The Golden Era : ย้อนเวลาตามหาแร็พเปอร์ไทยยุค 90s

The Golden Era : ย้อนเวลาตามหาแร็พเปอร์ไทยยุค 90s

WHY : ยุค 90s เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่วงการดนตรีมีความหลากหลายน่าสนใจ โดยเฉพาะวงการดนตรีแร็พ ฮิปฮอป ย้อนกลับไปดูกันว่ามีวงอะไรบ้าง และปัจจุบันพวกเขาทำอะไรกันอยู่ 

เคยมีคำกล่าวที่ว่า ใครฟังดนตรียุคไหน มักจะติดอยู่กับยุคนั้นไปเสมอ คงจะจริง โดยเฉพาะสายเพลงยุค 90s ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าใด ก็ยังคงคิดถึงความทรงจำเก่าๆ ในครั้งนั้นอยู่เสมอ

อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้ว วงการดนตรีในยุค 90s ทั้งจากต่างประเทศ หรือแม้แต่ในบ้านเราเองล้วนเต็มไปด้วยสีสันใหม่ๆ มากมาย หนึ่งในนั้นคือดนตรีแร็พ-ฮิปฮอป ที่ในเวลานั้นยังถือเป็นแนวดนตรีที่ใหม่ในบ้านเรา ทั้งศิลปิน และผู้ฟังที่ยังคงเป็นเพียงแค่กลุ่มเล็กๆ เท่านั้น แต่ทุกวันนี้ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อดนตรีแร็พ-ฮิปฮอปกลายเป็นดนตรีกระแสหลัก ส่งผลให้ศิลปินหน้าใหม่ในแนวทางนี้มีโอกาสได้ปล่อยผลงานดีๆ ขึ้นมาประดับวงการมากมาย

อย่างไรก็ตาม จั่วหัวไว้ถึงดนตรีแร็พ-ฮิปฮอปในยุค 90s ขึ้นมา เชื่อว่าหลายคนยังคงคิดถึงศิลปินในยุคนั้นอยู่เสมอ วันเวลาผ่านไปหลายคนต่างมีเส้นทางเป็นของตัวเอง บางคนยังคงมุ่งมั่นอยู่ในวงการดนตรีอันเป็นที่รัก บ้างผันตัวไปเป็นผู้บริหารธุรกิจระดับหมื่นล้าน ต่างคนต่างมีทางเดินต่างกันไป

อย่างไรก็ตาม ทุกๆ คนถือเป็นคนสำคัญในการขับเคลื่อนประวัติศาสตร์วงการดนตรีบ้านเราให้เป็นที่ระลึกถึงอยู่จนทุกวันนี้

 

Technical Knock Out / T.K.O

หากบอกว่า Technical Knock Out หรือ T.K.O คือผู้บุกเบิกดนตรีแร๊พ-ฮิปฮอปในบ้านเรายุคเริ่มแรกคงไม่มีใครกล้าปฏิเสธ เมื่อย้อนกลับไปเมื่อปี 1993 หรือเมื่อ 24 ปีที่แล้วในขณะที่นักฟังเพลงบ้านเราได้เสพกันแต่ผลงานเพลงป็อปทั่วๆ ไปจากสองค่ายเพลงใหญ่ พวกเขาได้ทำสิ่งที่ต่างออกไปจากกระแสหลักด้วยการปล่อยอัลบั้มแรก Original Thai Rap เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของนักฟังเพลง

สมาชิก T.K.O ประกอบด้วย “ชัย” แร็พเปอร์ (ไทย) “Velma J Lelean” แร็พเปอร์ (อังกฤษ) Johann Helf หรือ D.J. sense และ Alex Soto มือ Percussion ชาวญี่ปุ่น โดยมี “สุกี้” กมล สุโกศล แคลปป์ เป็นโปรดิวเซอร์ สังกัดคีตาร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์

กมล สุโกศล แคลปป์

เป็นที่น่าเสียดายสำหรับแฟนเพลงแร็พ-ฮิปฮอป ในบ้านเราไม่น้อยเพราะหลังจากปล่อยอัลบั้ม Original Thai Rap ออกมาแล้ว พวกเขาก็ไม่ได้สร้างงานต่อเนื่องหลังจากนั้นอีกเลย สมาชิกภายในวงก็ล้วนแต่แยกย้ายกันไปตามเส้นทางของตัวเอง ส่วนที่ยังอยู่ในวงการดนตรีจนถึงปัจจุบันนั้นคือ สุกี้ กมล สุโกศล แคลปป์ ที่หลังจากสร้าง Bakery music ให้กลายเป็นค่ายเพลงอินดี้ระดับตำนานแก่วงการเพลงบ้านเราแล้ว ล่าสุดเขากลับสู่วงการดนตรีอีกครั้งด้วยการอยู่เบื้องหลังวง Monkey disco boy และยังเป็นผู้จัดเทศกาลดนตรีสุดแนวอย่าง Gypsy Carnival อีกด้วย

 

AA CREW

หากพูดถึงซีนดนตรีแร็พ-ฮิปฮอปในบ้านเราแล้ว อีกหนึ่งกลุ่มที่สร้างทางเดินไว้ให้ศิลปินรุ่นหลังได้เดินตามกันได้แก่กลุ่ม AA CREW ที่จัดเป็นซุปเปอร์กรุ๊ปในแนวฮิปฮอปอย่างแท้จริง สมาชิกประกอบด้วย ขัน, เดย์, เวย์, จูเนียร์ (ก่อนมาเป็นไทเทเนียม) โจอี้ บอย (ก่อนออกมาสร้างงานเดี่ยวและค่ายเพลงก้านคอคลับ) ทั้งถือเป็นกลุ่มฮิปฮอปอันเดอร์กราวกลุ่มแรกๆ ในเมืองไทยที่ยังคงเป็นตำนานให้กับเมืองไทยจนถึงทุกวันนี้

ปัจจุบันสมาชิก AA CREW ได้แตกกลุ่มกันไปทำงานตามแนวทางของคนตัว แต่ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในวงการดนตรีแทบทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นไทเทเนียม หรือแม้แต่โจอี้ บอย เองก็ตาม

 

อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต (โจอี้ บอย)

เป็นผู้ระเบิดความนิยมของดนตรีแร็พ-ฮิปฮอปล้านตลับครั้งแรกในเมืองไทยด้วยอัลบั้ม Fun Fun Fun เมื่อปี 1997 กับค่ายเพลง Bakery music และนับแต่นั้นมาดนตรีแนวนี้ก็กลายเป็นกระแสหลักมาจนถึงทุกวันนี้

ก่อนหน้านั้น 2 ปี โจอี้ บอย ออกอัลบั้มแรกในปี 1995 โดยมีซิงเกิ้ลดังอย่าง เอ โพด และ รักเธอไม่มีหมด ที่กลายเป็นเพลงฮิตมาจนถึงทุกวันนี้

หลังจากนั้น โจอี้ บอย ก็ได้ปล่อยผลงานระดับมาสเตอร์พีซกับ Bakery Music อีก 2 อัลบั้มได้แก่ Bangkok (พ.ศ.1998) และ Tourist ตัวฤทธิ์ (พ.ศ.1999) ก่อนไปอยู่กับ Gmm Grammy เพื่อก่อตั้งค่ายเพลงก้านคอคลับขึ้นมาและได้สร้างผลงานแร็พ-ฮิปฮอปไปจนถึงเร้กเก้ มัฟฟิน ชั้นเยี่ยมจากศิลปินชื่อดังอีกหลายรายไม่ว่าจะเป็น มาฟ, ส้ม อมรา, สิงเหนือ เสือใต้ เป็นต้น จนในที่สุดชื่อของ อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต จึงได้กลายเป็น Hiphop Influencer ของเมืองไทยอย่างแท้จริง

นอกจากนี้โจอี้ บอย ยังมีผลงานของตัวเองกับ Gmm Grammy ประกอบด้วย E.P. LA/BKK (พ.ศ. 2003), SORRY I’M HAPPY (พ.ศ. 2004) และ E.P. ร้ายก็รัก (2006)

JOEY BOY

ปัจจุบันโจอี้ บอย ยังคงมีผลงานในวงการบันเทิง และดนตรีอยู่อย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังเป็นนักกีฬาพารามอเตอร์ และนักกีฬายิงธนูระดับประเทศอีกด้วย

ล่าสุดเราได้เห็นโจอี้ บอย ในฐานะ โค้ชในรายการประกวดร้องเพลงชื่อดังในเมืองไทยอย่าง เดอะ วอยซ์ ไทยแลนด์ ซึ่งเจ้าตัวก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีอีกด้วย

 

ขันเงิน เนื้อนวล

อีกหนึ่งคนที่มีอิทธิพลต่อวงการดนตรีแร็พ-ฮิปฮอป เมืองไทยอย่างแท้จริงสำหรับ ขันเงิน เนื้อนวล ที่กอนหน้าจะเป็นที่รู้จักในวงกว้างนั้น ย้อนกลับไปในปี 1995 เจ้าตัวได้เคยออกอัลบั้มกับ Gmm Grammy ไว้หนึ่งอัลบั้มได้แก่ ขัน-ที ที่มีซิงเกิ้ลดังอย่าง “ห่างแสนไกล” ให้เป็นที่รู้จักกับแฟนเพลง

KHAN-T

หลังจากนั้น ขันเงิน ได้ไปใช้ชีวิตที่นิวยอร์ค เมกะของดนตรีฮิปฮอปและสร้างงานร่วมกับ เดย์ ,เวย์ และจูเนียร์ในนามไทยเทเนียมออกมาซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจากแฟนเพลงชาวไทย ก่อนจะกลับมาร่วมงานกับค่ายเพลงสนามหลวงมิวสิค ในเครือจีเอ็ม เอ็ม แกรมมี่ ปล่อยผลงานชุด Thailand’s Most Wanted จนกลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ในแนวทางแร็พ-ฮิปฮอปไปในที่สุด

ปัจจุบัน ขัน กำลังทำค่ายเพลง Thaitanium Entertainment ทำแบรนด์เสื้อผ้าสไตล์ฮิปฮอป 9Face ไปจนถึงธุรกิจสายการบิน Asian Air อีกด้วย


DA KILLERZ

เข้าสู่ปลายยุค 90s ก่อนเข้าสู่สหัสวรรษใหม่ ย้อนกลับไปในเวลานั้นวง DA KILLERZ นับเป็นอีกหนึ่งวงดนตรีที่สร้างสีสันให้กับวงการฮิปฮอปบ้านเราได้เป็นอย่างดี ด้วยลีลาการแร็พของสี่สมาชิก ไซม่อน, เอเอ, เชาเชา และ โทนี่ ที่ปล่อยอัลบั้มแรกชื่อเดียวกับวงออกมาเมื่อปี 1999 โดยมีแทร็คเด่นอย่าง “ไสยศาสตร์” เป็นตัวชูโรง

นอกจากนี้ซิงเกิ้ลเพราะๆ อย่าง “เท่าที่มี” ที่ติดกลิ่นอายดนตรีแบ R&B มาเต็มๆ ก็เป็นอีกหนึ่งเพลงที่เชื่อว่าหากได้ลองฟังกันแล้วน่าจะติดใจกันได้ไม่ยาก

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสมาชิกทั้ง 4 ของ Da Killerz ต่างแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง โดยเหลือเพียงแค่ เชา เชา และโทนี่ เท่านี้ที่ยังคงมีผลงานในวงการดนตรีและบันเทิง โดยเชา เชา เป็นดีเจคลื่นวิทยุชื่อดัง และพิธีกรฝีปากกล้าทางหน้าจอทีวี ส่วนโทนี่ เป็นดีเจอยู่ในกลุ่ม BANGKOK INVADERS นั่นเอง

 

NEW SCHOOL

อีกหนึ่งวงดนตรีแร็พ-ฮิปฮอป ในยุค 90s อีกวงหนึ่งที่คอเพลงไม่ควรพลาดได้แก่ NEW SCHOOL ของสามหนุ่ม คริส เรียล และ หม้อ (ก่อนที่แชมป์จะเข้ามาแทนเรียลในอัลบั้มที่ 2) ที่ปล่อยอัลบั้มแรกออกมาเมื่อปี 1997 โดยมีซิงเกิ้ลดังอย่าง “ฟ้าจ๋าฟ้า” เป็นที่รู้จักของแฟนเพลง

NEW SCHOOL

อย่างไรก็ตามในปี 2012 ก็ได้เกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นกับทางวงเมื่อหนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของทางวงได้แก่ เรียล ได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตอย่างน่าเศร้า เหลือทิ้งไวเพียงความทรงจำที่แสนสวยงามกับวงการเพลงฮิปฮอปไทยตลอดไป

keyboard_arrow_up