WHY: เหนือความคาดหมายกับการค้นพบพลังพิเศษที่ไม่ได้มีเพียงแค่การแปลงร่างและต่อกรกับเหล่าร้ายเท่านั้น แต่ทว่า Power Rangers เวอร์ชั่นนี้ กลับทุ่มน้ำหนักไปที่การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครในกลุ่มวัยรุ่น จะเป็นอย่างไรต้องติดตามครับ
Power Rangers กำหนดฉาย 23 มีนาคม 2560
Uh Oh We’re in Trouble , Something come along and it bursts our bubble , Yeah yeah !
คือท่อนเปิดตัวของเพลง Trouble ของวงดูโอสาวสองคนที่ใช้ชื่อว่า Shampoo และเพลงนี้ก็เป็นเพลงที่ถูกใช้เป็นเพลงประกอบหลักของภาพยนตร์เรื่อง Mighty Morphin Power Ranger : The Movie ที่ออกฉายเมื่อปี 1995 และได้กวาดรายได้จาก Box Office ในปีนั้นไปถึง 66 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งตัวภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการนำเอาซีรี่ย์ Power Rangers ที่ออกฉายทางทีวีตั้งแต่ปี 1993 มาทำเป็นภาพยนตร์ แล้วก็ทำให้ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี แต่อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ภาพยนตร์ขบวนการแปลงร่างแบบนี้กลายเป็นปรากฏการณ์ยอดฮิตไปได้ เรามาลองดูประวัติความเป็นมาสั้นๆของ Power Rangers กันหน่อยดีกว่า
Power Rangers เป็นหนึ่งในขบวนการแปลงร่าง ซึ่งมีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น โดยในภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่า “Super Sentai” หรือ “สุดยอดขบวนการ” โดยเป็นไอเดียของ Shotaro Ishinomori (ผู้ออกแบบ ไอ้มดแดง) ที่มีความคิดที่จะทำซีรี่ย์ทางโทรทัศน์ที่ใช้กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาว ที่มีพลังแปลงกายพิเศษ มาต่อสู้กับเหล่าอธรรมในรูปแบบต่างๆ โดยเรียกว่า Super Sentai ซึ่งมีหลายขบวนการ และออกอากาศต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานมาก เริ่มต้งแต่ปี 1975 จนถึงยุคปัจจุบัน ดังนั้น ภาพยนตร์ทางโทรศัศน์จำพวกขบวนการ 5 สีแล้ว จึงมักไม่ใช่สิ่งแปลกสำหรับเด็กๆผู้ชมชาวเอเซียซักเท่าไหร่ เพราะว่าเห็นจนชิน แต่สำหรับเด็กๆผู้ชมตะวันตกแล้ว Power Rangers คือสุดยอดขบวนการ 5 สีแรกของพวกเค้า
ขบวนการ Power Rangers หรือชื่อเต็มๆคือ Mighty Morphin Power Rangers เป็นขบวนการ 5 สีอย่างเป็นทางการขบวนการแรกของโลกตะวันตก ซึ่งบริษัท Saban Entertainment ได้ซื้อลิขสิทธิ์มาจากบริษัท Toei Company และเปลี่ยนมาใช้นักแสดงฝรั่ง เพื่อให้คนดูรู้สึกคุ้นเคยมากขึ้น แล้วนั่นก็ถือว่าเป็นปรากฏการณ์แรกสำหรับผู้ชมวัยเด็กที่ไม่เคยดู อุลตร้าแมน , ไอ้มดแดง หรือขบวนการแปลงร่างใดๆมาก่อน ที่มาพร้อมกับเกมส์และของเล่นเต็มรูปแบบขนาดนี้ และนั่นจึงทำให้มูลค่าของแฟรนไชส์ Power Rangers ที่ออกอากาศตั้งแต่ปี 1993 ถึงปี 2001 นั้นทำเงินได้มากถึง 6 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ
แม้ว่าซีรี่ย์ทางโทรทัศน์ของ Power Rangers จะออกอากาศต่อเนื่องมายาวนานตั้งแต่ปี 1993 จนถึงปัจจุบัน (ชื่อซีรี่ย์ Power Ranger ล่าสุดคือ Power Ranger Ninja Steel-2017) แต่ก็อาจไม่ใช่สุดยอดซีรี่ย์ขบวนการ 5 สีทางทีวีที่เป็นอันดับหนึ่งของผู้ชมที่เป็นเด็กซักเท่าไหร่ เนื่องจากว่าทุกวันนี้ได้มีรายการทีวีใหม่ๆ และมีภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ใหม่ๆเกิดขึ้นมามากมาย แต่อย่างไรก็ตาม ในที่สุดก็ได้มีการนำ Power Rangers มาปัดฝุ่น แล้วนำมาทำใหม่เป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ขึ้น ด้วยการจับมือกันของ Saban Capital Group และ Liongate ที่ได้วางแผนเกี่ยวกับโปรเจกต์ภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งแต่ปี 2014 ในที่สุดวันนี้ เราก็จะได้ชมกัน
Power Rangers (2017) เป็นภาพยนตร์ขบวนการ 5 สีที่มีเค้าโครงเรื่องไม่ต่างจากเรื่องก่อนๆที่เราคุ้นเคยซักเท่าไหร่ โดยเริ่มต้นเนื้อเรื่องด้วยการแนะนำตัวละครวัยรุ่นทั้ง 5 คน และการค้นพบพลังพิเศษของพวกเขา ซึ่งตามหลักแล้ว ก็คงต่อด้วยการแปลงร่างและต่อกรกับเหล่าร้าย แต่ทว่า Power Rangers เวอร์ชั่นนี้ กลับทุ่มน้ำหนักไปที่การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครในกลุ่มวัยรุ่น และการค่อยๆเรียนรู้พลังในการแปลงร่าง ซึ่งถือว่าค่อนข้างเหนือความคาดหมายเลยทีเดียว ส่วนฉากแอ็คชั่นใหญ่ทิ้งท้ายนั้น ก็ได้ถูกนำมาใส่ไว้ในช่วงราวๆ 20 นาทีสุดท้ายของเรื่อง ซึ่งก็ถือว่าทำได้ไม่เลวนัก รวมไปถึงการดีไซน์หุ่นยนต์ Megazord ขึ้นมาใหม่ ที่ถือว่าได้ฉีกรูปแบบของหุ่นยนตร์ประกอบร่างเดิมๆ (ที่ควรจะประกอบร่างได้เมื่อเป็นของเล่น) ไปมากเลยทีเดียว อย่างไรก็ดี อย่างที่ได้กล่าวไว้ว่า Power Rangers (2017) นี้ ได้ทุ่มน้ำหนักไปที่มิตรภาพระหว่างตัวละคร จึงทำให้ฝ่ายอธรรมนั้นมีบทบาทน้อย และดูไม่น่าเกรงขามนัก บวกกับความหวังที่จะต่อยอดแฟรนไชส์นี้ให้กับผู้ชมที่เป็นเด็ก โทนของภาพยนตร์จึงออกไปทาง เอื้อให้เด็กดู เสียมากกว่า
Power Ranger ไม่ได้ทุ่มน้ำหนักไปที่ Red Ranger (Dacre Montgomery) เพียงอย่างเดียว แต่กลับให้บทบาทความโดดเด่นไปที่ Blue Ranger (RJ Cyler) ที่คราวนี้เป็นคนผิวสี จากที่ปกติแล้วคนผิวสีจะเป็น Black Ranger ซึ่งคราวนี้กลับเป็นนักแสดงชาวจีนที่ชื่อ Ludi Lin นักแสดงวัยรุ่นชาวจีนที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตอนนี้ และได้รับบทบาทค่อนข้างมากในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมี Becky G หรือ Rebecca Marie Gomez ที่เป็นนักร้องวัยรุ่นยอดนิยม มารับบทเป็น Yellow Ranger ส่วน Pink Ranger คือ Naomi Scott ส่วน Zordon ก็เป็น Bryan Cranston ที่เคยพากย์เสียงให้กับตัวละครในซีรี่ย์ Power Rangers ในทีวีตั้งแต่ปี 1993 มารับบทนี้
ความลงตัวของการกระจายบทบาทของตัวละคร คือเสน่ห์ใหม่ของภาพยนตร์เรื่องนี้ แม้ว่าจะใช้เวลาปูเรื่องที่ยาวนาน และอาจไม่ได้ใช้ CG หรือฉากต่อสู้ที่อลังการเท่าไหร่นัก แต่ Power Rangers ก็ถือว่าพยายามฉีกขนบภาพยนตร์ขบวนการแปลงร่างเดิมๆที่เราคุ้นเคย ให้มีมิติมากขึ้น และถือว่าเป็นตัวเลือกของภาพยนตร์ Super Hero และภาพยนตร์หุ่นยนตร์ต่อสู้ที่ไม่ใช่เรื่องใหม่แล้ว ในยุคปัจจุบัน