เมื่อมีข่าวออกมาว่า The Light Between Oceans ภาพยนตร์รักสะเทือนอารมณ์ที่ใครหลายคนรอคอย เลือกแหลมแคมป์เบล ให้เป็นเกาะเจนัสร็อค ที่ตั้งของประภาคารซึ่งเป็นฉากสำคัญ หลายคนจึงเกิดความสงสัยว่า เมื่อแหลมแคมป์เบลไม่ใช่เกาะ แต่ทำไมถึงเลือกที่นี่เป็นโลเกชั่น ทั้งๆ ที่ในนิวซีแลนด์ก็มีเกาะแก่งอีกมากมายและสวยงามกว่า วันนี้เราหาคำตอบมาให้ทุกคนแล้วครับ
หนังเรื่องนี้ใช้เวลาถ่ายทำยาวนานถึง 45 วัน ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2014 โดยทีมงานยกกองไปถ่ายทำกันที่เมืองมัลโบโรห์ กับโอเทกอน ประเทศนิวซีแลนด์ และเกาะทาสมาเนีย ประเทศออสเตรเลีย หนึ่งในภารกิจสำคัญของการทำหนังเรื่องนี้คือ ความพิถีพิถันในการเลือกหาโลเกชั่นที่จะกลายเป็นเกาะเจนัสร็อค ที่ตั้งของประภาคารซึ่งเป็นฉากหลังที่มีความสำคัญที่สุดของเรื่องนี้
ทำไม The Light Between Oceans ถึงต้องพิถีพิถันและใช้เวลานานมากสำหรับฉากนี้
เมื่อโจทย์ของผู้กำกับหนัง เดเร็ค เชนแฟรนซ์ คือ ต้องการทำให้ผู้ชมได้เข้าใจและเข้าถึงบทประพันธ์มากที่สุด จาเร็ด คอนนอน จึงนำทีมโลเกชั่น โดยตีความจากการเล่าเรื่องผ่านปลายปากกาของ เอ็มแอล สเตดแมน นักเขียนผู้เลื่องชื่อ ที่เล่าถึง
“ทอม เชอร์บอร์น ชายผู้ผ่านการรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 กลับมาอยู่บ้านเกิดที่ประเทศออสเตรเลีย โดยเป็นผู้ดูแลประภาคารบนเกาะเล็กๆ นอกชายฝั่ง ต่อมาเขาได้พบรักและแต่งงานกับ อิสซาเบล และพาไปอยู่ด้วยกันบนเกาะนั้นเพียงสองคน หลังจากทั้งสองผ่านการสูญเสียลูกในท้องไปหลายครั้ง วันหนึ่งก็มีเรือลอยลำมาติดเกาะ บนเรือมีศพชายคนหนึ่งพร้อมเด็กทารกที่ยังมีชีวิตอยู่ สองสามีภรรยาผู้อาภัพลูกตัดสินใจเลี้ยงเด็กคนนี้ในฐานะลูกสาว เมื่อเวลาผ่านไป ทั้งสองก็ได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่บอกว่าลูกสาวของเธอหายไปในเหตุการณ์เรือล่ม จึงเกิดเป็นเรื่องราวดราม่าที่บีบคั้นหัวใจ ในการต่อสู้ระหว่างความถูกต้อง และความรักอันบริสุทธิ์ที่ยากจะปล่อยวางลงได้”
โดยหนึ่งในฉากสำคัญที่หนังเรื่องนี้เล่าถึงคือ เกาะเงียบๆ อันเป็นตำนานชื่อ เกาะเจนัสร็อค เป็นเกาะที่มีส่วนผสมของแสงสว่างกับความมืด ความรักและความเกลียดชัง ความจริงกับความลวง มันเป็นสถานที่แห่งความสุขและความเจ็บปวดในเวลาเดียวกัน เป็นสถานที่ที่มีทั้งชีวิตและการแตกดับ โดยมีประภาคารตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง
โดยทีมงานตามหาประภาคารหลังที่ใช่และตรงตามบทประพันธ์อยู่นานไม่ต่ำกว่า 300 แห่งทั่วออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ในที่สุดพวกเขาก็เจอและเลือกใช้ประภาคารที่แหลมแคมป์เบล (Cape Campbell Lighthouse) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณช่องแคบคุก (Cook Strait) ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นโลเกชั่นหลักของเรื่องนี้
ทำไมทีมงานจึงตัดสินใจใช้ Cape Campbell Lighthouse เป็นฉากหลังที่สำคัญในเรื่องนี้
Cape Campbell Lighthouse เป็นประภาคารความสูง 72 ฟุตแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1870 มีบรรยากาศโดยรอบที่สวยเตะตา ตั้งตระหง่านอยู่ที่ปลายแหลมแคมป์เบล มันจึงดูเหมือนเป็นจุดที่สองมหาสมุทรมาบรรจบกันพอดี ถึงแม้แหลมแคมป์เบลจะไม่ใช่เกาะ แต่มันก็ให้ความรู้สึกเหมือนถูกตัดขาดจากสังคมในเมือง ทางเดียวที่จะเข้ามาได้คือ ทางถนนซึ่งมีหนทางสลับซับซ้อน สถานที่แห่งนี้จึงเหมาะสมและลงตัวที่สุด
ชาว FAVFORWARD คนไหนที่อยากสัมผัสประสบการณ์แห่งความรักที่น่าจดจำ อดใจรออีกไม่นาน เพราะ The Light Between Oceans ได้คิวฉายแล้วในวันที่ 8 ธันวาคมนี้ นอกจากที่ทุกคนจะได้สัมผัสฉากหลังที่สวยงามแล้ว หนังเรื่องนี้ยังหวังว่า คนดูจะได้ถกเถียงกันว่า แต่ละคนจะเห็นตัวเองซ่อนตัวอยู่ในตัวละครตัวไหน ใครทำถูก และทำไมถึงคิดว่าสิ่งที่ตัวละครตัดสินใจเป็นสิ่งที่ถูกอีกด้วย