นาฬิกา CALVIN KLEIN อวดโฉมเรือนเวลา 10 ดีไซน์ใหม่ เอาใจหนุ่มสาวมินิมัลลิสต์ พร้อมเทคนิคการแมตช์นาฬิกาให้เข้ากับเสื้อผ้าในลุคสำหรับวันทำงาน
สำหรับหนุ่มสาวที่กำลังจะเริ่มต้นการทำงาน นอกจากทักษะความสามารถด้านการทำงานแล้ว เรื่องของภาพลักษณ์และบุคลิกก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะการแต่งตัวที่ดีนอกจากจะช่วยให้ดูดีขึ้นแล้วยังสามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้เหล่าผู้ที่พบเห็นได้อีกด้วย ซึ่งนาฬิกาก็เป็นหนึ่งแอคเซสเซอรี่ที่จะช่วยสร้างคาแรคเตอร์ให้กับผู้สวมใส่ได้ โดยล่าสุดแบรนด์นาฬิกาแฟชั่นชั่นชั้นนำระดับโลก ‘คาลวิน ไคลน์’ (CALVIN KLEIN) ภายใต้เครือ สวอทช์ กรุ๊ป (Swatch Group) ได้เปิดตัวนาฬิกาดีไซน์ล่าสุด ที่ผสมผสานเส้นสายการออกแบบที่มีความทันสมัย และยังคงมาตรฐานการผลิตนาฬิกาตามแบบฉบับ Swiss Made จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยการเลือกใช้วัสดุคุณภาพเยี่ยม เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการสวมใส่นาฬิกาเพื่อสร้างคาแรคเตอร์ให้เด่นชัดและน่าเชื่อถือ แต่ยังคงไว้ซึ่งสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์
โดยเรือนเวลาจาก ‘คาลวิน ไคลน์’ (CALVIN KLEIN) ดีไซน์ล่าสุดนั้นมีทั้งหมด 10 รุ่นด้วยกัน โดยแบ่งเป็นรุ่นไฮไลท์ 5 รุ่น เริ่มจาก CALVIN KLEIN Full moon การสร้างเสน่ห์อันเย้ายวนบนข้อมือของหญิงสาว คือแนวคิดหลักของการออกแบบนาฬิการุ่นนี้ ด้วยความแตกต่างของหน้าปัดโอเวอร์ไซส์ ในดีไซน์เรียบง่ายกับสายหนังเส้นเรียวเล็กสีขาว, สีดำ และสีชมพูอันมีเสน่ห์ เป็นการผสมผสานงานดีไซน์ที่เกิดจากความมินิมอลซึ่งเป็นดีเอ็นเอหลักของแบรนด์ เข้ากับความเฟมินีนที่ร่วมสมัยได้อย่างลงตัว โดยมีแรงบันดาลใจหลักจากดวงจันทร์ ซึ่งสะท้อนบนหน้าปัดขัดด้านทรงกลมสีเงินและสีดำ โดยนาฬิการุ่นดังกล่าวสามารถกันน้ำอยู่ที่ระดับ 30 เมตร
ถัดมาที่ CALVIN KLEIN Party โดดเด่นด้วยซิลลูเอทที่ไม่ซ้ำใคร สำหรับนาฬิกาทรงกำไลข้อมือ หน้าปัดเล็กกะทัดรัด ทันสมัยด้วยดีไซน์สายไขว้ที่สวยงามและลงตัว ให้ความรู้สึกอ่อนโยนและสะดุดตา และออกแบบให้สวมใส่สบายรับกับข้อมือ โดยมีให้เลือก 2 ขนาดด้วยกันทั้งขนาด S และ M ในโทนสีสแตนเลส สตีล หรือแบบเคลือบ PVD Rose Gold รวมถึงสีแบบ 2 กษัตริย์ สามารถสวมใส่ให้เป็นได้ทั้งนาฬิกาและเครื่องประดับได้ในขณะเดียวกัน โดยสามารถกันน้ำได้ในระดับ 30 เมตร
ดีไซน์ถัดมาเรือนเวลาสำหรับสุภาพบุรุษ ด้วยแรงบันดาลใจจากความปราณีตและสวยงามของนาฬิกาวินเทจ ออกแบบให้ดูโฉบเฉี่ยวและร่วมสมัย อันเป็นที่มาของชื่อรุ่น CALVIN KLEIN Posh บนตัวเรือนสี่เหลี่ยมที่มีความโค้งมน ผนวกกับหน้าปัดที่มีดีไซน์เรียบง่าย พร้อมสายหนังสีดำ และสีน้ำตาล รวมถึงรุ่นโครโนกราฟที่มีตัวเรือนสแตนเลสสตีล หรือแบบเคลือบ PVD Rose Gold บนหน้าปัดแบบขัดด้านสีเงินหรือสีดำ สามารถกันน้ำได้ที่ระดับ 30 เมตรสำหรับรุ่นธรรมดา และ 50 เมตรสำหรับรุ่นโครโนกราฟ
ต่อมาที่ CALVIN KLEIN Achieve เรือนเวลาสำหรับสุภาพบุรุษผู้ทันสมัย ซึ่งมีบุคลิกเปิดเผยและตรงไปตรงมา ด้วยดีไซน์ที่สื่อถึงความเป็นอเมริกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ จากการออกแบบให้สอดคล้องกับเทรนด์วินเทจย้อนยุค โดยเป็นการรวมกันอย่างลงตัวของนาฬิกาแบบ 3 เข็ม และแบบโครโนกราฟ รวมถึงแบบสายสเตนแลสสตีล พร้อมปุ่มกดจับเวลา หรือรุ่นสายหนังเดินตะเข็บ ซึ่งสามารถกันน้ำได้ 30 เมตรสำหรับรุ่นธรรมดา และ 50 เมตรสำหรับรุ่นโครโนกราฟ
และการกลับมาอีกครั้งของความคลาสสิคตลอดกาล CALVIN KLEIN Minimal นาฬิการุ่นยอดนิยมซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากชิ้นงานวินเทจดีไซน์คลาสสิค เหมาะสำหรับผู้ที่มีสไตล์ร่วมสมัย นำเสนอทั้งรุ่นสำหรับคุณสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ โดดเด่นบนหน้าปัดอันงดงามสีเงิน ซึ่งนาฬิการุ่นนี้มีสีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สแตนเลสสตีล, PVD Yellow Gold, PVD Pink Gold บนสายถักตาข่ายรุ่นใหม่ ซึ่งเข้ากันได้ดีกับทุกลุค และยังคงคอนเซ็ปต์ความเรียบง่ายมีสไตล์ โดยตัวเรือนมีให้เลือก 2 ขนาดด้วยกัน ได้แก่ขนาดเล็กสำหรับผู้หญิง และขนาดกลางสำหรับยูนิเซ็กส์ ซึ่งสามารถกันน้ำได้ในระดับ 30 เมตร
รวมถึงงานดีไซน์รุ่นอื่นๆ ที่ทางแบรนด์ได้คิดค้นมาเพื่อตอบโจทย์หนุ่มสาวในสไตล์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น CALVIN KLEIN Cheers แรงบันดาลใจจากตึกสูงระฟ้า ถ่ายทอดสู่งานดีไซน์รูปทรงเรขาคณิตในรูปแบบของสายนาฬิกาที่ตกแต่งด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ ซึ่งสามารถสวมใส่ได้เหมือนเครื่องประดับที่เข้ากันได้ดีกับทุกลุค บนหน้าปัดดีไซน์เรียบโก้ดูสะอาดตาที่มาในโทนสีเงิน, สีดำ, สีชมพูฟุกเซีย, สีน้ำเงินมอนทาน่า และสีเขียวมรกต ที่ล้อมกรอบตัวเรือนด้วยสแตนเลสสตีล ซึ่งสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 30 เมตรด้วยกัน
รุ่นต่อมา CALVIN KLEIN City ดีไซน์ไอคอนที่เป็นอมตะเหนือการเวลาเหมาะสำหรับวิถีชีวิตที่มีความทันสมัย ในรูปลักษณ์หน้าปัดวงกลมที่มีสีเงิน, สีดำ และสีน้ำเงินล้อมกรอบตัวเรือนด้วยสแตนเลสสตีลขัดเงา เพิ่มลูกเล่นด้วยเทคนิคการปั๊มลายเส้นแนวนอนลงบนหน้าปัดของนาฬิกา ซึ่งนาฬิกาสำหรับสุภาพบุรุษนี้จับคู่มากับสายหนังสีดำคลาสสิค และสายสแตนเลสสตีลขัดเงา สร้างคาแรคเตอร์ที่เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์แห่งความเรียบโก้อย่างลงตัว โดยสามารถกันน้ำได้ในระดับ 30 เมตร
ต่อมาที่รุ่น CALVIN KLEIN Classic Too นาฬิการุ่นคลาสสิคซิกเนเจอร์ประจำแบรนด์ ที่ซีซั่นนี้มาในงานดีไซน์ที่มีความร่วมสมัยจากวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ด้วยเทคนิคการผลิตแบบ Clear-cut ด้วยกรอบหน้าปัดที่ทำจากสแตนเลสสตีลขัดเงาในดีไซน์โค้งมนแต่มีสมดุล เผยเสน่ห์อันลุ่มลึกด้วยหน้าปัดสีดำที่ขับเน้นด้วยโลโก้ “CALVIN KLEIN” ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ซึ่งนาฬิการุ่นดังกล่าวกันน้ำอยู่ที่ระดับ 30 เมตร
CALVIN KLEIN Evidence สดใสและมีชีวิตชีวา แรงบันดาลใจจากสีสันบนแคทวอล์คของ CALVIN KLEIN ได้ถูกนำมา สร้างสรรค์เป็นเรือนเวลาแนวสปอร์ต เหมาะสำหรับชายหนุ่มผู้ทันสมัย ด้วยฐานตัวเรือนที่ออกแบบให้มีลูกเล่น สอดคล้องกับสายรับเบอร์ปั๊มลายเส้นตรง โดดเด่นและทรงพลังด้วยสีสันอย่างสีแดง, สีเขียว สีดำ และสีน้ำเงิน โดยกันน้ำได้ 30 เมตร
ปิดท้ายที่ CALVIN KLEIN Rebel บนดีไซน์สดใสและขี้เล่นที่มีแรงบันดาลใจจากคอลเลกชั่นเสื้อผ้าลายทางอันเป็นซิกเนเจอร์ประจำซีซั่นนี้ของ CALVIN KLEIN โดยนำเสนอใน 5 สไตล์อันแตกต่าง ด้วยหน้าปัดขนาดใหญ่บนสายหนังนุ่มขนาดเรียวเล็ก เพื่อตอบรับทุกลุคให้โดดเด่นด้วยแถบสี และสายหนังสีขาว, สีแดง, สีน้ำเงิน และสีครีม ตัดกันกับหน้าปัดสีดำ, สีน้ำเงิน และสีเงิน บนตัวเรือนสแตนเลสสตีล หรือแบบเคลือบ Black PVD เหมาะสำหรับหญิงสาวผู้มีบุคลิกอันโดดเด่นและมีความเป็นตัวของตัวเอง โดยกันน้ำได้ 30 เมตร
แมตช์อย่างไรให้เหมาะกับวันทำงาน
สำหรับหนุ่มสาวทำงานยุคใหม่การเลือกนาฬิกาดีๆ มาสวมใส่สักเรือนก็เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เพราะนอกจากจะใช้เป็นเครื่องบอกเวลาแล้ว ยังสามารถใส่ให้เป็นเครื่องประดับเพื่อบ่งบอกถึงรสนิยมและเพิ่มความน่าเชื่อถือได้อีกด้วย ซึ่งหลักการเลือกนาฬิกาที่จะช่วยเสริมบุคลิกนั้นเราควรให้ความสำคัญกับดีไซน์เป็นหลัก โดยอาจจะเลือกนาฬิกาจากโทนสีเบสิคอย่างสีขาว สีดำ หรือสีน้ำเงินเข้ม เพื่อให้เข้ากับเสื้อผ้าได้หลากหลาย และสามารถใช้ได้หลายโอกาส ซึ่งหน้าปัดทรงกลมถือเป็นทรงที่ใส่ง่ายและคลาสสิคที่สุดสำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่ถ้าผู้หญิงข้อมือเล็กการเลือกใส่นาฬิกาสายหนังหรือสายสแตนเลสแล้วต้องตัดสายก็อาจจะทำให้ดีไซน์ของนาฬิกาเปลี่ยนไป ฉะนั้นอาจจะลองมาใส่นาฬิกาที่เป็นแบบกำไลเพราะจะช่วยทำให้ข้อมือดูน่ารักขึ้นและไม่เทอะทะ แต่ถ้าเป็นคนข้อมือใหญ่สามารถใส่นาฬิกาได้เกือบทุกแบบแต่ไม่ควรเลือกเรือนที่หน้าปัดเล็กเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้ข้อมือดูใหญ่ขึ้นไปอีก