3 ร้านต้องโดน เมื่อไปเที่ยว “ล้ง 1919”
จาก ‘ท่าเรือกลไฟ’ ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1850 สู่ “ล้ง 1919” (LHONG 1919) ท่าประวัติศาสตร์ศิลป์ไทย – จีน ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในปี ค.ศ. 2017 ด้วยการอนุรักษ์เสน่ห์ดั้งเดิมเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ทั้งสถาปัตยกรรมจีนและจิตตกรรมฝาผนังที่มีอายุ 167 ปี ทำให้ “ล้ง 1919” เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มาพร้อมริมน้ำเจ้าพระยาที่ให้เราชาวกรุงเทพได้แวะไปพักผ่อนได้ทุกวัน
เมื่อไปแวะเยือน “ล้ง 1919” ทั้งที นอกจากการถ่ายภาพบรรยากาศชวนประทับใจแล้ว อย่าลืมแวะไปลิ้มลองความอร่อยของ 3 ร้านอาหารและคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ในโครงการ ขอบอกว่าร้านเหล่านี้ล้วนมาพร้อมคอนเซ็ปต์ทั้งการตกแต่งและเมนูอาหารที่คิดขึ้นเพื่อล้ง 1919 โดยเฉพาะ
- Address: ถนนเชียงใหม่ คลองสาน
- Map: https://goo.gl/maps/41yVSRfTqeq
- Time: เปิดทุกวัน โซนศาลเจ้าแม่และ Art & Craft เปิดเวลา 8.00 – 20.00 น. และโซนร้านอาหาร เปิดเวลา 11.00 – 22.00 น.
- Tel: 091 187 1919
- Facebook: www.facebook.com/LHONG-1919
RONG SI
โรงสี
เริ่มจากร้านอาหารติดริมน้ำเจ้าพระยาในชื่อ “โรงสี” ร้านอาหารไทยพรีเมี่ยมที่บริหารโดยคุณปลา – อัจฉรา บุรารักษ์ เจ้าของร้าน ‘กับข้าวกับปลา’ และร้านขนมหวาน ‘IBerry’ โดยเมื่อคุณปลาทราบว่าจะมีการบูรณะท่าเรือกลไฟแห่งนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็ไม่รอช้าที่จะขอจับจองพื้นที่เปิดร้านอาหารในคอนเซ็ปต์ใหม่ ซึ่งก็คือ “โรงสี ร้านอาหารซีฟู้ด รสจัดจ้านแบบไทย ในบรรยากาศจีนโมเดิร์น” แห่งนี้
การตกแต่งร้าน เพราะอาคารที่ตั้งของร้านเป็นเคยเป็นโรงสี Wharf No 41 มาก่อน คุณปลาจึงอยากอนุรักษ์อาคารหลังนี้ตามคอนเซ็ปต์โครงการเอาไว้ให้มากที่สุด จึงรีโนเวทอาคารให้แข็งแรง โดยยังคงโครงสร้างหลักเอาไว้ทั้งหมด ขณะเดียวกันวัสดุที่ผุพังบางชิ้นก็นำมาเก็บรักษาในรูปแบบของตกแต่งร้าน อย่างกระเบื้องหลังคาเก่าที่นำมาประดับริมผนัง หรือราวจับบันไดไม้ที่ผุพังก็นำมาซ่อมแซมและใช้เป็นที่กั้นแบ่งโซนในร้าน โดยภาพรวมของร้านโรงสีแห่งนี้จะเป็นร้านอาหารไทยซีฟู้ดที่เจือกลิ่นอายจีน และเติมความโมเดิร์นเอาไว้อย่างลงตัว
ส่วนเมนูอาหารเน้นเสิร์ฟ ‘อาหารซีฟู้ด รสจัดจ้านแบบไทย’ โดยหลายเมนูเป็นเมนูใหม่ที่คุณปลาคิดขึ้นใหม่เพื่อโครงการนี้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น “เมี่ยงกลีบบัว” เมี่ยงที่ทานคู่กับกลีบบัวหลวง ความอร่อยของเมนูนี้นอกจากรสชาติละมุนของกลีบบัวแล้ว ร้านยังคั่วเครื่องเคียงเองทั้งหมด ทั้งมะพร้าว ถั่ว กุ้งแห้ง ฯลฯ ส่วนน้ำจิ้มก็ทำสดใหม่และเป็นสูตรเฉพาะของร้าน
นอกจากนี้เมนูอื่นๆ ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ทั้งรสชาติและความสดใหม่ของวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็น “หลนปูใหญ่” ที่ให้รสแบบไทยแท้ มาพร้อมปูที่หวานจากความสดใหม่ โดยคัดคุณภาพมาอย่างดี “ปูผัดผงกะหรี่” กับรสเข้มข้นของเครื่องแกงกะหรี่ให้รสกลมกล่อม มาพร้อมกับปูเนื้อแน่นเต็มคำ และที่ขาดไม่ได้คือ “ปลากะพงทอดน้ำปลา” กับปลากะพงตัวโตเนื้อแน่นนำไปทอดจนเหลืองกรอบ ให้รสเค็มซ่อนหวานกำลังดี ส่วนเมนูเครื่องดื่มก็มีหลากหลายให้เลือกดื่ม ไม่ว่าจะเป็น Iced Black Tangerine หรือ Honey Yuzu ที่จะมาช่วยเพิ่มความสดชื่นระหว่างมื้อ
NAI HARNG
นายห้าง
ถัดจากร้านโรงสีคือ ร้าน “นายห้าง” ร้านอาหารสตรีทฟู้ดระดับพรีเมี่ยม ที่บริหารโดยคุณประเวฒิ ไรวา ที่เรารู้จักกันดีในแบรนด์ S&P นั่นเอง โดยร้านนายห้างแห่งนี้มาพร้อมคอนเซ็ปต์ที่สอดรับไปกับโครงการล้ง 1919 เช่นเดียวกันกับร้านโรงสี
ชื่อร้าน “นายห้าง” มาจาก ‘คุณสุริยน ไรวา’ ซึ่งแต่ก่อนท่านเคยอาศัยอยู่ในละแวกนี้และเคยทำธุรกิจด้านโรงสีมาก่อน โดยสมัยก่อนลูกน้องหรือลูกจ้างต่างเรียกท่านว่า ‘นายห้าง’ เพื่อเป็นการนำลึกถึงคุณพ่อ คุณประเวฒิจึงตัดสินใจเปิดร้านอาหารในโครงการนี้
เพราะต้องการให้ร้านสอดรับกับคอนเซ็ปต์โครงการจึงตกแต่งร้านให้มีเสน่ห์จากความเก่าผสมผสานกับความร่วมสมัย ที่สำคัญต้องแทรกซึมกลิ่นอายวัฒนธรรมจีนด้วย คุณประเวฒิจึงหยิบ ‘เยาวราช’ มาเป็นแรงบันดาลใจในการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นไฟนีออนสีสดที่เรามักเห็นตามท้องถนนเยาวราชในยามค่ำคืน ภาพบรรยากาศของชุมชนจีนในสยามที่นำเสนอผ่านภาพเพ้นท์บนผนังร้าน หรือการออกแบบร้านให้เป็นครัวเปิด ซึ่เรามักเห็นในร้านอาหารย่านเยาวราช ส่วนหน้าร้านก็จัดให้มีรถเข็นหมูปิ้ง กุ้งแม่น้ำย่าง ฯลฯ ซึ่งสื่อถึงความเป็นสตรีทฟู้ดนั่นเอง เติมความอบอุ่นด้วยคำถาม “กินข้าวหรือยัง” คำพูดติดปากของคุณสุริยนที่มักถามไถ่ลูกจ้างอยู่เสมอ
เมนูอาหารของร้านนี้เน้นเสิร์ฟ “อาหารสตรีทฟู้ดจีนผสมไทย” ที่เราคุ้นเคยในย่านเยาวราช โดยเน้นอาหารจานเดียวเป็นหลัก เพราะคุณประเวฒิต้องการให้ร้านนายห้างเป็นจุดแวะพักระหว่างทางที่เที่ยวชมล้ง 1919 ไม่ว่าจะเป็นซิกเนเจอร์ “ข้าวผัดนายห้าง” เมนูที่ครีเอทขึ้นใหม่ โดยเพิ่มความพิเศษให้เมนูข้าวผัดด้วยหมูแดงฉ่ำๆ และเนื้อกุ้งตัวโต เป็นข้าวผัดที่ผัดแบบร่วนๆ สไตล์จีน อีกหนึ่งเมนูห้ามพลาด “ผัดไทยปู” เมนูขึ้นชื่อและขายดีจากร้านภัทรา ฟายน์ ไทย ควิซีน (Patara Fine Thai Cuisine) ร้านอาหารไทยในต่างแดนที่มีสาขาทั่วโลก โดยผัดไทยที่นำมาเสิร์ฟในร้านนายห้างนี้เป็นสูตรเดียวกันกับร้านภัทรานั่นเอง
ส่วนเมนูอื่นๆ ก็มี “กุ้งแม้น้ำอบวุ้นเส้น” วุ้นเส้นเส้นเหนียวนุ่มที่เสิร์ฟพร้อมกุ้งแม่น้ำตัวโตสดใหม่ ปรุงรสกลมกล่อม หรือใครอยากทานเมนูอาหารไทย ขอแนะนำให้ลอง “ส้มตำ ไก่ย่าง” กับตำไทยรสจัดจ้านที่เสิร์ฟคู่กับไก่ย่างหนังกรอบเนื้อนุ่ม โดยมาพร้อมข้าวเหนียวร้อนๆ ทานคู่กัน
เมนูเครื่องดื่มของที่นี่ เน้นเสิร์ฟเครื่องดื่มจาก ‘อัญชัน’ ซึ่งร้านนายห้างเลือกใช้ดอกอัญชันออแกนิกที่ดีต่อสุขภาพและยังให้สีสวย โดยมีทั้ง “อัญชันกาแฟเย็น” กาแฟสีสวยหรือเติมความสดชื่นด้วยเครื่องดื่มรสเปรี้ยวอมหวานอย่าง “อัญชันมะนาวเย็น” ปิดท้ายด้วย “น้ำอ้อยกับเฉาก๊วย” เครื่องดื่มกึ่งขนมหวานจากน้ำอ้อยสดและเฉาก๊วยแท้ช่วยดับร้อน
PLEARNWAN PANICH
เพลินวาน พาณิชย์
ปิดท้ายกันด้วยร้านขนมหวานที่เราคุ้นเคย “เพลินวาน พาณิชย์” แต่เมื่อมาตั้งร้านในโครงการล้ง 1919 จึงมาพร้อมคอนเซ็ปต์ไม่ธรรมดา โดยทางร้านตั้งสขาแห่งนี้ว่า ‘ท่าเรือกลไฟ’ ตามประวัติศาสตร์ของสถานที่นั่นเอง
ความน่าสนใจของร้านเพลินวาน พาณิชย์สาขานี้อยู่ที่บรรยากาศและเครื่องดื่มที่ครีเอทขึ้นใหม่ โดยร้านเพลินวาน พาณิชย์ตั้งอยู่ในอาคารไม้ ซึ่งเป็นอาคารหลักที่เชื่อมต่อกับศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว เป็นอาคารเก่าที่ถูกบูรณะซ่อมแซม โดยยังคงอนุรักษ์โครงสร้างทั้งหมดเอาไว้ ทำให้บรรยากาศร้านนี้เจือกลิ่นอายจีนโบราณเอาไว้อย่างเข้มข้น ผนวกกับเจ้าของร้านนำของสะสม ซึ่งเป็นของเก่าโบราณมาตกแต่ง รวมทั้งการคัดเฟอร์นิเจอร์เก่าสไตล์จีนมาจัดวาง ยิ่งเสริมให้คาเฟ่ไตล์ย้อนยุคแห่งนี้สะดุดตา
เมนูเครื่องดื่มและขนมของร้านจะเป็นเมนูที่มีเฉพาะสาขานี้เท่านั้น โดยเน้นเมนูทานง่ายๆ ทั้งเครื่องดื่มและขนมที่เป็นเมนูไทยโบราณที่เราคุ้นเคย อย่าง “กาแฟลูกครึ่ง” เมนูที่ผสมผสานความอร่อยของกาแฟไทยโบราณ ‘โอเลี้ยง’ เข้ากับเมล็ดกาแฟสากล จนได้กาแฟสองสัญชาติรสกลมกล่อม เติมความหวานมันด้วยนมสดเย็น หรือจะลิ้มลอง “กาแฟเต้าหู้งาดำเย็น” เมนูสำหรับคนรักสุขภาพและแพ้นมสด เพราะเมนูนี้เลือกใช้น้ำเต้าหู้แทนนมสด
นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องดื่มๆ เป็นตัวเลือกอีกมากมาย อาทิ โอวัลตินไม่ปรุงน้ำ น้ำแดงที่ท็อปด้วยผงโอวันติน, ชาไทย ทั้งแบบร้อน เย็น และปั่น หรือจะลองน้ำสมุนไพรไทยๆ อย่าง น้ำมะตูม, น้ำกระเจี๊ยบ, น้ำเสาวรส เป็นต้น
ปิดท้ายด้วยขนมหวานคุ้นเคยอย่าง “ขนมปังสังขยา” ขนมปังที่นำไปนึ่งจนร้อน ราดด้วยสังขยาโฮมเมดหวานน้อยแบบไม่มีหวง จนได้ขนมหวานชวนฟินจานนี้ นอกจากนี้ที่เพลินวาน พาณิชย์ยังมีเมนูอื่นๆ โดยเฉพาะเมนูขนมปังที่มีให้เลือกแบบนึ่งและปิ้ง ที่สำคัญยังมี ปังนึ่งโบราณ ให้ลิ้มลองด้วย ส่วนเมนูขนมหวานอื่นๆ อาทิ โรตี ที่มีให้เลือกทั้งโรตีนมสด โรตีไมโล และโรตีสังขยา, แป้งจี่มะพร้าวอ่อน และ น้ำแข็งไสจ้ำบ๊ะ เป็นต้น
SEE MORE…
http://www.favforward.com/40743/lifestyle/travel/history-lhong1919/