เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ผู้คนทั่วทั้งโลกต่างพากันรอคอย สู่การปะทะกันครั้งแรกบนแผ่นฟิล์ม ของอัศวินแห่งรัตติกาลอย่าง Batman และชายหนุ่มผู้มีพลังเหนือมนุษย์ดุจเทพเจ้าอย่าง Superman ในภาพยนตร์ฮีโร่เรื่องล่าสุดจาก DC Batman v Superman : Dawn of Justice (แสงอรุณแห่งยุติธรรม)
นับตั้งแต่ Marvel (มาร์เวล) ไล่ตามซื้อลิขสิทธิ์ฮีโร่ต่างๆกลับคืน เพื่อต่อเติมจักรวาลของมนุษย์ฮีโร่ในภาพยนตร์มาร์เวลให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ทางด้าน DC (ดีซี) ซึ่งเป็น Comics ชื่อดังอีกค่ายหนึ่ง จึงได้วางโปรเจคจักรวาลดีซีเอาไว้เช่นกัน โดยมีภาพยนตร์เรื่อง Man of Steel (2013) ที่บอกเล่าเรื่องราวของ Superman เป็นตัวเปิดจักรวาลดีซีอย่างเป็นทางการ
Batman v Superman : Dawn of Justice บอกเล่าเรื่องราวต่อจาก Man of Steel ภายหลังจากการปะทะกันของ Superman กับนายพลซ็อดอย่างดุเดือด ส่งผลให้บ้านเมืองเสียหาย และผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือทรัพย์สินและชีวิตพนักงานของ บรูซ เวยน์ มหาเศรษฐีแห่งเมืองก็อธแธม ผู้อยู่ภายใต้หน้ากาก Batman โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้บรูซ เวยน์เริ่มจับตามองและคิดว่า Superman ไม่สามารถนำความสงบสุขมาสู่โลกได้อย่างแท้จริง
โดยภายหลัง จึงได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนถึงอันตรายที่เกิดขึ้นจากการปกป้องโลกของ Superman จากรัฐสภา และด้วยการปั่นหัวของนักวิทยาศาสตร์จอมขี้โกงอย่าง เล็กซ์ ลูเธอร์ ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของ Superman นั้นยิ่งดูลบในสายตาของบรูซ เวยน์ และก่อให้เกิดการปะทะกันตามมาในภายหลัง
ด้านเนื้อหา ด้วยเนื้อเรื่องที่มีตัวละครหลักถึง 2 ตัว ผู้กำกับจึงเฉลี่ยบทและแอร์ไทม์ให้เท่าๆกัน ดังนั้นการตัดสลับไปมาระหว่างเมืองเมโทรโพลิสและก็อธแธมซิตี้ออกจะงงงวยอยู่บ้างถ้าไม่ตั้งใจดูให้ดี การกระทำและปมของเรื่องบางอย่างยังดูคลี่คลายง่ายเกินไป แต่การปรากฏตัวของ Wonder Woman นั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ดีและเผลอๆจะเด่นกว่าตัวละครหลักที่ฟาดฟันกันมาตั้งแต่ต้นเรื่องเสียอีก
ด้านนักแสดง เบน แอฟแฟล็ก เอาอยู่กับบทบาทของ Batman โดยทำได้ดีและแตกต่างจากเวอร์ชั่นของ คริสเตียน เบล ส่วน เฮนรี คาวิลล์ ในบทบาทของ Superman ก็ถือว่าทำได้ดีพอตัว Wonder Woman ที่รับบทโดย แกล กาด็อต เต็มไปด้วยเสน่ห์น่าค้นหา เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่แย่งซีนสุดๆ และเจสซี่ ไอเซ็นเบิร์ก กับบทบาทผู้ร้ายอย่าง เล็กซ์ ลูเธอร์ ก็ยียวนกวนอารมณ์ได้เป็นอย่างดี
ในส่วนของดนตรีประกอบ ขอชื่นชม ณ จุดนี้ว่าทำได้ประทับใจ หลายฉากที่เร้าอารมณ์คนดูได้ดีเพราะดนตรีประกอบช่วยเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นฉากเปิดตัว Wonder Woman หรือแม้กระทั่งฉากต่อสู้ก็ล้วนน่าประทับใจ
ทางด้านงานสเปเชียลเอฟเฟค แน่นอนว่าย่อมสเกลใหญ่กว่าเรื่อง Man of Steel มีความสมจริงและน่าสนใจ บางฉากอาจจะไวไปบ้างมองตามไม่ทัน แต่ด้วยภาพรวมของการคุมโทนในแต่ละฉากทำให้ตัวละครไม่จมแม้ส่วนมากจะเป็นฉากในตอนกลางคืนก็ตาม
โดยรวม Batman v Superman : Dawn of Justice ทำออกมาได้ดีพอตัว อาจไม่แฟนตาซี หรือต่อสู้กันทั้งเรื่อง เหมือนฝั่งตระกูลมาร์เวล แต่ก็เป็นการใช้โทนของหนังและการรับส่งอารมณ์ที่เชือดเฉือน พร้อมด้วยดนตรีประกอบที่เร้าใจเข้ามาทดแทน ฉากต่อสู้ก็ถือว่าทำได้ตื่นเต้น น่าลุ้นตามและยังอยู่บนความเป็นจริง ถือเป็นการสานต่อเนื้อเรื่อง เพื่อพร้อมส่งต่อไปยังภาพยนตร์ในจักรวาลดีซีต่อไปได้ไม่เลวทีเดียว
ชาว Favfoward ที่สนใจสามารถชมตัวอย่างภาพยนตร์ได้ที่ลิ้งค์วิดีโอด้านล่างได้เลยครับ
เรื่องโดย : Nomad609
ภาพประกอบ : Youtube
