มันมีเรื่องราว ทำไมเราต้องมี “เสื้อเชิ้ตขาวผู้ชาย” เป็นชิ้นเบสิกที่มีติดตู้เสื้อผ้า

ทำไมเราต้องมี “เสื้อเชิ้ตขาวผู้ชาย” เป็นชิ้นเบสิกที่มีติดตู้เสื้อผ้า

ไม่ใช่แค่ดูดีในทุกโอกาส แต่ เสื้อเชิ้ตขาวผู้ชาย มีที่มาและถือเป็นประวัติศาสตร์ตั้งแต่อดีต ค่านิยม รสนิยมแบบไหนที่ทำให้กลายมาเป็น 1 ในไอเท็มที่ต้องมีติดตู้เสื้อผ้า

เสื้อสีขาวเป็นหนึ่งในเสื้อผ้าเก่าแก่ที่สุด ที่ถูกสวมใส่โดยสุภาพบุรุษ ตั้งแต่ก่อนยุคกลาง เสื้อขาวเป็น 1 ในเสื้อของสุภาพบุรุษที่ต้องมีในตู้เสื้อผ้า โดยออกแบบให้อยู่ในรูปทรงของชุดชั้นในหรือชุดสำหรับใส่นอน เสื้อผ้าในสมัยนั้นส่วนใหญ่มักจะทำจากผ้าไหมหรือผ้าลินิน แต่ตั้งแต่ทศวรรษ 1950 เป็นต้นมา ผ้าไนลอนถูกนำมาใช้กับการตัดเย็บมากขึ้น

เมื่อถึงยุค 1800 เสื้อเชิ้ตสีขาวไม่ได้สวมใส่เป็นชุดชั้นในอีกต่อไป แต่ได้รับการตกแต่งด้วยงานปักและผ้าลูกไม้ให้ดูร่วมสมัยมากขึ้น สังเกตได้จากการแต่งตัวของโรบินฮู้ดหรือแม้กระทั่งเชคสเปียร์และเพื่อนของเขา

ในตอนท้ายของช่วงสงครามโลก รูปแบบเสื้อสีขาวถูกพัฒนาจนกระทั่งมีกระดุมกลัดเสื้อและดัดแปลงสไตล์ให้สวมใส่ง่ายขึ้น จนกระทั่งในปี 1871 ช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและปี 1910 กองทัพเรือเริ่มใส่เสื้อผ้าฝ้ายแบบไม่มีปกเป็นซับในของชุด

ในปี 1930 ปกคอเสื้อเริ่มเข้ามามีบทบาทและถูกสอดแทรกอยู่ในชุดของผู้ชายสมัยนั้น จนหลายๆ แบรนด์หยิบมาปรับทิศทางใหม่ได้รับความนิยม ในปี 1950 เสื้อเชิ้ตแขนสั้นได้ถือกำเนิดขึ้น ถ้ายังจำกันได้ ไอคอนนิกที่ใส่สมัยนั้นได้แก่ เจมส์ ดีน กับสไตล์ม้วนแขนแบบร็อคๆ จนกลายเป็นที่ฮือฮาในวงการแฟชั่น

วันนี้รูปแบบการดีไซน์เสื้อสีขาวเปลี่ยนไป ให้ดูทันสมัยอย่างไม่มีที่สิ้นสุดไปตามยุคสมัย ปกเสื้อถูกครีเอตดีไซน์ในรูปแบบที่แตกต่างกัน เช่นเดียวกับชนิดของผ้า และคัตติ้งที่ให้เหมาะสมกับบุคลิกมากยิ่งขึ้น

3 วิธีลัดใส่เสื้อเชิ้ตขาว

  • คลาสสิก: แค่ใส่เสื้อเชิ้ตขาวผูกเน็คไทสีดำหรือสีเทา กับ กางเกงสูทสีดำ
  • แคตชวลสวมใส่สบาย ๆ : ใส่เชิ้ตกับกางเกงยีนส์สี indigo หรือกางเกงขาสั้นสีขาวและเข็มขัดหนังสีน้ำตาล
  • ใส่สำหรับซัมเมอร์: จับคู่เสื้อแขนสั้นสีขาวกับกางเกงขาสั้นสไตล์ชิโน เและรองเท้า Boat shoes สีน้ำตาล
keyboard_arrow_up