เมื่อดู Lion จบลง กลิ่นอายหนังยังชวนให้ใคร่ครวญและตั้งคำถามกับตัวเอง… “ความสุขของแต่ละคนคืออะไร ?”
Lion สะท้อนให้เราเห็นว่า บางครั้งคนเราก็ใช้เวลาทั้งชีวิตเสาะหาและเติมเต็มความสุข ไม่ว่าจะเป็นความสุขที่เติมแต่งจากภายนอก หรือว่าความสุขที่แต่งเติมจากภายใน จนบางครั้งเราอาจจะลืมคิดไปก็ได้ว่า ความสุขที่แท้จริงนั้น อาจซ่อนตัวอยู่ภายในใจของเรามาตลอดเวลาก็เป็นได้
ปี 2016 กำลังจะผ่านพ้นไป และอาจเป็นปีที่พรากความสุขหลายๆ อย่างไปจากเรา เป็นปีที่เต็มไปด้วยปัญหา เต็มไปด้วยอุปสรรค เต็มไปด้วยความเจ็บปวด เป็นปีที่ทำให้เราล้ม ทำให้เราสูญเสีย และทำให้เราต้องโหยหาความสุขมากขึ้น
มนุษย์เราอยู่กับความไม่เคยพอ และเต็มไปด้วยความกลัวที่จะยอมรับความจริง เราหาความสุข ก็เพื่อนำพาเราหนีไปจากความจริงที่เราไม่ชอบ เราพยายามหาความสุข เพื่อมาเพิ่มความสุขที่เราเองก็มีอยู่แล้ว แต่เรากลับรู้สึกไม่เคยพอ ทำให้เราเสพติดความสุข และทำให้เรามองข้ามความสุขแท้จริงที่ใจเราต้องการ พอเราหาความสุขใหม่ๆ มาเติมเข้าไปในชีวิตของเรามากขึ้น เมื่อมาถึงวันหนึ่ง เราก็จะลืม ว่าความสุขที่แท้จริงที่ใจเราอยากได้นั้นคืออะไร
Saroo Brierley (Dev Patel) เป็นคนที่มีความสุข เขาถูกอุปการะเลี้ยงดูจากครอบครัวที่มั่งมี ที่เปลี่ยนชีวิตเค้าจากที่เคยลำบาก กลายมาเป็นชีวิตที่เพรียบพร้อมไปด้วยทุกสิ่ง แต่แล้ววันหนึ่ง ท่ามกลางความสมบรูณ์แบบไปเสียทุกอย่าง ความทรงจำบางอย่างของเขาได้หวนกลับคืนมา และทำให้ภาพความทรงจำของเขาเมื่อตอน 5 ขวบได้กลับมาปรากฏชัดขึ้นอีกครั้ง นั่นเป็นช่วงเวลาที่เขาไม่มีอะไรเลย แต่กลับร่ำรวยไปด้วยความสุขอย่างล้นเหลือ
Lion เป็นภาพยนตร์ออสเตรเลียที่ดัดแปลงบทภาพยนตร์มาจากหนังสือชื่อ A Long Way Home ที่เขียนมาจากเรื่องจริง โดย Saroo Brierley (ตัวจริง) เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการพลัดพรากจากครอบครัวในเมืองเล็กๆ ของประเทศอินเดีย เมื่อเขามีอายุเพียง 5 ขวบ แล้วต้องใช้ชีวิตคนเดียวในเมืองกัลกัตตา ก่อนที่จะถูกพาไปยังสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า แล้วถูกอุปการะด้วย 2 สามีภรรยาชาวออสเตรเลียในเวลาต่อมา
เมื่อ Saroo อายุ 25 ปี เขาเริ่มค้นหาบ้านเกิดของเขาด้วยโปรแกรม Google Earth จากเส้นทางรางรถไฟที่เค้าเคยนั่งหลงมา เพื่อคำนวณระยะทางจากปลายสถานีว่าต้นทางที่เป็นบ้านเกิดของเขานั้นอยู่ที่ใด ด้วยความทรงจำที่เลือนลาง แต่เขากลับจำได้แม่นว่า ในช่วงเวลานั้นเขามีความสุขมากแค่ไหน นั่นจึงทำให้เขาเฝ้าตามหาความสุขของช่วงเวลานั้น
จากผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของ Garth Davis ที่ก่อนหน้านี้เป็นผู้กำกับโฆษณา และเคยได้รับรางวัลใหญ่ๆ อย่าง Golden Lion ที่เมืองคานส์มาแล้ว สามารถกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ลื่นไหล สวยงาม และน่าติดตามมากเลยทีเดียว แม้ว่าบางครั้งตัวบทภาพยนตร์ อาจจะมีส่วนที่แต่งแต้มจากเรื่องจริงไปบ้าง แต่ในส่วนอื่นๆ ในภาพยนตร์ที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็นฉากของประเทศอินเดีย และภาพของความสัมพันธ์ของ 2 พี่น้อง ถูกถ่ายทอดออกมาได้ดีมากๆ ซึ่งก็ต้องยกเครดิตเพิ่มเติมให้กับนักแสดงเด็กเชื้อสายอินเดีย 2 คนคือ Sunny Pawar ที่แสดงเป็น Saroo ในวัยเด็ก และ Abhishek Bharate ที่แสดงเป็น Guddu พี่ชายของ Saroo ที่ทำให้ภาพความรักของทั้ง 2 คนนั้นดูยิ่งใหญ่ บวกกับนักแสดงคนอื่นๆ ที่มีชื่อเสียงอย่าง Dev Patel , Rooney Mara (Lucy) , Nichole Kidman (Sue Brierley) และ David Wenham (John Brierley) ที่ทำให้หลายอย่างในภาพยนตร์เรื่องนี้ลงตัวมากขึ้น และด้วยความที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่ทำมาจากเรื่องจริง จึงทำให้คนดูมีส่วนร่วมกับเนื้อเรื่องและการแสดงได้ไม่ยาก
A Long Way Home เป็นหนังสือที่ Saroo Brierley ตัวจริง เขียนเมื่อปี 2012 หลังจากที่เขาได้พบกับความสุขที่แท้จริงของเขา 2 ปี อย่างไรก็ดี เขาเองก็เข้าใจความสุขที่เขาได้รับในปัจจุบันด้วยเช่นกัน ด้วยความแตกต่างของความสุขทั้ง 2 อย่าง เขานั้นก็รู้ซึ้งถึงคุณค่าว่าความทรงจำเหล่านั้นมีสำคัญต่อตัวเขามากแค่ไหน และไม่ว่าจะยังไง เขาก็จะไม่มีวันลืมตัวตนของเขา และไม่ว่านานเท่าไหร่ก็ไม่อะไรที่จะมาแทนที่ความสุขอันทรงคุณค่าเหล่านี้ได้
