟตลอดวัน “เบสแค่ชอบคำว่า Brekkie เพราะรู้สึกว่าอาหารมื้อเช้ามันเป็นมื้ออาหารที่สำคัญต่อร่างกาย จริงๆ แล้วร้านนี้เบสตั้งใจจะเปิดเป็นคาเฟ่อาหารเช้า แบบ all day breakfast ให้คนเข้ามากินได้ทั้งเช้า กลางวัน บ่ายก็ยังกินได้ เป็นอาหารเช้าที่ขายตลอดทั้งวัน เลยตั้งชื่อว่า Breckkie”
Address : 6/9 ซอยพร้อมศรี 1 ถนนสุขุมวิท 39
GPS : 13.736732, 100.574242
Time : เปิดทุกวัน เวลา 9.00 – 18.00 น.
Phone : 083-656-6141
Web : www.brekkiebangkok.com
Facebook : www.facebook.com/brekkiebangkok
