ไม่ได้เป็นสาวหล่อแบบทอมบอย แต่ก็มีบางวันที่อยากแต่งบอยๆ ออกจากบ้านกับเขาบ้าง หลายปีมานี้ไอเท็มส่วนใหญ่ ถูกทำออกมาเอาใจผู้หญิงมากขึ้นในรูปแบบ Unisex ผลัดกันใส่ได้ทั้งหญิงและชาย ฉีกความจำเจแบบเดิมๆ เพื่อเสริมความเท่ให้สาวๆ ในขณะที่ชายหนุ่มก็ยังใส่ไอเท็มเหล่านี้ได้แบบไม่เคอะเขิน โดยเฉพาะปีนี้ที่จะเห็นเกือบ 90% สินค้าทำออกมารูปแบบเดียวกันทั้งชายและหญิง ถ้าชอบประหยัดงบก็ผลัดกันใส่ หรือจะซื้อแบบแพ็คคู่ก็ตามแต่ะสะดวก จะมีแบรนด์อะไรหยิบยืมกันได้บ้างตามไปดู
1. Adidas Original Stan Smith
เพราะออกแบบมาให้ดูไม่หวานหรือแมนจนเกินไป ใส่ง่ายในชีวิตประจำวัน ทำให้ Adidas Stan Smith กลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีอีกครั้ง หลังจากที่ปล่อยเฉดสีเดียวมานานหลายปี เมื่อ Adidas เดินหน้ารุกตลาดเต็มที่นำกลับมา Recollection ใหม่ที่บอกได้เลยว่าต้องแย่งชิงกันจนขาดตลาด ด้วยรูปทรงเรียบง่ายใส่แมตช์กับอะไรก็สวย มาแนวลุคสปอร์ตเท่ๆ ที่ใส่ได้ทั้งชายและหญิง ผนวกกับกระแสสนีกเกอร์ในช่วงนี้ที่ทำให้หลายแบรนด์รุกขึ้นมาปลุกคืนชีพรุ่นฮิตในตำนาน Stan Smith ถ้าจะให้ดีใส่กับยีนบอยๆ หรือแบบสกินนี่พับขา โชว์ให้เห็นขอบสีด้านหลัง บ่งบอกความเป็น Tennis Shoes
2. Levi’s 501
เดนิมอมตะที่ไม่เคยห่างหายไปไหน Levi’s 501 กางเกงยีนส์ผ้าดิบต้นตำรับที่ผลิตขึ้นครั้งแรกเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว ถือเป็นไอคอนของลีวายส์ ตัวหนึ่งซึ่งมีความดั้งเดิมที่สุด และยังคงเป็นยีนส์ดีไซน์อมตะและเป็นที่ต้องการที่สุดไม่ว่าจะยุคสมัยไหน กางเกงยีนส์ลีวายส์ 501อาจเรียกได้ว่าเป็นต้นกำเนิดแม่แบบของกางเกงยีนส์ทั่วโลกก็ได้ สไตล์ที่เป็นอมตะนี้ แค่ใส่แมตช์กับเสื้อยืดเพลนชิ้นเดียวก็เอาอยู่ เริ่มฮิตในหมูผู้หญิง หลังจากที่ยีนส์ทรงบอยเฟรนส์และทรงมัมได้รับความนิยม ฉะนั้นจะใส่แบบบอยๆ ทั้งที Levi’s 501 จึงอยู่ในความคิดแรกของการหยิบกลับมา
3. Dr.Martens
แม้ราคาของ Dr. Martens จะค่อนข้างสูงในระดับคนทั่วไป แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นรองเท้าหนังหุ้มข้อในยุคแรกๆ ที่สร้างเทรนด์ให้กับวัยรุ่นยุคนั้นได้อย่างดี ถ้าพูดถึงรองเท้ารุ่งดังและรุนแรกที่ยังถูกถามหา มันคือ Dr.Martens 1460 รองเท้าสัญชาติอังกฤษที่ก่อตั้งแบรนด์ขึ้นในปี 1960 เป็นรองเท้าบู้ทหุ้มข้อที่พัฒนาจากรองเท้าของหน่วยพยาบาลจากสยามรบสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง และถูกพัฒนาจนกลายเป็นรองเท้าสุดเท่ในยุคล่าสุด และแน่นอนว่าควรจับคู่ Dr.Martens กับยีนส์สกินนี่สีเข้ม จะช่วยเพิ่มความเท่ให้คุณอีกเท่าตัว
4. G-shock Watch
มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่หลงใหลในดีไซน์ของนาฬิกาสัญชาติสปอร์ตอย่าง G-Shock ส่วนใหญ่แล้วการแบ่งเพศสภาพของนาฬิกาข้อมือสำหรับชายและหญิงจะวัดกันที่ขนาดเรือนหน้าปัด แม้ยุคหนึ่งสาวๆ หลายคนเทใจให้ Baby-G แบรนด์ในเครือของ G-shock เพราะมีขนาดกะทัดรัดเล็กกว่าเหมาะกับข้อมือผู้หญิง แต่ทว่าไม่นานก็แปรผันกลับมารัก G-Shock ดังเดิม ด้วยขนาดหน้าปัดที่ไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป ผนวกกับมักออกคอลเล็กชั่นพิเศษลิมิเต็ด อิดิชั่นรุ่นใหม่ๆ ออกมาให้สะสมเสมอ ส่วนโทนสีไม่ต้องพูดถึง เพราะสมัยนี้ผู้ชายก็ใส่นาฬิกาสีสันจัดจ้านได้แล้วเช่นกัน ทำให้ G-shock กลายเป็นความนิยมที่ใส่ได้ในแบบ Unisex
5. Ray Band Aviator Style
ตี๋ใหญ่ยังต้องยอมแพ้ให้กับแว่นกันแดด Rayban ทรง Aviator รุ่นเปิดประวัติศาสตร์หรือที่รู้จักกันในนามแว่นกันแดดนักบิน Rayban Aviator เป็นแว่นตากันแดดรุ่นแรกเริ่มจาก Rayban ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อปกป้องสายตาของนักบินขณะขับเครื่องบิน โดยมีเอกลักษณ์ที่เลนส์แว่นตาขนาดใหญ่ทึบ รวมถึงกรอบแว่นตาโลหะเบาสบายแต่ทนทานสูง สิ่งหนึ่งที่ได้รับความนิยม ผลิตออกมารุ่นแล้วรุ่นเล่า เพราะรูปทรงของมันสามารถใส่เข้าได้กับรูปหน้าหลากหลายแบรนด์ ไม่เหมือนแว่นทรงเหลี่ยมหรือทรงกลม รวมถึงมีขนาดให้เลือกถึง 3 ไซต์เพื่อปรับให้เข้ากับโครงหน้าของผู้สวมใส่อีกด้วย
6. New Era Cap
หมวก NY หรือ หมวก Era Cap NewYork กระแสดังกระแสดีจากการที่เซเลบริตี้คนดังใส่ลงโซเชียล อักษร NY ที่ปักอยู่ด้านหน้าของหมวก ไม่ได้ปักไว้แค่เท่ๆ แต่มีที่มาที่ไปว่า New Era Cap company เป็นบริษัทเดียว ที่ได้รับสิทธิในการผลิตหมวกที่จะใส่ลงในสนาม US Major Leage Baseball แต่เพียงผู้เดียว และยังได้รับสิทธิ ในการผลิตหมวกกีฬาประเภทอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ฮอกกี้ รักบี้ บาสเก็ตบอล ฟุตซอล เป็นต้น นี่คงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ EraCap มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะรุ่น 59FIFTY เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดในปัจจุบัน ด้านหน้าจะมีความแข็ง ปีกหมวกมีลักษณะแบน และไม่สามารถปรับขนาดได้ แต่จะใส่หมวกแก๊ปทั้งทีจะให้ดีต้องแมตช์กับการแต่งตัวกับแนวสปอร์ต เสื้อแจ๊กเก็ตกีฬากับ Sweatpants และสนีกเกอร์เท่ๆ สักคู่
7. FREITAG Bag
ตั้งแต่ Freitag มาตั้ง Pop up Store Shop ในไทย ทำให้เราเห็นทั้งชายและหญิงแวะเวียนเข้าไปเลือกซื้ออย่างไม่ขาดสาย FREITAG เป็นแบรนด์ที่ทำให้โลกรู้ว่าสวิตเซอร์แลนด์ไม่ได้มีดีแต่นาฬิกา FREITAG มาจากคำว่า Friday ทำมาจากผ้าใบคลุมรถบรรทุก ซึ่งมีความแข็งแรง ทนทาน นอกจากจะทำมาจากวัสดุรีไซเคิลแล้ว กระเป๋าแต่ละใบยังให้ลวดลายที่เกิดจากการใช้งาน ทำให้เป็นเอกลักษณ์ตามคอนเซ็ปต์ Every Bag is Difference จึงเป็นกระเป๋าที่มีใบเดียวในโลกเท่านั้น ยิ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าตั้งแต่ต้นทาง แม้จะจำหน่ายในราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ได้รับการตอบรับดี รวมถึงสไตล์ FREITAG ไม่ได้แบ่งแยกคาแรกเตอร์หญิงชายอย่างชัดเจน ทำให้ทุกๆ รุ่นถูกจับจองใช้ได้จากทั้ง 2 เพศ และแต่ละใบก็มีความ Unique ไม่ซ้ำใครในตัวเอง
