ขอต้อนรับเข้าสู่ฤดูฝน หลายคนคงอยากร้องเฮ! เสียงดังๆ กันใช่ไหม เพราะเราเองก็อยากจะตะโกนดังๆ ด้วยความดีใจเช่นกัน เมื่อมีฝนโปรยปรายให้เราได้คลายร้อนกันได้บ้าง แม้ว่าบางช่วงเวลาของวันอากาศจะยังคงร้อนอบอ้าว แต่เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าอากาศช่วงนี้เย็นสบายกว่าเดือนก่อนมากมายนัก
แต่ไม่ว่าแดดจะออกหรือฝนจะตก เราก็คงไม่อยากอุดอู้อยู่แต่ในบ้านกันใช่ไหม วันนี้จึงได้ฤกษ์งามยามดีชวนคุณผู้อ่านออกไปเยี่ยมเยือนคาเฟ่แห่งใหม่ เพื่อไปลิ้มลองขนมหวานแสนอร่อยพร้อมชมงานดีไซน์สุดคูลในบรรยากาศอบอุ่น กับคาเฟ่ที่มีชื่อว่า THINKIN’ OUTSIDE THE FOX ณ ซอยทองหล่อ 14 กัน!
จากตึกแถวสามชั้น นำมารีโนเวทจนมีรูปทรง ‘บ้าน’ ที่โดดเด่นด้วยหลังคาทรงจั่วแฝงกลิ่นอายสแกนดิเนเวีย หากมองจากภายนอกจะเห็นความเรียบง่ายอย่างมีสไตล์ และจากความเรียบง่ายในแบบฉบับมินิมอลสไตล์ของคาเฟ่แห่งนี้เองที่กลายเป็นเสน่ห์ชวนให้เราหลงใหล
แม้จะเป็นตึกแถวเพียงคูหาเดียว แต่ภายในกลับกว้างและโปร่งด้วยโถงกลางที่เจาะเพดานทะลุทั้งสามชั้น ทำให้พื้นที่ในร้านดูโปร่งและโล่ง ผนวกกับด้านหน้าร้านที่เลือกใช้กระจกใสจากพื้นจรดหลังคา ทำให้ร้านสว่างไสวชวนให้เรารู้สึกอบอุ่นเสมือนบ้าน และสิ่งแรกที่ปะทะสายตาเรียกความสนใจของเราทันทีที่เดินเข้าร้านคงเป็น Product Design จัดวางบนชั้นอย่างมีสไตล์นั่นเอง
“ร้านนี้เป็นการรวมตัวของคนที่มีความชอบหลายด้าน เพื่อนคนหนึ่งชอบทำขนม ชอบทานกาแฟ ขณะที่พี่เป็นกราฟฟิกดีไซเนอร์ ชอบงานกราฟฟิก เราก็เลยอยากจะมีร้านกาแฟที่มีงานดีไซน์ให้คนได้เข้ามากินบรรยากาศ นอกจากมากินขนม กินกาแฟ ขณะเดียวกันเราก็มีของดีไซน์ให้คุณเลือกด้วย เพราะเราอยากให้ร้านนี้เป็นพื้นที่ที่คุณเข้ามาคุณรู้สึกว่า ชีวิตมีความแตกต่างจากชีวิตประจำวันที่มันเป็น routine อยู่นะ พี่อยากสร้างพื้นที่แบบนี้ให้เกิดขึ้น ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่เรารวมตัวกัน และสร้างคาเฟ่แห่งนี้ขึ้นมา” คุณอุ๊ – ชนิดา อรดีดลเชษฐ์ หุ่นส่วนคนสำคัญเล่าถึงจุดเริ่มต้นของร้านให้เราฟัง
และจากความคิดที่จะอยากกระตุกไอเดีย สร้างไอเดียใหม่ๆ ให้ชีวิตประจำวันไม่จำเจนี้เอง จึงกลายมาเป็นคอนเซ็ปต์ที่เท่ไม่แพ้สถาปัตยกรรมด้วยการเลือกให้ Fox หรือสุนัขจิ้งจอกเป็นสัญลักษณ์ที่ชวนให้เราคิดนอกกรอบ คาเฟ่แห่งนี้จึงเปรียบเสมือนรังของสุนัขจิ้งจอกนั่นเอง
“สุนัขจิ้งจอกเป็นสัญลักษณ์ของจอมวางแผน เฉลียวฉลาด คิดไว ทำไว บางทีอาจจะเจ้าเล่ห์นิดหน่อยและอาจจะดุร้าย สุนัขจิ้งจอกก็เลยเป็นสัญญาลักษณ์ของ Thinking Outside The Box แต่ว่าด้วยความที่เราอยากให้สุนัขจิ้งจอกมีคาแรคเตอร์ที่ชอบทำขนม ชอบกลิ่นกาแฟ และชอบงานดีไซน์ น้องหมาตัวนี้ก็เลยแตกต่างจากสุนัขจิ้งจอกตัวอื่นๆ มันก็เลยกลายเป็นที่มาของชื่อ Thinkin’ Outside The Fox ซึ่งน้องหมาตัวนี้ก็นำความชอบส่วนตัวมาสร้าง community ใหม่ในเมือง ก็เลยเดินทางออกจากป่าเข้ามาในเมืองแล้วก็มาสร้างบ้านในเมืองซึ่งก็คือคาเฟ่แห่งนี้”
โดยคุณอุ๊ได้ผสมผสานเมนูขนมหวานเข้ากันกับงานดีไซน์ผ่านสุนัขจิ้งจอกตัวนี้ในรูปแบบของโลโก้ ซึ่งเป็นสุนัขจิ้งจอกที่กำลังย่างเท้าเดินทางไกลมาจากสแกนดิเนเวีย บนบ่าแบกสัมภาระซึ่งเป็นขนมหวานที่ชื่นชอบและดินสอเอาไว้ โดยขนมหวานที่เจ้าสุนัขจิ้งจอกตัวนี้แบกมานั้นก็เพื่อนำมาแบ่งปันให้ผู้คนได้ลิ้มลอง ขณะที่ดินสอก็เป็นตัวแทนของงานดีไซน์และความครีเอทีฟที่เจ้าสุนัขจิ้งจอกตัวนี้ได้พกเข้ามาในเมืองด้วย Thinkin’ Outside The Fox แห่งนี้จึงเปรียบเสมือนบ้านของสุนัขจิ้งจอกที่มีสิ่งดีๆ มาแบ่งปันให้คนอื่นๆ นั่นเอง
…เพราะเราอยากให้คุณได้เสพย์ความสุข และการกินขนมก็คือความสุข
จากการเดินทางออกจากป่าของสุนัขจิ้งจอกตัวนี้ ทำให้คาเฟ่แห่งนี้อบอวลไปด้วยความหอมหวานจากขนมหวานและเครื่องดื่ม ขณะเดียวกันก็มีงานดีไซน์เป็นอาหารตาให้เราได้ชื่นชม เริ่มจากเมนูขนมหวานและเครื่องดื่มของร้านซึ่งเป็นเมนู Homemade สูตรเฉพาะของร้าน โดยเมนูเด่นของร้านส่วนใหญ่จะเป็น ‘ช็อกโกแลต’ เพิ่มความพิเศษด้วยการวางคอนเซ็ปต์ให้จานขนมหวานเป็น Dessert Plate ขนมหวานที่แต่งจานอย่างมีศิลปะ
“วัตถุดิบของเรากว่า 80% เป็นของนำเข้าจากต่างประเทศ อย่างช็อกโกแลต ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของร้านก็นำเข้ามาจากเบลเยี่ยม ประเทศที่ได้ชื่อว่าช็อกโกแลตอร่อยที่สุด และเรายังนำเข้าวัตถุดิบอื่นๆ ด้วย เพื่อให้ขนมของเราอร่อย เพราะเราอยากให้คุณได้เสพย์ความสุข และการกินขนมก็คือความสุข”
เริ่มจากเมนูซิกเนเจอร์ที่ห้ามพลาดคือ LESS – GUILTY CHOCOLATE SUNDAY ดาร์กช็อกโกแลตสูตรพิเศษแบบไร้แป้งหรือ Gluten Free เสิร์ฟพร้อมวิปครีมและไอศกรีมรสวานิลา ตัดความหวานด้วยซอสสตรอเบอร์รี่ที่ทางร้านทำขึ้นเอง เพิ่มอารมณ์ขำขันให้จานนี้ด้วยการตั้งชื่อว่า Less Guilty เพื่อให้เรารู้สึกผิดน้อยลงเมื่อแอบกินขนมหวานนั่นเอง
หลังจากลิ้มลองขนมหวานจานอร่อยแล้ว เราก็ไม่ลืมที่จะลิ้มลองเมนูเครื่องดื่ม SIGNATURE HOT COCOA เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของร้านอีกเมนูที่ไม่ควรพลาด โดยเครื่องดื่มแก้วนี้เป็นโกโก้ร้อนรสหวานละมุนลิ้น เพิ่มความสนุกในการทานด้วยคุกกี้แผ่นบางที่ปิดอยู่ด้านบน เวลาดื่มก็ให้เคาะคุกกี้แผ่นนี้ให้แตก เพื่อให้คุกกี้ตกลงไปในโกโก้ โดยความพิเศษของเครื่องดื่มแก้วอยู่ที่โกโก้ที่ใช้ ซึ่งเป็นโกโก้คุณภาพดีที่นำเข้าจากเบลเยี่ยมนั่นเอง
แน่นอนว่าไม่เพียงแต่เมนูช็อกโกแลตเท่านั้น แต่คาเฟ่แห่งนี้ยังมีเครื่องดื่มอื่นๆ อย่าง ‘Coffee’ มาเอาใจคนรักกาแฟ รวมทั้งยังมี ‘Green Tea’ และ ‘Fresh Juice’ หลายเมนูเสิร์ฟให้คุณได้ไปลิ้มลอง
…ในโปรดักของเราก็เลยมีกิมมิกทุกชิ้น เพราะเราอยากจะสื่อแรงบันดาลใจที่เราเก็บมา เพื่อให้คนอื่นได้สิ่งเหล่านั้นเวลามาที่นี่
“พี่อยากทำคาเฟ่ที่ไม่ใช่แค่มานั่งกินเฉยๆ แต่เป็นคาเฟ่ที่มี Emotion คืออยากให้มากิน มาเห็นงานดีไซน์ที่ช่วยกระตุกความคิดของคุณ อยากให้คุณรู้สึกว่าในชีวิตประจำวันมันไม่ได้น่าเบื่อ เพราะพี่เชื่อว่าถ้าเราใช้ของดีไซน์ เราก็จะรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจ มันจะรู้สึกกระปี้กระเปร่าในการทำงาน แบบว่ามีแรงลุกขึ้นมาทำอะไรในวันต่อไป นี่คือจุดขายที่เราพยายามจะสื่อ”
จากเหตุผลนี้เอง ทำให้คาเฟ่แห่งนี้มี Product Design ซึ่งเปรียบเสมือนซิกเนเจอร์ของร้าน โดยงานงานดีไซน์ที่วางจำหน่ายในร้านนั้น มีทั้งงานที่คุณอุ๊คัดสรรพร้อมนำเข้ามาจากสแกนดิเนเวีย ส่วนงานไม้เป็นงาน Handmade จากดีไซเนอร์ไทย และแน่นอนว่าต้องมีงานดีไซน์จากเจ้าสุนัขจิ้งจอกภายใต้แบรนด์ Thinkin’ Outside The Fox ด้วย โดยความน่าสนใจของงานดีไซน์ภายใต้แบรนด์ Thinkin’ Outside The Fox อยู่ที่การใส่คำคมเพื่อสะกิดไอเดีย เปรียบเสมือนแรงบันดาลใจที่ช่วยให้เราได้ลองทำสิ่งใหม่ที่แตกต่างจากชีวิตประจำวัน
อย่าง ‘ดินสอ’ มีคอนเซ็ปต์ว่า Work Hard Play Harder คุณอุ๊เล่าให้ฟังถึงไอดียของดินสอนี้ว่า “เวลาทำงานคุณก็หยิบแท่ง Work ไปใช้ ส่วนแท่ง Play ก็ใช้วาดรูปเล่น ซึ่งในหนึ่งกล่องจะมี 12 แท่ง เป็นแท่ง work แค่ 5 แท่ง ส่วนแท่ง Play มี 7 แท่ง ซึ่งหมายความว่าให้คุณ Balance your Life คืออย่าทำงานหนักเกินไป ให้ความสุขกับชีวิตบ้าง ก็เหมือน Work Hard แต่ให้ Play Harder กว่า เพราะฉะนั้นเราจึงมี Play ให้เยอะกว่า Work”
แม้กระทั้ง ‘ถุง’กระดาษธรรมดาที่คุณอุ๊ออกแบบเพื่อใช้ใส่ของขวัญหรือห่อขนม ยังมีคอนเซ็ปต์ว่า Give Happy. Get Happy นั่นคือคุณให้ความสุขกับเพื่อน คุณก็จะได้ความสุขนั้นกลับมา หรือ ‘สมุด’ ก็มีกิมมิกว่า Write More to Create More ยิ่งคุณเขียนเยอะ คุณจะยิ่งสร้างสรรค์อะไรได้มากขึ้นนั้นเอง
“งานชิ้นไหนที่เป็นดีไซน์ของ Thinkin’ Outside The Fox จะมีคอนเซ็ปต์เพื่อกระตุกต่อมคิด อย่างที่บอกว่าเราอยากให้คนที่เข้ามารู้สึกว่าที่นี่มีอะไรที่ให้เขาได้ฉุดคิดสิ่งใหม่ๆ ในชีวิตประจำวัน ในโปรดักของเราก็เลยมีกิมมิกทุกชิ้น เพราะเราอยากจะสื่อแรงบันดาลใจที่เราเก็บมา เพื่อให้คนอื่นได้สิ่งเหล่านั้นเวลามาที่นี่”
Address : ซอยทองหล่อ 14 ถนนสุขุมวิท 55 กทม.
GPS : 13.7334328,100.5805337
Time : ช่วงเดือนนี้ Thinking’ Outside The Fox อยู่ในช่วง soft opening ซึ่งเปิดให้บริการเวลา 12.00 – 20.00 น. หยุดวันจันนทร์ และจะเปิดคาเฟ่ให้เราไปเยือนอย่างเต็มตัวในเดือนมิถุนายน โดยจะเปิดบริการตั้งแต่ 10.00 – 22.00 น.
Facebook : www.facebook.com/ThinkinOutsideTheFox
Web : www.thinkinoutsidethefox.com