Trolls

7 เหตุผล ที่ควรเก็บเกี่ยวความสุขจาก Trolls

Trolls
Trolls

Trolls ผลงานจาก DreamWorks Animation โดยทีมผู้สร้าง Shrek เป็นเรื่องราวสนุกสุดฮากวนโอ๊ยเกี่ยวกับการค้นหาความสุขและการดิ้นรนเพื่อให้ได้ความสุขนั้นมา

Trolls จะนำทุกคนไปสู่โลกมหัศจรรย์สีสันสดใส อันเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่า โทรลล์ ผู้มองโลกในแง่ดีเกินไป และเอาแต่ร้องรำทำเพลงกันทั้งวันทั้งคืน กับเหล่า เบอร์เกน ผู้มองโลกในแง่ร้ายจนน่าขัน และจะมีความสุขได้ก็ต่อเมื่อมีตัวโทรลล์อยู่ในท้องเท่านั้น

เรื่องวุ่นๆ เกิดขึ้น หลังจากเหล่าเบอร์เกนจอมป่วนบุกโจมตีหมู่บ้านโทรลล์และจับตัวเหล่าโทรลล์ไป ป๊อปปี (พากย์เสียงโดย  แอนนา เคนดริค) โทรลล์ผู้มีความสุขที่สุดในโลก และ แบรนช์ (พากย์เสียงโดย จัสติน ทิมเบอร์เลค) โทรลล์จอมหวาดระแวงที่อารมณ์เสียตลอดเวลา จึงร่วมกันออกเดินทางไปช่วยเหลือเพื่อนๆ ภารกิจครั้งนี้เต็มไปด้วยการผจญภัยและเรื่องวุ่นๆ ขณะที่คู่หูต่างขั้วคู่นี้ต้องพยายามอดทนกับอีกฝ่ายเพื่อทำงานให้สำเร็จ

ดูจากโครงเรื่อง ก็ไม่มีอะไรที่น่าซับซ้อน เข้าถึงได้ง่ายทุกเพศทุกวัย เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูยิ่ง (คลายเครียด) ดี ทว่า หนังเรื่องนี้ได้แฝงความสุขไว้ในองค์ประกอบหลายอย่าง ให้เราได้เก็บเกี่ยวกลับบ้าน และนี่คือ 7 เหตุผล ที่ควรเก็บเกี่ยวความสุขจาก Trolls ที่เรานำมาฝากในวันนี้ครับ

TrollsReason I

Trolls นำเสนอความสนุกสนานให้เด็กๆ ผ่านโลกแอนิเมชั่น ด้วยตัวละคร บทเพลง อารมณ์ขัน การผจญภัย และสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ ในขณะที่ผู้ใหญ่จะได้ประทับใจกับแนวคิดเรื่อง การค้นหาความสุข ซึ่งจะยังคงตกตะกอนอยู่ในใจไปอีกนานหลังจากหนังขึ้นเครดิตในตอนจบ

TrollsReason II

อันที่จริงโลกของโทรลล์ที่เต็มไปด้วยการร้องเล่นเต้นระบำและการสวมกอดกันนั้นสะท้อนถึง ความสุขที่อบอวลอยู่ในทุกๆ เฟรมของหนังเรื่องนี้ หนังเรื่องนี้จึงเป็นการสำรวจว่า เราปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างไรและที่สำคัญยิ่งกว่าคือ เราปฏิบัติต่อตนเองอย่างไร หนังเรื่องนี้จะนำเสนอสาระอันน่าประทับใจว่า ความสุขนั้นมาจากภายใน และความสุขก็เป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่ส่งต่อถึงกันได้

TrollsReason III

แนวคิดจากข้อสอง มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับโลกปัจจุบัน ซึ่งมักเปิดทางให้แนวคิดในแง่ลบ ความหวาดกลัว และความไม่สมดุล เข้ามาแทนที่ความสุข เรื่องราวในหนังเรื่องนี้จะนำเสนอว่า เราทุกคนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ด้วยการคิดและการกระทำเชิงบวก โดยเน้นความสำคัญของการทำสิ่งที่ถูกต้อง แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายอันน่ากลัวที่กำลังเผชิญอยู่ก็ตาม

TrollsReason IV

หนังเรื่องนี้จะพาทุกคนย้อนไปหาความหมายและความสุขในยุคทศวรรษ 1970 เวลาที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของเสรีภาพ ดนตรีดิสโก้ ป๊อป และแดนซ์เปิดอยู่ทุกหนทุกแห่ง และทุกคนก็เล่นโรลเลอร์สเกตกันทั้งวัน โทรลล์จะสะท้อนให้เห็นถึง ความสุขและรักสงบของคนในสังคม

TrollsReason V

หนังเรื่องนี้หยิบยก นาฬิกาชนิดพิเศษที่เตือนให้พวกโทรลล์กอดกันทุกชั่วโมง เป็นเชิงสัญลักษณ์ด้วย ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ เมื่อนาฬิกาบานออก ก็จะถึง “เวลากอด” มันจะแสดงให้เห็นถึง ความสุขส่วนหนึ่งมาจากการได้เชื่อมความสัมพันธ์และการได้สัมผัสกายกับคนอื่น

TrollsReason VI

หนังเรื่องนี้ได้นำเสนอโลกอันเป็นเอกลักษณ์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวัสดุเส้นใย กำมะหยี่ ขนสัตว์ ส่องประกายวิบวับและสีสันสดใส ทุกคนจะได้สัมผัสโลกจินตนาการอันมีพื้นผิวสัมผัส นุ่มนวลอย่างที่ไม่เคยพบในหนังเรื่องไหนมาก่อน โดยทีมผู้สร้างเรียกประสบการณ์นี้ว่า “การโอบล้อมด้วยขนปุกปุย” (แหม่ ฟังดูน่ารักจริง) นอกจากนี้ทรงผมสีลูกกวาดที่ชี้ตั้งหนีแรงโน้มถ่วงนี้เป็นเอกลักษณ์พิเศษของชาวโทรลล์ ก็เป็นเชิงสัญลักษณ์ เปรียบได้กับผู้ที่ไม่ไหลไปตามกระแสด้านมืดที่นำไปสู่ความหม่นหมอง

TrollsReason VII

และเหตุผลข้อสุดท้ายคือเรื่องของ ดนตรี ซึ่งเป็นส่วนสำคัญหลักต่อการเล่าเรื่องราวในหนังเรื่องนี้ โดยได้ จัสติน ทิมเบอร์เลค มารับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างบริหารด้านดนตรี และมี 5 เพลงใหม่สำหรับออริจินัล ซาวด์แทร็ก รวมถึงเพลงจาก จัสติน ทิมเบอร์เลค, เกว็น สเตฟานี, แอนนา เคนดริค และอาเรียนา กรานเด

นอกจากนี้ยังมีเพลงฮิตคลาสสิคตั้งแต่ยุค 1960 ไล่มาจนถึงยุค 1980 ที่ถูกนำมาเรียบเรียงใหม่และร้องโดยทีมผู้พากย์เสียงดาราชั้นนำ ได้แก่ แอนนา เคนดริค, จัสติน ทิมเบอร์เลค, คริสโตเฟอร์ มินซ์-พลาส, รัสเซลล์ แบรนด์, ซูอีย์ เดส์ชาเนล, เจฟฟรีย์ แทมบอร์, คริสติน บาแรนสกี, เจมส์ คอร์เดน, คูแนล เนย์ยาร์, รอน ฟันเชส, ไอโคนา ป๊อป, ควาเวนชาเน วอลลิส ร่วมด้วย จอห์น คลีส และ เกว็น สเตฟานี

อ่านครบทั้งเจ็ดข้อแล้ว ขอให้ทุกคนเตรียมตัวไปเก็บเกี่ยวความสุขให้เต็มที่ในโรงภาพยนตร์พร้อมกัน 24 พฤศจิกายนนี้นะครับ

keyboard_arrow_up