รวม 12 เพลงฮิต เปลี่ยนโลกจากนักร้องหญิงแห่งยุค
ENTERTAINMENT: “ดนตรี” คือหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่สามารถเชื่อมโยงผู้คนทั่วทั้งโลกที่มีความแตกต่างทางด้านชาติพันธุ์ ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม และภาษา เข้าไว้ด้วยกัน และเนื่องในโอกาสที่เดือนนี้เป็นเดือนแห่งวันสำคัญอย่าง “วันแม่แห่งชาติ” นั้น เราก็ได้รวบรวมศิลปินหญิงผู้สร้างปรากฏการณ์ เพลงฮิต ในระดับโลก มาฝากกัน จะมีใครบ้างนั้นไปชมกันเลยครับ
1.Adele – Hello
หากจะพูดถึงนักร้องหญิงเก่งแห่งยุคนี้ คงต้องมีชื่อของ “Adele” เป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน เพราะด้วยสถิติต่างๆที่เธอได้ครอบครองนั้นยากที่จะมีใครเทียบ เอาเพียงแค่เฉพาะยอดขายแผ่นอัลบั้มระดับ “30 ล้านชุด” ในยุคที่การดาวน์โหลดและสตรีมมิ่งเฟื่องฟูนั้น ก็ไม่มีนักร้องคนไหนในปัจจุบันที่สามารถทำได้เท่าเธออีกแล้ว
สำหรับเพลง “Hello” นั้น เป็นการกลับมาของอเดลหลังจากที่ห่างหายจากอัลบั้มชุดก่อนหน้าไปพักใหญ่ โดยเพลงนี้ก็ได้สร้างสถิติเอาไว้อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น การเป็นเพลงที่มียอดเข้าชมมิวสิควิดีโอสูงที่สุดใน 24 ชม.แรกกว่า 27.7 ล้านครั้ง การเป็นเพลงที่มียอดเข้าชมถึง 1,000 ล้านครั้งที่ใช้เวลาน้อยที่สุดเพียง 88 วัน รวมไปถึงการกวาดรางวัลทางด้านดนตรีจากเวทีต่างๆและรางวัล “เพลงแห่งปี” จากงาน Grammy Awards อีกด้วย
2.Taylor Swift – Shake It Off
เป็นนักร้องหญิงเก่งอีกคนที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยสำหรับ “Taylor Swift” ที่แม้จะเริ่มเส้นทางดนตรีด้วยแนวเพลงประเภทคันทรี่แต่เธอก็สามารถมายืนอยู่ในจุดสูงสุดที่นักร้องหลายๆคนอยากจะเป็นในปัจจุบันได้ เทย์เลอร์ นั้นเริ่มเส้นทางสายดนตรีด้วยการปล่อยอัลบั้มแรกออกมาในปี 2006 ซึ่งเธอได้กลายเป็นศิลปินที่อายุน้อยที่สุดที่มีเพลงขึ้นอันดับหนึ่งของ Billboard Hot Country Songs อีกทั้งยังเคยได้รับรางวัล Album of the Year จากงาน Grammy Awards ถึงสองครั้งด้วยกัน
โดย “Shake It Off” คือเพลงในสตูดิโออัลบั้มชุดล่าสุด 1989 ที่เป็นการเบนเข็มมาสู่ตลาดเพลงเมนสตรีมอย่างป็อปเป็นครั้งแรกของเธอ ซึ่งกระแสตอบรับก็เรียกได้ว่าถล่มทลายจนทำให้เธอกลายเป็นศิลปินคนแรกที่มียอดขายอัลบั้มเปิดตัวเกินล้านติดต่อกันถึงสามชุดและยอดขายแผ่นในระดับท็อปที่เป็นรองแค่เพียงอเดลเท่านั้น (10 ล้าน+)
3.Mariah Carey – We Belong Together
“Mariah Carey” คือหนึ่งในดีว่าแห่งยุค 90 เจ้าของ Whistle register และคีย์ F#2 – Bb7 ที่มีลูกเล่นอันแพรวพราวที่ยากจะเลียนแบบ โดยตัวเธอเองได้ผ่านทั้งยุคที่รุ่งเรืองสุดๆในช่วง 1993 ที่ไม่ว่าจะออกเพลงอะไรมาก็ประสบความสำเร็จไปจนถึงช่วงตกต่ำที่โดนแม้กระทั่งค่ายเพลงยกเลิกสัญญาและต้องเดินหน้าทำเดโม่ส่งไปยังค่ายเพลงต่างๆอีกครั้งมาแล้ว
“We Belong Together” คือการกลับมาของ มารายห์ หลังจากช่วงเวลาตกต่ำของเธอในปี 2003 โดยเพลงนี้สามารถครองอันดับหนึ่งบน Billboard Hot 100 ได้ยาวนานถึง 14 สัปดาห์ยากที่จะมีใครมาโค่นจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งอัลบั้ม The Emancipation of Mimi ที่มีเพลง We Belong Together นี้ยังกลายเป็นอัลบั้มขายดีที่สุดในปีนั้นและคว้า 3 รางวัลจากงาน Grammy Awards ไปครอง
4.Rihanna – We Found Love ft. Calvin Harris
หาก “Adele” คือนักร้องหญิงที่ประสบความสำเร็จทางด้านอัลบั้มมากที่สุด “Rihanna” ก็คงเป็นนักร้องหญิงที่ประสบความสำเร็จกับการออกซิงเกิ้ลและยอดดาวน์โหลดมากที่สุด เพราะเธอมีเพลงอันดับหนึ่งบน Billboard Hot 100 ถึง 14 เพลง โดยถ้าหากนับระยะเวลาการครองอันดับหนึ่งบนชาร์ตเพลงในตอนนี้ (60 สัปดาห์) ก็เป็นรองแค่เพียง มารายห์ แคร์รี่ เท่านั้น (79 สัปดาห์)
และ “We Found Love” ก็ถือเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงของริฮานน่า ด้วยจังหวะสนุกสนานจากการผสมผสานของดนตรีอิเล็คโทรป็อปจาก Calvin Harris จึงทำให้เพลงนี้ได้รับความนิยมทั้งด้านยอดขายและชื่อเสียง โดยสามารถขึ้นอันดับหนึ่ง Billboard Hot 100 อยู่เกือบ 3 เดือนและมียอดขายอยู่ในระดับ 9X Platinum (เกินกว่า 9 ล้านหน่วย) อีกด้วย
5.Britney Spears – Baby One More Time
“Britney Spears” คือเจ้าหญิงแห่งวงการเพลงป็อปผู้สร้างความสำเร็จระดับตำนานในยุค 2000 ด้วยภาพลักษณ์ที่เป็นผู้หญิงเปรี้ยวและมั่นใจฉีกขนบของนักร้องในยุคนั้นที่เน้นโชว์พลังเสียง จึงทำให้ชื่อของเธอเป็นที่สนใจนับตั้งแต่วันที่เปิดตัวเป็นครั้งแรก
“Baby One More Time” คือซิงเกิ้ลเปิดตัวชื่อเดียวกับอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงทั้งทางด้านภาพลักษณ์ ชื่อเสียง และยอดขาย โดยเพลงนี้สามารถเดบิวท์บนอันดับหนึ่ง Billboard Hot 100 รวมไปถึงยอดขายที่เกิน 10 ล้านชุดภายในระยะเวลาเพียงแค่ปีเดียวอีกด้วย
6.Madonna – Like A Virgin
เมื่อมีเจ้าหญิงก็ต้องมี Queen of Pop โดย “Madonna” ถือได้ว่าเป็นศิลปินที่มีผลงานต่อเนื่องมาตั้งแต่ยุค 80 จนถึงปัจจุบัน และผลงานที่แจ้งเกิดเธอสุดๆก็คงหนีไม่พ้นอัลบั้ม Like A Virgin ในปี 1984 ที่มีเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้มเป็นซิงเกิ้ลหลัก
“Like A Virgin” เป็นเพลงป็อปฟังสบายท่ามกลางบรรยากาศสุดเย้ายวน โดยในอัลบั้มนี้เธอได้แรงบันดาลใจในการแต่งกายมาจากนักแสดงชื่อดังในยุคนั้นอย่าง มาริลีน มอนโร ที่ผสมผสานความเซ็กซี่ เย้ายวนแต่ก็ดูขี้เล่นภายในเวลาเดียวกัน โดยลุคที่ทำให้ผู้คนทั่วทั้งโลกต่างจดจำเธอได้คือการใส่ชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ขึ้นโชว์บนเวที MTV ที่สุดแสนจะเซ็กซี่ ซึ่งเพลง Like A Virgin นี้ก็ฮิตเสียจนครองอันดับหนึ่งบน Billboard Hot 100 ยาวนานกว่า 6 สัปดาห์เลยทีเดียว
7.Lady Gaga – Poker Face
“Lady Gaga” คืออีกหนึ่งศิลปินหญิงผู้มีเอกลักษณ์ความเป็นตัวตนที่ชัดเจนคนหนึ่ง ผลงานส่วนใหญ่ของเธอในช่วงแรกจะเป็นการผสมผสานงานด้านดนตรี ศิลปะ และแฟชั่นเข้าไว้ด้วยกัน เลดี้ กาก้า นั้นเรียกได้ว่าเป็นศิลปินที่มีแฟนคลับเป็นเหล่าเพศที่สามค่อนข้างมาก อันเนื่องมาจากเนื้อหางานเพลงของเธอที่มักจะเป็นกระบอกเสียงให้เหล่าเพศที่สามกันอยู่บ่อยๆ
“Poker Face” คือซิงเกิ้ลที่สองจากอัลบั้มแรก “The Fame” ที่ทำยอดขายกว่า 12 ล้านชุดและขึ้นอันดับหนึ่งในชาร์ตเพลงเกือบทั่วทั้งโลก ซึ่ง เลดี้ กาก้า ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเพลงนี้ว่า “Poker Face ได้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นคนรักสองเพศภายในตัวเธอ” นอกจากนี้เหล่าเพศที่สามก็ถือได้ว่าเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญในการทำอัลบั้ม The Fame ของเธออีกด้วย
8.Céline Dion – My Heart Will Go On
“Céline Dion” เป็นศิลปินชาวแคนาดาเชื้อสายฝรั่งเศสที่โด่งดังเป็นอย่างมากในช่วงยุค 90 ร่วมกับ Whitney Houston และ Mariah Carey จนได้รับฉายาว่า Vocal Trinity หรือ 3 ดีว่าเสียงทรงพลัง
“My Heart Will Go On” คืออีกหนึ่งผลงานอันน่าจดจำของ ซีลีน อันเนื่องมาจากเพลงนี้ถูกแต่งขึ้นเพื่อใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่อง Titanic ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล (จนกระทั่ง Avatar จากผู้กำกับคนเดิมมาล้มไป) โดยเพลงนี้สามารถขึ้นไปพีคบนที่หนึ่ง Billboard Hot 100 ชนะรางวัล Oscar สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และกวาด Grammy Awards ไปได้ถึง 4 สาขาในปีนั้น นับเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ทรงพลังและมีผู้คนจดจำได้มากที่สุดเพลงหนึ่งแห่งยุค
9.Whitney Houston – I Will Always Love You
เป็นหนึ่งในตำนาน Vocal Trinity แห่งวงการเพลงเคียงคู่มากับ Céline Dion และ Mariah Carey โดย “Whitney Houston” นั้นถือเป็นศิลปินหญิงที่ครองอันดับที่สุดของโลกไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ศิลปินหญิงที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาล (44 ล้านแผ่น) ศิลปินหญิงที่มียอด Single Physical สูงสุดตลอดกาล (15 ล้านแผ่น) ได้รับลงบันทึก Guinness World Records ว่าเป็นนักร้องหญิงที่ได้รับรางวัลเกี่ยวกับงานเพลงมากที่สุดในโลก (640+ รางวัล)
โดย “I Will Always Love You” นั้นแต่เดิมเพลงนี้เป็นของ “Dolly Parton” ในแบบฉบับคันทรี่ก่อนที่ วิทนี่ย์ จะนำมา Cover เพื่อใช้ประกอบภาพยนตร์ The Bodyguard ที่เธอแสดงเอง ซึ่งผลตอบรับทั้งภาพยนตร์และเพลงนี้ก็โด่งดังไปทั่วทั้งโลกจนทำให้เธอสามารถคว้ารางวัล Grammy Awards ปีนั้นมาครองได้สำเร็จ
10.Beyoncé – Single Ladies (Put a Ring on It)
หากจะพูดถึงนักร้องสาวเสียงทรงพลัง ย่อมมีชื่อของ “Beyoncé Knowles” อยู่ในนั้นอย่างแน่นอน โดย บียอนเซ่ นั้นเป็นหนึ่งในสมาชิกของ Destiny’s Child วงอาร์แอนด์บีหญิงล้วนที่มีผลงานมาแล้วถึง 4 อัลบั้ม ก่อนที่เธอจะแยกตัวออกมาเพื่อทำเพลงในแนวถนัดเป็นของตัวเองในปี 2003 เป็นต้นมา โดยการแยกตัวในครั้งนั้นได้ส่งผลให้เธอกลายเป็นอีกหนึ่งไอคอนของวงการเพลงที่ยากจะหาใครเทียบ
“Single Ladies (Put a Ring on It)” คือซิงเกิ้ลเปิดตัวจากอัลบั้ม I Am… Sasha Fierce ที่มีเพลงฮิตมากมาย โดยเพลงนี้ถือได้ว่าเป็นเพลงที่สอดแทรกเนื้อหาทางด้านสังคมเกี่ยวกับผู้หญิงเอาไว้ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ท่าเต้นที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Gwen Verdon ยังทำให้เพลงนี้กลายเป็นไวรัลยอดฮิตที่คนนำไป Cover กันทั่วทุกมุมโลกเลยทีเดียว
11.Katy Perry – California Gurls ft. Snoop Dogg
เป็นนักร้องที่มีลายเซ็นเป็นเอกลักษณ์ของตนเองทั้งทางด้านดนตรีและการแต่งตัวที่มีสีสันจัดจ้านสไตล์ลูกกวาด โดย “Katy Perry” นั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่ทรงอิทธิพลไม่ว่าจะเป็นการที่เธอมียอดฟอลโลวเวอร์บน Twitter มากที่สุดในโลก หรือแม้กระทั่งการเป็นนักร้องคนเดียวที่สามารถพาเพลงขึ้นอันดับหนึ่ง Billboard Hot 100 ได้ถึง 5 เพลงภายในอัลบั้มเดียวอย่าง Teenage Dream ในปี 2010
“California Gurls” ถือได้ว่าเป็นซิงเกิ้ลเปิดตัวอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง โดยสามารถขึ้นอันดับหนึ่ง Billboard Hot 100 ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยดนตรีป็อปผสมอิเล็กโทรนิกส์และการแร็ปที่สุดเจ๋งของ Snoop Dogg อีกทั้งสีสันจัดจ้านของการแต่งตัวและพร็อบต่างๆภายในตัวเอ็มวี จึงทำให้ภาพลักษณ์ของเคที่ดูเข้าถึงง่ายและสดใสมาจนถึงปัจจุบัน
12.Miley Cyrus – Wrecking Ball
“Miley Cyrus” คือศิลปินสาวที่แจ้งเกิดจาก Hannah Montana ทางช่อง Disney ด้วยภาพลักษณ์สดใสและหน้าตาน่ารัก จึงทำให้เธอเป็นขวัญใจของเด็กๆและชาวอเมริกันตลอดมา ทางด้านงานเพลงเธอได้ออกอัลบั้มแรกในปี 2007 และได้ผลตอบรับที่ค่อนข้างดีจากกลุ่มผู้ฟังเด็กๆและผู้ปกครอง
จวบจนในปี 2013 ที่เธออยากจะสลัดภาพลักษณ์ของมอนทานาที่ติดตัวเธอตลอดเวลาทิ้งไป ไมลีย์ จึงเปลี่ยนลุคใหม่ด้วยการตัดผมสั้นกุด รวมไปถึงแต่งตัวหวือหวาพร้อมกับเลือกทำเพลงแนวฮิปฮอปและบีทที่หนักมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงาน MTV Video Music Awards 2013 ที่เธอได้ขึ้นโชว์กับ โรบิน ธิค และได้ทำท่า Twerk ก้นจนเป็นไวรัลไปทั่วโซเชียล ก็ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนาหูถึงการกระทำไม่เหมาะสมและพฤติกรรมอันเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือของเธอ
และถึงแม้จะถูกวิจารณ์เป็นอย่างหนักสำหรับลุคใหม่ แต่ “Wrecking Ball” จากอัลบั้ม Bangerz ของเธอก็โด่งดังเป็นพลุแตกด้วยการมียอดเข้าชมเอ็มวีภายใน 24 ชั่วโมงสูงถึง 19.3 ล้านวิว และเป็นเพลงแรกของเธอที่ขึ้นอันดับหนึ่งบน Billboard Hot 100 อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก:
เรื่องโดย:Nomad609
ภาพประกอบ: YouTube