KIMUKATSU หมูทอดมิลฟิลคัทสึ
กับความอร่อยที่ซ่อนอยู่ในเลเยอร์ 25 ชั้น
หากกล่าวถึงเมนู ‘ทงคัทสึ’ หลายคนอาจมองว่าเป็นหมูชุปแป้งทอดธรรมดา แต่รู้หรือไม่ว่าเมนูทงคัทสึเต็มไปด้วยรายละเอียด แถมสามารถทำให้อร่อยยิ่งขึ้นด้วยเทคนิคการปรุงที่แตกต่าง โดยเฉพาะเมื่อ “Kimukatsu” (คิมุคัทสึ) ร้านอาหารชื่อดังในญี่ปุ่นเขามีเคล็ดลับในการทำให้หมู ‘กรอบนอก ฉ่ำใน’ กลายเป็น ‘หมูทอดมิลฟิลคัทสึ’ ที่มีอรรถรสแตกต่าง
หมูสันนอกที่นำมาสไลด์บางก่อนพันเป็นเลเยอร์กว่า 25 ชั้นนี้ เป็นจุดเด่นและเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน Kimukatsu ซึ่งเคล็ดลับอยู่ที่ เมื่อเนื้อหมูสไลด์บางมาพันจะทำให้มีอากาศแทรกในเนื้อหมู เมื่อนำไปชุปไข่ แป้ง และคลุกเกล็ดขนมปังสดนี้จะคงความ ‘กรอบนอก ฉ่ำใน’ ไม่แข็งหรือกระด้าง
“ข้อแตกต่างของหมูทอดมิลฟิลคัทสึที่ทำเป็นเลเยอร์อยู่ที่เนื้อสัมผัสครับ เวลาทานหมูเป็นก้อนอาจจะแข็งไป กระด้างไป แต่เนื้อหมูที่เราสไลด์แล้วพับเป็นชั้นๆ จะได้ความนุ่ม ความฉ่ำที่เรารักษาเอาไว้ ที่พิเศษคือเวลาเราจุ่มซอส จะทำให้ตัวซอสเข้าถึงเนื้อได้เยอะมากอีก แล้วก็ด้วยความเป็นเลเยอร์ ทำให้ข้างในสามารถใส่ไส้เอาไว้ได้ด้วย ที่ร้านต้นตำรับในญี่ปุ่นเขาจะมีไส้ที่เป็น ซีซั่นเยอะมาก เพราะเขาเปิดมานานแล้ว เปิดมา 14 ปีแล้ว”
แน่นอนว่าเคล็ดลับความอร่อยไม่จำกัดเพียงแค่เลเยอร์ของเนื้อหมูเท่านั้น แต่รวมถึงการคัดสรรวัตถุดิบและการใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้ได้หมูทอดมิลฟิลคัทสึรสชาติแบบต้นตำรับแท้ๆ โดยเฉพาะเมนูซิกเนเจอร์ที่เสมือนเสกความอร่อยมาจากต้นตำรับ เพิ่มความพิเศษด้วยการแทรกวัตถุดิบอื่นๆ มาเพิ่มรสชาติให้หมูทอดมิลฟิลคัทสึแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์
โดยมีให้เลือกลองถึง 6 รสชาติด้วยกันคือ รสดั้งเดิม (Original), รสเชดด้าชีส (Cheese), รสกระเทียม (Garlic), รสพริกไทยดำ (Black Pepper), รสต้นหอมญี่ปุ่น (Negi Shio), และรสยูชึ โคโย (Yuzu Kosho) เติมความพิเศษผ่านซอสที่ส่งตรงจากญี่ปุ่น โดยมีให้ลิ้มลอง 2 รสชาติคือ ซอสทงคัทสึและซอสพอนสึสูตรพิเศษของร้าน พิเศษสำหรับเดือนนี้ (เมษายน 2018) ที่ Kimukatsu เสิร์ฟรสชาติพิเศษกับ ‘รสแกงเขียวหวาน’ (Green Curry) ซึ่งภายในเนื้อหมูจะแทรกแกงเขียวหวานเข้มข้นเอาไว้ทั่วทั้งชิ้น ขณะเดียวกันก็เสิร์ฟดริฟแกงเขียวหวานมาเพิ่มความจัดจ้าน
“เมนูของร้านมาจากต้นตำรับที่ญี่ปุ่น อย่างเมนูซิกเนเจอร์จะไม่มีการปรับรสเลย ส่วนรสแกงเขียวหวาน ต้องบอกก่อนว่าที่ญี่ปุ่นเขาไม่เคยทำรสชาติอื่นๆ ให้กับประเทศไหน แต่ทางญี่ปุ่นเขาอยากฉลองที่เราเปิดสาขาแรกในเมืองไทย เขาเลยคิดรสแกงเขียวหวานมาขาย แล้วคนญี่ปุ่นเขาชอบกันมาก เราก็เลยเอารสชาตินี้มาเพิ่มเป็นเมนูพิเศษในเดือนนี้”
“หลักการของเราคือเลือกวัตถุดิบให้เหมือน หรือใช้ตัวเดียวกับญี่ปุ่นให้มากที่สุด แม้แต่ซอสหรือเครื่องปรุง กว่า 70-80% นำเข้าจากต้นตำรับ แม้แต่เกร็ดขนมปัง เราก็ต้องเลือกใช้เกร็ดขนมปังสดที่มีไซส์เดียวกันกับต้นตำรับ เพราะเกร็ดขนมปังที่ต่างขนาดกันก็มีผลต่อรสชาติ”
เคล็ดลับความอร่อยของ Kimukatsu ยังไม่หมด เพราะที่นี่ใส่ใจรายละเอียดของการปรุงอาหารที่ไม่จำกัดเพียงหมูทอดมิลฟิลคัทสึ แต่เครื่องเคียงที่เสิร์ฟคู่กันก็ใส่ใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะข้าวญี่ปุ่นที่คัดข้าวสวยสานพันธุ์ญี่ปุ่นแท้มาเสิร์ฟ เพิ่มความอร่อยผ่านกรรมวิธีการหุงและการเสิร์ฟมาในในโถไม้สนแท้ ที่ช่วยกักเก็บความร้อนและกินข้าวของเขาเอาไว้ ส่งผลให้ข้าวญี่ปุ่นมีรสชาติอร่อยอยู่เสมอตลอดมื้ออาหาร ที่สำคัญทางร้านจะหุงข้าวแบบเมนูต่อเมนู และจะเริ่มหุงก็ต่อเมื่อลูกค้าเข้าร้าน โดยใช้เวลา 15 นาที
ส่วนผักกะหล่ำหั่นฝอยที่ทำหน้าที่ตัดเลี่ยนนั้น ทางร้านเลือกใช้กะหล่ำปลีออแกนิก ซึ่งเป็นกะหล่ำปลีเมล็ดพันธุ์เดียวกันกับญี่ปั่น พร้อมน้ำสลัดที่มีให้เลือก 2 รสชาติคือ น้ำสลัดงาขาวและน้ำสลัดซีอิ๊วญี่ปุ่น แน่นอนว่าภายในเซ็ตจะขาดซุปมิโซะไปไม่ได้ โดยซุปของที่นี่ให้รสเข้มข้น เติมความสดใหม่ผ่านเต้าหู้สด และโรยความหอมด้วยต้มหอมญี่ปุ่น กระซิบบอกกันอีกนิดว่าเครื่องเคียงเหล่านี้เราสามารถขอเพิ่มได้เรื่อยๆ แบบไม่จำกัด
นอกจากเมนูซิกเนเจอร์หลักอย่างหมูมิลฟิลคัทสึแล้ว Kimukatsu ยังมี Appetizer อื่นๆ มาให้ชิมอีกด้วย เริ่มจากเมนูเบาๆ ที่เสิร์ฟรสชาติพิเศษเฉพาะสาขาในเมืองไทยอย่าง Spicy Ebimayo กุ้งชุปขนมปังราดด้วยซอสสไปซี่รสจัด ความพิเศษของเมนูนี้อยู่ที่การผสมเครื่องเทศหลากหลายชนิดเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นสูตรลับความอร่อยของร้าน ต่อกันด้วย Potato Salad สลัดมันฝรั่งแท้ที่เน้นเครื่องแน่นๆ เติมความอร่อยด้วยหอมเจียว ไข่ต้ม เบคอน แครอท ให้รสชาติหวาน มัน เค็ม
หรือจะลองสั่ง Katsu Sandwich แซนวิชหมูทอดมิลฟิคกับความอร่อยที่ลงตัวของหมูทอดมิลฟิลกรอบๆ กับขนมปังหนานุ่ม เติมความอร่อยผ่านซอสสูตรเฉพาะของร้าน เป็นเมนูเบาๆ ชวนอิ่ม แต่หากอยากได้เมนูเคี้ยวเล่น แนะนำให้สั่ง Edamame with Truffle Salt หรือถั่วลันเตาโรยด้วยเกลือทรัฟเฟิลที่ให้เราเคี้ยวเพลิน ความอร่อยของเมนูนี้อยู่ที่ความหอมของเห้ดทรัฟเฟิล ซึ่งนำไปผสมผสานกับเกลือจนได้ความอร่อยที่ลงตัว
ปิดท้ายด้วยขนมหวาน โดยที่นี่เลือกเสิร์ฟเมนูไอศกรีมเป็นหลัก มีทั้งไอศกรัมชาเขียวเข้มข้นและไอศกรีมโมจิรสมะม่วงและบลูเบอรี่ เติมความพิเศษด้วยเมนูเครื่องเคียงอย่าง Traditional Green Tea Ice Cream ไอศกรีมชาเขียวจะเสิร์ฟพร้อมชีสเค้กแท้ๆ ขณะที่ Ice Cream Mochi ไอศกรีมโมจิจะเสิร์ฟพร้อมถั่วแดงก้อนโต เป็นเมนูปิดท้ายที่เสริมให้มื้ออาหารสมบูรณ์แบบ
Kimukatsu
• Address: ชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพระราม 3
• Map: https://goo.gl/maps/uLYpTKCiXcJ2
• Time: เปิดทุกวัน จันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 10.30 – 21.00 น. และศุกร์ – อาทิตย์ เวลา 10.00 – 22.00 น.
• FB: www.facebook.com/Kimukatsu.Th/
Story: Taliw
Photo: Wara Suttiwan