ในซอยเล็กซอยน้อยที่พลุกพล่านไปด้วยนักท่องเที่ยวและผู้คนในย่านท่าเตียน ยังมีคาเฟ่บรรยากาศสงบให้คุณไปนั่งเหมอ พร้อมดำดิ่งไปสำรวจความเก๋ไก๋ในคอนเซ็ปต์ “ใต้ทะเล” และลิ้มรสเมนูฟิวชั่นที่ผสมผสานเสน่ห์ของอาหาร 3 สัญชาติเข้าด้วยกันในคาเฟ่ที่มีชื่อว่า “Blue Whale Maharaj”
แต่ก่อนที่คุณจะดำดิ่งไปสัมผัสคาเฟ่เท่ๆ แห่งนี้ เราขอชวนคุณไปฟังบทสนทนาถึงเบื้องหลังก่อนที่มาเป็น Blue Whale Maharaj ผ่านคำบอกเล่าของคุณกุล – สิริกุล ทรัพย์สุขสิริ หนึ่งในหุ่นส่วนคนสำคัญของร้านกันก่อน
“ร้านนี้เริ่มจากสิ่งที่เราชอบร่วมกัน ชอบทำอาหาร ชอบกิน มีประสบการร์เรื่องการทำเครื่องดื่ม อย่างน้องที่เป็นหุ่นส่วน เขามีประสบการณ์การเป็นบาริสต้ามา 5 ปี ส่วนกุลก็เคยเรียนเลอ กอร์ดอง เบลอที่อังกฤษ ทุกคนก็มีประสบการณ์เกี่ยวกับเครื่องดื่มอาหาร เราก็เลยอยากเปิดร้านที่เป็นสไตล์ของเราเอง”
และจากความชอบที่มีร่วมกันของเพื่อนๆ ทั้ง 3 คน คุณกุล – สิริกุล ทรัพย์สุขสิริ คุณเบส – อคพจน์ ธีรพงษกร และคุณทราย – สุดาพัทธ์ เลิศพรกุลรัตน์ จึงนำไปสู่ไอเดียการแต่งร้านเท่ๆ แบบไม่ซ้ำใคร โดยมีอินทีเรียดีไซเนอร์เป็นผู้เนรมิตความชอบและความฝันให้เป็นจริง ด้วยการเปลี่ยนตึกเก่าห้องเดียวที่มีอายุ 60 กว่าปีในย่านท่าเตียนให้กลายเป็นคาเฟ่โทนสีน้ำเงินแสนเท่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ใต้ทะเล”
“…พอมันแคบ เราก็พยายามทำอะไรที่มัน Maximize Space ให้มันรู้สึกว่าจุคนได้มากขึ้น แล้วก็ให้ดูกว้าง ตอนแรกตึกเดิมเขาเป็นสองชั้น เราก็หั่นทำเป็นสามชั้น ให้เป็นสเปซสลับชั้น”
“จริงๆ ที่มาของคอนเซ็ปต์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับจินตนาการด้วยค่ะ เพราะอินทีเรียดีไซเนอร์ให้เราบอกความชอบ ซึ่งความชอบที่เราชอบร่วมกัน คือทุกคนชอบสีน้ำเงินเหมือนกันหมด และเมื่อเราต้องเลือกเฉดสีมาทำร้าน มันก็มีสีอยู่สีหนึ่งชื่อ Blue Whale ซึ่งเป็นสีที่ทุกคนชอบ ก็เลยเป็นที่มาของชื่อร้านและคอนเซ็ปต์ร้าน โ
ดยคอนเซ็ปต์ของเรามีว่า ‘ใต้ทะเล’ เพราะเราชื่อ Blue Whale และเราอยากให้นึกถึงระดับความลึกของทะเล อย่างล่างสุดคือสีเข้ม ซึ่งจะหมายถึงใต้ทะเลลึก ส่วนด้านบนคือสีอ่อนเกือบขาว หมายถึงพ้นน้ำแล้ว”
เริ่มจากการแต่งร้านที่ให้บรรยากาศเข้มสะดุดตา โดยเฉพาะผนังด้านหนึ่งที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องเกล็ดปลาเคลือบสีปูเต็มผนังจากชั้นล่างสู่ชั้นบน พร้อมกับการไล่ระดับสีจากสีน้ำเงินเข้มสู่สีขาว และแม้จะมีพื้นที่เพียงหนึ่งห้องแถวและยังเลือกแต่งร้านด้วยโทนสีเข้ม แต่ภายในร้านกลับโปร่งโล่งด้วยการเปิดช่องแสงขนาดใหญ่ โดยเนรมิตพื้นที่ชั้นล่างให้เป็นหัวใจของร้าน นั่นก็คือเป็นพื้นที่ครัวและเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม โดยมีบันไดสีน้ำเงินทอดตัวโดดเด่นและดึงดูดให้เราเดินขึ้นสู่ชั้นสอง
ส่วนชั้นสองและชั้นสามจัดโต๊ะและเก้าอี้แบบนั่งสบาย โดยยังคงเสน่ห์ของสีน้ำเงินด้วยการแต่งผนังด้านในด้วยลวดลายจากฝีแปรง ส่วนผนังตรงข้ามเลือกติดวอลเปเปอร์สไตล์วินเทจเพื่อรับกับเฟอร์นิเจอร์วินเทจที่ทางร้านเลือกใช้ ส่วนชั้นสามเลือกให้เป็นพื้นที่นั่งสบายกับการปูเบาะรองนั่งหนานุ่มและโต๊ะไม้ญี่ปุ่นนั่นเอง
“อาหารของเราจะเน้นเป็นอาหารฟิวชั่น คือจะเป็นอาหารกึ่งไทย ผสมญี่ปุ่น ผสมฝรั่ง และทุกอย่างในร้าน ไม่ว่าจะเป็นข้าว ขนม ไซรัป เราทำเอง เวลากินก็จะรู้สึกแตกต่างจากที่อื่น มันจะมีรสชาติกึ่งโฮมเมดหน่อยๆ”
นอกเหนือจากการตกแต่งและบรรยากาศร้านที่ชวนให้เราไปนั่งชิลแล้ว เมนูอาหารของที่นี่ก็โดดเด่นไม่ซ้ำใครเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อ Blue Whale Maharaj เลือกเสิร์ฟเมนูฟิวชั่นที่รวมเสน่ห์และความอร่อยของอาหาร 3 สัญชาติเข้าด้วยกัน “อาหารของเราจะเน้นเป็นอาหารฟิวชั่น คือจะเป็นอาหารกึ่งไทย ผสมญี่ปุ่น ผสมฝรั่ง”
เริ่มจากเมนูซิกเนเจอร์ “ข้าวแฮมเบิร์ก” เป็นเมนูที่ผสมความอร่อยของรสชาติอาหารสามสัญชาติไว้อย่างลงตัว ตั้งแต่เบอเกอร์หมูกับกุ้งที่วางอยู่บนข้าวสวยร้อนๆ โป๊ะหน้าด้วยไข่ดาว โดยแทรกความอร่อยด้วยชีสเชดด้า เติมรสชาติด้วยผงโรยข้าว แตงกวาดอง ซอสเทริยากิ เสิร์ฟพร้อมกับสลัดผักและน้ำสลัดบัลซามิก
ส่วนเมนูขนมหวานต้องไม่พลาดกับขนมโฮมเมดอย่าง “เค้กกล้วยปิ้งน้ำตาล” ที่เพียงแค่กัดลงไปก็จะสัมผัสได้ถึงรสชาติของกล้วยแบบเต็มๆ เพิ่มความอร่อยด้วยการนำเค้กกล้วยไปจี่กับน้ำตาล จนได้ความหอมของคาราเมลและความกรอบอร่อย แต่ภายในยังคงความหอมนุ่มเอาไว้ เพิ่มรสชาติด้วยครัมป์อบกรอบ ไอซิ่ง และซอสเอสเปรสโซคาราเมล เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมรสวานิลาเข้ากันเป็นอย่างดี
ต่อกันด้วยเมนูเครื่องดื่มของร้าน เราขอเริ่มจากเครื่องดื่มซิกเนเจอร์อย่าง “Butterfly Pea Latte” หรือ นมอัญชัน เครื่องดื่มที่ครีเอทขึ้นเพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์และชื่อร้านที่เน้นสีน้ำเงินเป็นหลัก โดยเสิร์ฟทั้งแบบร้อนและเย็น และยังมี ‘อัญชันมะนาว’ เป็นอีกเมนูพิเศษของร้าน
นอกจากนี้ยังมี “On The Rock” มาเอาใจคอกาแฟอีกด้วย โดยกาแฟของที่นี่เป็นการนำเมล็ดกาแฟคุณภาพจาก 4 ประเทศทั้งเมล็ดกาแฟจากไทย ลาว อินโดนีเซีย และเอธิโอเปียมาเบลนด์เข้าด้วยกันจนได้รสชาติที่มีเอกลักษณ์ ทั้งความเข้มข้นจากเมล็ดกาแฟไทย ลาว และอินโดนีเซีย ขณะเดียวกันก็ซ่อนเปรี้ยวอย่างมีเอกลักษณ์จากเมล็ดกาแฟเอธิโอเปียนั่นเอง
“เราเป็นคาเฟ่เล็กๆ ดังนั้นเราสามารถทำอะไรที่เราชอบ ทำอะไรที่เรารักได้ เพราะฉะนั้นทุกๆ สัปดาห์เราจะมีอาหารหน้าใหม่ๆ มาให้กิน เหมือน Taste of The Week คือเราสามารถเปลี่ยนเมนู ซึ่งเป็นเมนูเวียนที่ลูกค้าประจำมากินก็จะไม่เบื่อ ซึ่งการทำเมนูเวียนแบบนี้มาจากความชอบที่เราเห็นวัตถุดิบอะไรมาใหม่ๆ เราก็อยากลองทำ เมนูของเราก็เลยมีคอนเซ็ปต์ประมาณ Surprise of The Week มากกว่า แต่เราก็มีเมนูประจำนะ มีหลายสิบเมนูเลยด้วย แต่ว่าเมนูเวียนส่วนใหญ่เป็นของหวานมากกว่า ซึ่งเรานึกอะไรสนุกๆ ขึ้นมาได้ เราก็จะทำ เป็นเมนูที่ทำด้วยความสนุก”
Address : ซอยเพ็ญพัฒน์ 1 ถนนมหาราช (ใกล้ท่าเตียน)
GPS : 13.7445149,100.4900065
Time : เวลา 10.00 – 20.00 น. หยุดทุกวันพฤหัสบดี
Tel. : 081 641 4514
Facebook : www.facebook.com/bluewhalebkk
Instagram : www.instagram.com/bluewhalebkk
