พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจแห่งใหม่
INSPIRE ME MQDC
ที่คอกาแฟต้องหลงรัก
หากคุณมีโอกาสได้ไปเยือนไอคอนสยาม อีกหนึ่งพื้นที่ที่เราอยากแนะนำให้คุณไปเยี่ยมเยือนคือ Inspire Me MQDC พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจแห่งใหม่จากบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ซึ่งเปลี่ยนพื้นที่ 293 ตร.ม. บนชั้น 1 ของโซน ICONLUXE ให้กลายเป็เลานจ์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Most Inspire Lounge in Bangkok”
Inspire Me MQDC มุ่งเน้นการนำเสนอการสร้างและถ่ายทอดแรงบันดาลใจผ่านรูปแบบ Digital Story Telling คือการนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมในการถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ที่เข้าใจและเข้าถึงได้ง่าย
โดยในช่วงเวลาที่เราไปเยือน Inspire Me MQDC แห่งนี้กำลังอยู่ในช่วงต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส จึงตกแต่งเลานจ์ในธีมเทพนิยายเมืองหิมะ ‘Winter Fairy-Tale Christmas’ พร้อมด้วยบรรดาเมนูอาหารเครื่องดื่มสุดพิเศษที่ครีเอทขึ้นเฉพาะเทศกาลนี้ ก่อนจะไปลิ้มลองหลากเมนู เราขออาสาพาไปสำรวจพื้นที่ภายในกันก่อน
สำหรับ Inspire Me MQDC โดดเด่นด้วยการผสานงานศิลปะให้เป็นหนึ่งเดียวกับไลฟ์สไตล์ ผ่านศิลปินที่มาร่วมแสดงผลงาน โดยล่าสุดเป็นผลงานของคุณเบล – เศรษฐพร ก่อวานิชกุล หรือ Painterbell เจ้าของคาแรคเตอร์และนักวาดภาพประกอบ ซึ่งคุณเบลได้เปลี่ยนจากการวาดภาพนิ่ง เป็นการเล่าเรื่องผ่านจอ เป็นผลงานที่ตั้งใจสื่อถึง “การแบ่งปัน” ซึ่งสื่อถึงความสุขที่มอบให้กันและกันนั่นเอง
“งานชิ้นนี้บอกเล่าเรื่องราวของการ์ตูน 5 คาแรคเตอร์ที่เป็นพี่น้องกัน ได้แก่ โจ, จอห์น, เอมิลี่, ฟูฟูแลนด์, ลูลู่ กำลังไขกล่องแมกโนเลียที่มีต้นไม้ใหญ่กำลังเติบโตในเทศกาลแห่งการให้ พร้อมที่จะแตกแขนงออกเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจให้กับผู้มาเยือน คาแรคเตอร์ทั้ง 5 จะมาบอกเล่าเรื่องราวแห่งความสุข, การให้, แฝงข้อคิด และมีลูกเล่นกับคนดู สื่อสารผ่านจอดิจิทัล 28 ภาพแอนิเมชั่นที่ไม่ซ้ำกัน การ์ตูนจะสื่อสารข้อความแห่งความสุขที่แฝงข้อคิดให้เข้าถึงคนได้อย่างเข้าใจง่าย เพื่อเป็นของขวัญให้กับทุกคนในช่วงเทศกาลคริสต์มาส”
ภายในเลานจ์แห่งนี้แบ่งพื้นออกเป็น 7 พื้นที่หลักด้วยกัน คือ The Alcove, The Café, Tha Façade, The Art Salon, The Dining Room, The Brand Icon และ Balcony แต่พื้นที่ที่โดดเด่น ซึ่งเราอยากนำเสนอได้แก่ The Façade บริเวณหน้าร้านที่นำจอดิจิทัลมาติดตั้งแบบสลับกับกระจกอย่างมีศิลปะจนมีลักษณะคล้ายสไบ, The Art Salon พื้นที่แสดงสื่อแนวสร้างสรรค์จากเทคโนโลยีที่ประดับด้วยกลุ่มจอดิจิทัล ออกแบบมาให้มีลักษณะเป็นห้องรวมผลงานศิลปะแบบพิพิธภัณฑ์ในยุโรป, The Brand Icon บริการห้องสำหรับจัดเลี้ยงหรือประชุมแบบส่วนตัว ที่พร้อมพรั่งด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก สำหรับห้องประชุมนี้ ลูกค้าสามารถเข้าใช้บริการได้ เพียงแค่สั่งเครื่องดื่มและขนมให้ครบ 1,000 บาท โดยสามารถใช้บริการได้ 3 ชั่วโมง
Specialty Experience Bar อีกหนึ่งพื้นที่สุดพิเศษในการรังสรรเมนูต่างๆ โดยเมนูเครื่องดื่มและขนมที่ Inspire Me MQDC คัดสรรมาเสิร์ฟนั้น เป็นเมนูที่ผสมผสานวัฒนธรรมของตะวันออกและตะวันตก โดดเด่นด้วยวัตถุดิบคุณภาพ พร้อมกับการนำเสนอในรูปแบบงานศิลปะ เพื่อสร้างความประทับใจให้ทุกคนที่มาเยือน
“เราเสิร์ฟเครื่องดื่มชั้นดีให้ลูกค้าในราคาที่คุ้มค่า เพราะเราต้องการให้ลูกค้าได้รับความสุขกลับไป เราต้องการแสดงให้เห็นถึงความพิเศษของเครื่องลงกาแฟที่อยู่ในเทรนด์ปัจจุบัน”
อีกหนึ่งจุดเด่นของเลานจ์แห่งนี้ ซึ่งจะทำให้คอกาแฟหลงรักคือ เครื่องชงกาแฟหลากหลายประเภทที่เราสามารถเลือกได้ว่าอยากให้บาริสต้าชงกาแฟให้ในรูปแบบใด ไม่ว่าจะเป็น Poursteady เครื่องดริปกาแฟกึ่งอัตโนมัติ ซึ่งสามารถดริปกาแฟพร้อมกันได้ 5 แก้ว, กาดริป Brewrista ที่ใช้ทักษะและความสามารถของบาริสต้าในการดริปกาแฟ, เครื่องทำกาแฟไซฟอน (Syphon Brewer), ไนโตรคอฟฟี่ (Nitro Coffee), กาโคลด์บูรว์ (Cold Brew) และไฮไลท์ของที่นี่คือเครื่องชง Mavam Espresso เครื่องชงเอสเพรสโซ่ที่คุณภาพสูงที่สุดและดีที่สุดในเมืองไทยกับราคาเครื่องละ 1.1 ล้านบาท
ที่สำคัญ Inspire Me MQDC ยังมีเมล็ดกาแฟพิเศษ single origin จากแหล่งปลูกทั้งในไทยและจากต่างประเทศให้เราได้เลือกสายพันธุ์ที่ชอบ ซึ่งมีให้เราเลือกมากถึง 5 ชนิด พร้อมด้วยเมล็ดกาแฟพิเศษที่จะคัดสรรหมุนเวียนมาให้ลิ้มลองแบบไม่มีเบื่อ
แต่เพราะช่วงที่เราไปเยือน อยู่ในเทศกาลเฉลิมฉลองคริสต์มาส Inspire Me MQDC จึงได้รังสรรเมนูสำหรับเทศกาลนี้ให้ได้ลิ้มลอง เริ่มจาก ‘Naughty Snowman’เครื่องดื่มร้อนที่เลือกได้ทั้ง กาแฟ ช็อกโกแลต หรือมัจฉะลาเต้เสิร์ฟมาพร้อม‘มาร์ชแมลโลว์สโนว์แมน’ หรือถ้าอยากได้เครื่องดื่มที่จะช่วยเติมความเย็นฉ่ำให้เข้ากับบรรยากาศ แนะนำเป็น ‘Frosty Snowflake’ สีขาวกับรสละมุน อีกหนึ่งเมนูซิกเนเจอร์ห้ามพลาดคือ ‘Rose’ Oolong Tea’ เครื่องดื่มที่ประยุกต์ชาอู่หลง ชา sencha พร้อมเพิ่มความหวานด้วยน้ำเชื่อมกุหลาบ โดยผ่านกรรมวิธีที่ทันสมัยในรูปแบบ Nitro
ส่วนเมนูขนมนั้น ขอนำเสนอ East Meet West 2 รสชาติจาก 2 วัฒนธรรมที่เข้ากันอย่างกลมกล่อม ไม่ว่าจะเป็นเมนูครัวซองต์หอมๆ ที่เสิร์ฟมาคู่กับไอศกรีมขนมเบื้องแบบไทยๆ ส่วน Welcome Set จัดเป็นเมนูเซตตะวันตก ประกอบด้วยเบเกอรี่สูตรพิเศษที่รังสรรค์ขึ้นเป็นการเฉพาะโดย PAUL ร้านเบเกอรี่ดังสัญชาติฝรั่งเศส อาทิ มาการอง เรดเวลเวทคัพเค้ก ฯลฯ และเมนูเซตตะวันออก คัดสรรขนมไทยจากสุดยอดรสมือที่ผสมผสานมาอย่างครบรส อาทิ ทองหยิบ ทองหยอด จ่ามงกุฎ วุ้นกุหลาบ ขนมหม้อแกง ฯลฯ
…ทั้งหมดนี้เป็นเพียงน้ำจิ้มที่เรานำมาเสิร์ฟเท่านั้น แต่หากอยากลิ้มลองความพิเศษ สามารถไปสัมผัสด้วยตัวเองได้แล้วที่ ชั้น 1 โซน ICONLUXE ณ ICONSIAM
เรียบเรียง: Taliw
Photo: Wara Suttiwan