MOVIE SHADE: The Void สดุดีแด่นรก

ENTERTAINMENT: ประสบการณ์ช็อคฝังหัวครั้งใหม่กำลังจะเกิดขึ้นที่นี่! โรงพยาบาลที่ฟังดูเป็นสถานที่แห่งความปลอดภัยกลับกลายเป็นประตูสู่ขุมนรก การันตีความสยองด้วยฝีมือสองคู่หูที่อยู่เบื้องหลังรางวัลออสการ์สาขาเมคอัพยอดเยี่ยมประจำปี 2017 จาก Suicide Squad ขอผันตัวมาชิมลางผู้กำกับครั้งแรก

ว่ากันว่าช่วงยุค 80 คือยุคทองของภาพยนตร์สยองขวัญ นั่นก็เพราะว่าภาพยนตร์สยองขวัญดีๆได้ปูทางสร้างความนิยมให้กับภาพยนตร์แนวนี้ไว้ก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเป็น The Exorcist (1973) ที่กำกับโดย William Friedkin , The Omen (1976) ที่กำกับโดย Richard Donner ตามมาด้วยภาพยนตร์เรื่อง Carrie (1976) ที่สร้างจากนิยายของ Stephen King ที่กำกับโดย Brian De Palma มาจนถึงผลงานขึ้นหิ้งอย่าง The Shinning (1980) ของ Stanley Kubrick ซึ่งที่กล่าวมานี้ ยังไม่นับภาพยนตร์สยองขวัญแนว Splatter หรือ Gore ที่นิยมใช้ฉากที่มีเลือดหรือเครื่องในเละๆอยู่ในนั้น อย่างเช่นผลงานของ Wes Craven หรือ George A. Romero เจ้าพ่อหนังซอมบี้

ภาพยนตร์สยองขวัญกลายเป็นภาพยนตร์ประเภทที่ลงทุนต่ำ แต่มีโอกาสได้ผลกำไรสูง บวกกับกระแสตอบรับที่ดี จึงทำให้ช่วงยุคปี 80 มีภาพยนตร์แนวสยองขวัญถือกำเนิดออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเจ้านิ้วเขมือบ อย่าง Freddy Krueger จาก A Nightmare on Elm Street (1984) , หรือตัวละครน่ารักๆอย่าง Gremlins (1984) ไปจนถึงสัตว์ประหลาดกลมๆ กลิ้งงับๆจากเรื่อง Critters (1986) หนังเหล่านี้มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน และสามารถบอกได้ถึงขอบเขตของ Make Up และ Special Effect ในสมัยนั้น ที่เน้นการใช้ยางลาเท็กซ์ และหุ่นเชิด ในการสรรค์สร้างตัวละครต่างๆ ซึ่งอาจจะดูเชยและล้าสมัย ในยุคที่ Computer Graphic ได้รุดหน้าไปไกลอย่างในปัจจุบัน แต่นั่นก็เป็นเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์และสามารถบอกได้ถึงยุคสมัยของกาลเวลา และคงเป็นสิ่งที่ Jeremy Gillespie กับ Steven Kostanski สองผู้กำกับฝ่ายศิลป์นั้นหลงไหล แล้วอยากที่จะถ่ายทอดลงไปในผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา ที่ชื่อว่า The Void

The Void เป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญที่ทริบิ้วต์ให้ภาพยนตร์แนว Splatter / Gore เกรดบี ยุค 80 ที่สามารถควบคุมโทนอารมณ์ของเนื้อเรื่องให้บีบประสาท สร้างความกลัว และสามารถทำให้หายใจได้ไม่ทั่วท้องได้ตลอดทั้งเรื่อง ด้วยเรื่องราวของ Daniel (Aaron Poole) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ได้พาคนเจ็บปริศนา มายังโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ที่ภรรยาที่แยกกันอยู่ของเขานั้นเป็นพยาบาลประจำอยู่ที่นั้นด้วย (Kathleen Monroe) ก่อนที่จะพบว่าพวกเขาโดนล้อมด้วยผู้คนจากลัทธิประหลาดในชุดคลุมสีขาว แล้วเรื่องราวที่ไม่คาดคิดก็ถาโถมเข้ามาในโรงพยาบาลแห่งนั้น

ด้วยส่วนผสมของ The Thing (1982) และ Hellraiser (1987) ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ใช้เทคนิคพิเศษแบบเก่า ภายใต้การคุมเพลงประกอบ แสง และโทนอารมณ์ของภาพได้เป็นอย่างดี บวกกับการผสมผสานเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสามารถสร้างความอึดอัดให้กับคนดูได้ตลอด ซึ่งทำให้ยอมรับได้เลยว่า ถึงแม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะใช้ขอบเขตของเทคนิคการถ่ายทำที่มีไม่มาก เพื่อเลียนแบบงานภาพยนตร์ในยุคก่อน และเพื่อใช้งบอย่างประหยัดแล้ว แต่ถ้าหากว่าภาพยนตร์เรื่อง The Void นี้ถูกนำไปฉายในยุค 80 ก็จะกลายเป็นภาพยนตร์ขึ้นหิ้งที่ทุกคนต้องพูดถึงจนถึงยุคปัจจุบันอย่างแน่นอน

The Void เป็นภาพยนตร์ฟอร์มเล็ก ที่เริ่มต้นจากการระดมทุนจากบุคคลทั่วไปจนได้ทุนสร้าง 82,510 ดอลล่าห์  (2ม802,066.42 บาท) และได้กวาดรายได้จากการเปิดตัว ด้วยโรงฉายเพียง 31 โรงในสัปดาห์แรกถึง 50,000 ดอลล่าห์ จนถึงปัจจุบันสามารถกวาดรายได้ในสหรัฐอเมริกาไปแล้วถึง 151,042 ดอลล่าร์ (อ้างอิงจาก Box Office Mojo วันที่ 1 มิถุนายน 2560) ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากเลยทีเดียว สำหรับภาพยนตร์แนวสยองขวัญยุค 80 เรื่องนี้ และสามารถรับประกันได้เลยว่า ในอนาคตนี้ คงจะมีโอกาศได้เห็น 2 ผู้กำกับ Jeremy Gillespie กับ Steven Kostanski ได้กำกับภาพยนตร์ที่ฟอร์มใหญ่ขึ้นในอนาคตแน่นอน

keyboard_arrow_up